🔴มาลาริน/10พ.ย.พบโควิด3รายจาก ตปท.1ราย ในปท./ไทม์ไลน์ทูตติดโควิด /ข่าวดีวัคซีน/ยังไม่กักตัว10วัน/ยันใช้สนามกอล์ฟ

🔴ด่วน!!! พบติดเชื้อ‘โควิด’ในไทยที่กทม. 1 ราย เป็นนักการทูตฮังการี นำเข้าอีก 3 ราย



เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 4 ราย แยกเป็น ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine 3 ราย โดยมาจาก....✏

สหรัฐอเมริกา 1 ราย , อินเดีย 1 ราย และสวีเดน 1 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 1 ราย ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,844 ราย หายป่วยแล้ว 3,670 ราย เสียชีวิตสะสม 60 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ มีรายละเอียดดังนี้....✏
 
1.สหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นเพศชาย สัญชาติอเมริกัน อายุ 50 ปี อาชีพผู้จัดการบริษัทเอกชน

2.อินเดีย 1 ราย เป็นเพศชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 38 ปี อาชีพพนักงานโรงแรม
 
3.สวีเดน 1 ราย เพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 27 ปี อาชีพพนักงานทำความสะอาด

4.ผู้ติดเชื้อในประเทศไทย อาศัยอยู่ใน กทม. เพศชาย สัญชาติ
ฮังการี อายุ 53 ปี อาชีพนักการทูต มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563

https://www.naewna.com/local/530877

🔴กรมควบคุมโรค เผย ทูตฮังการี ในไทย ติดเชื้อโควิด-19 จาก รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี หลังร่วมต้อนรับ อีก 17 คน ผลลบ ขณะ ผลตรวจผู้ใกล้ชิดชายอินเดีย ไม่พบเชื้อ


 
 นพ.โสภณ ระบุถึงการติดตามผู้สัมผัสกรณีชาวฮังการีติดโควิด-19 จากผลการสอบสวนโรคพบ มีประวัติอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงกรณีรัฐมนตรีประเทศฮังการี ที่เดินทางมาเป็นแขกรัฐบาลเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ที่ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน และเดินทางกลับประเทศต้นทางในวันเดียวกัน กรณีดังกล่าวทำให้มีสัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 18 ราย ประกอบไปด้วย ทีมอารักขาความปลอดภัย และนักการทูตฮังการีประจำประเทศไทยให้การต้อนรับ ผลตรวจพบว่า นักการทูตฮังการีประจำประเทศไทยติดเชื้อโควิด-19 และอีก17 รายไม่พบเชื้อ
จากผลการสอบสวนโรคนักการทูตรายนี้ไม่พบผู้สัมผัสเนื่องจากมีการแยกกักตัวรวมภารกิจต้อนรับรัฐมนตรีฮังการีตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน โดยพบว่า มีการเดินทางด้วยรถคันเดียวกันและร่วมรับประทานอาหารกับรัฐมนตรีฮังการี เป็นเวลา 30 นาที ซึ่งถือว่า รายนี้เป็นการติดเชื้อภายในประเทศไทย ซึ่งทราบที่มาชัดเจน ขณะนี้เข้ารับการรักษาตัวสถาบันที่บำราศนราดูร โดยเป็นการติดเชื้อไม่แสดงอาการ



ผลสอบสวนโรคผู้สัมผัสชายชาวอินเดียติดโควิด ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 
นพ.โอภาส การ์ยกวินพงศ์ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ ถึงกรณีคืบหน้าผลสอบสวนโรค ชายชาวอินเดีย จ.กระบี่ ที่ติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้น ผลทางห้องปฏิบัติการออกครบหมดแล้ว ภรรยา น้องชาย น้องสะใภ้ และหลานชาย ผลลบทั้งหมด คือไม่ติดเชื้อ แต่ผลตรวจเลือด หรือผล IGG พบว่าภูมิคุ้มกันขึ้นทั้ง 3 ราย ซึ่งการที่ภูมิคุ้มกันขึ้นนั้น คาดว่า ติดเชื้อมานานแล้ว แต่ไม่แพร่เชื้อ เนื่องจากปริมาณเชื้อน้อย และยังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาที่มาของการติดเชื้อ ขณะที่ ผลการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อ ชายชาวอินเดีย ยังออกไม่ครบ

รักษาราชการแทน อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุอีกว่า คาดว่าชายชาวอินเดียจะรับเชื้อก่อน ก่อนที่อีก 3 คนในครอบครัวจะรับเชื้อ โดยโอกาสแพร่เชื้อสู่คนอื่นค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่แสดงอาการและปริมาณเชื้อน้อย โดยทุกคนในครอบครัว อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังโรค 14 วัน ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสในกลุ่มอื่น ๆ อีกกว่า 280 ราย ผลเป็นลบและยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่มเติม

สำหรับสถานการณ์ ในจังหวัดกระบี่ จากการพูดคุยกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ทราบว่า ประชาชนยังคงมีการคุมเข้มมาตรการสาธารณสุข และสถานการณ์ทั่วไปอยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งในทางทฤษฎี ผลตรวจเลือด หรือผล IGG เบื้องต้นจะอยู่ได้นาน 6 เดือน-1ปี แต่ไม่มีผลในการแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่น เนื่องจากโอกาสในการแพร่เชื้อนั้น จะอยู่ในระยะ8 วัน

หลังจากนี้ ทุกรายที่ติดเชื้อโควิด-19 จะทำการเจาะเลือดตรวจทุกราย เพื่อตรวจหาภูมิคุ้มกันด้วย ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยว STV 3 รุ่น 261 ราย ทั้งหมด เข้าสู่การเฝ้าระวังโรค14 วัน จนครบ และไม่มีการพบเชื้อ
 
ไทยเตรียมเข้าพบ บ.ไฟเซอร์ ขอข้อมูลพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ในประเทศ
นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ระบุถึงความคืบหน้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า จากบริษัทไฟเซอร์ ที่ได้ผลวิเคราะห์เบื้องต้น ถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีแนวโน้มประสิทธิผลในการป้องกันถึงร้อยละ90 บ่งบอกได้ว่า.....✏

1.วิทยาศาสตร์ที่ได้ค้นคว้ากันมา มีความหวังอย่างมากในการได้วัคซีนป้องกัน ทำให้หลายบริษัทกว่า30 บริษัท ที่เริ่มทดลองในมนุษย์มีความหวังขึ้นมาในการผลิตวัคซีน

2.ทำให้ รูปแบบการพัฒนา วัคซีนชนิด mRNA ของจุฬาฯ มีความหวังอย่างมาก ซึ่งอยู่ในกระบวนการพัฒนาที่ไม่ต่างจาก บริษัทไฟเซอร์ ของสหรัฐฯ แต่การพัฒนาวัคซีน บริษัทไฟเซอร์ ยังคงต้องทดลองในมนุษย์ระยะต่อไป

3.ทำให้รู้ว่าวัคซีน ชนิดmRNA ที่กำลังพัฒนามีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ทำให้ไทย มีความเชื่อมั่นมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามผลการทดลองต่อ เบื้องต้นทางบริษัทไฟเซอร์ มีเป้าหมายในการฉีดวัคซีน43,000 ราย โดยมี 38,000 ราย ได้รับวัคซีนไปแล้วในจำนวนนี้ กว่า 10,000 ราย ได้ประสิทธิผล ออกมาดี ต่อจากนั้นต้องติดตามว่าประสิทธิผล ที่บอกว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 90 จะอยู่ได้นานขนาดไหน ภูมิคุ้มกันในอาสาสมัคร ที่ได้รับวัคซีนมีประสิทธิผลมากน้อยขนาดไหน ซึ่งจะต้องติดตามต่อไป
 
นพ. นคร เปรมศรี ระบุอีกว่า ประเทศไม่ได้มีความร่วมมือกับทาง บริษัทไฟเซอร์ แต่มีการประสานเพื่อขอร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลการผลิตวัคซีนในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ชัดว่าจะมีการสั่งจองล่วงหน้าได้หรือไม่ ส่วนแผนการพัฒนา วัคซีน ชนิด mRNA ชองจุฬาฯ ยังคงยืนยันตามกรอบแผนเดิมที่จะเริ่มทดลงในมนุษย์ระยะ1 ในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 โดยโรงงานผลิตวัคซีนตัวแบบต่างประเทศ จะส่ง วัคซีนต้นแบบ 10,000 โดส ให้ จุฬาฯ ในต้นเดือนมกราคมปีหน้า 

ขณะที่กลุ่มเป้าหมายแรกที่จะได้รับการทดลอง วัคซีนต้นแบบ คือ กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโควิด-19 สูง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ของคณะทำงานจัดลำดับ โดยคาดว่า จะมีความชัดเจนของกลุ่มที่จะได้รับการทดสอบวัคซีน ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ แต่คาดว่า จะไม่ถึง จำนวน 30 ล้านคน ตามที่ได้มีการวางแผนไว้

จากนั้นหลังการทดลองในมนุษย์ระยะ 1 (ม.ค.-ก.พ) แล้วเสร็จ ถัดไป 6 เดือน – 9 เดือน ก็จะเริ่มทดลองในมนุษย์ระยะที่ 2 ส่วนการทดลองระยะ 3 ในมนุษย์ จะสามารถเริ่มวางแผนได้ หลังทราบผลการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 1

https://www.innnews.co.th/social/news_816601/

🔴ข่าวดี!'หมอ ยง'ชี้ถ้ามีวัคซีนประสิทธิภาพสูงหลายตัว ก็เห็นแสงสว่างในการควบคุมโควิดได้ภายในปีหน้า



10 พ.ย.63-ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า    วัคซีนโควิด-19 ใกล้จุดหมายปลายทาง
วันนี้เราได้ข่าวดีเบื้องต้นของ mRNA วัคซีนบริษัท “ไฟเซอร์ อิงค์” กับ “ไบโอเอ็นเทคฯ” ถึงประสิทธิภาพของโควิดวัคซีน ประมาณ 90%
 
จากการศึกษายังไม่ครบ กำหนดในอาสาสมัครกว่า 40,000 คน การศึกษาจะแบ่งกลุ่มเป็นให้วัคซีนโควิด และวัคซีนหลอก โดยผู้ฉีดและผู้รับวัคซีน ก็ไม่รู้ว่าได้วัคซีนจริงหรือหลอก และติดตามการติดเชื้อ แล้วมาคำนวนว่าถ้าฉีดวัคซีนติดเชื้อกี่คน วัคซีนหลอกติดเชื้อกี่คน มาคิดประสิทธิภาพเป็นเปอร์เซ็นต์ในการป้องกันได้ถึง 90% ก็นับว่าดีมาก

การทดลองยังไม่เสร็จ และจำนวนผู้ติดเชื้อไปแล้วจาก 40,000 คน คือ 94 คน ยังน้อยเกินกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ ว่าจำนวนผู้ที่ติดเชื้อรอให้ถึง 164 หรือน่าจะรอถึงเดือนหน้าก็คงรู้ประสิทธิภาพที่แท้จริง

วัคซีนที่อยู่ในระยะที่ 3 ทั้งชนิดเชื้อตาย วัคซีนที่ใช้ไวรัสเวกเตอร์ และ mRNA 
วัคซีนมี 10 ตำรับที่อยู่ในระยะที่ 3 ทำการศึกษาแบบเดียวกัน จะออกผลในเดือนหน้าอีกหลายตำรับ และก็คงจะเห็นผลกันชัดเจนขึ้น

โดยปกติ RNA เป็นอนุภาคที่สลายตัวง่าย จำเป็นต้องห่อให้เป็น nanoparticle ด้วยไขมัน

วัคซีนนี้จะยากในการเก็บรักษา ขบวนการควบคุมความเย็น โดยเฉพาะต้องส่งในสภาพแช่แข็ง -20°C การใช้ในประเทศยากจนจะยากลำบาก

วัคซีนเชื้อตายที่จริงผลิตยังรอประสิทธิภาพอยู่ น่าจะเก็บควบคุมอุณหภูมิที่ 4°C ได้ ก็จะง่ายต่อการใช้

ส่วนไวรัสเวกเตอร์ที่จะส่งเทคโนโยลีมาผลิตที่ไทย ก็จะง่ายต่อการนำไปใช้
ถ้ามีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงหลายตัว ก็เห็นแสงสว่างในการควบคุมโควิดให้ได้ภายในปีหน้า (2564)

https://www.thaipost.net/main/detail/83358



🔴10 พฤศจิกายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ และมีการติดเชื้อจากกลุ่มคนที่ได้รับสิทธิพิเศษ จะมีมาตรการดูแลอย่างไร ว่า ไม่ต้องกังวล เพราะระบบการคัดกรอง การตรวจพบ ทั้งการรักษาของเรามีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว แต่ต้องเพิ่มความเข้มข้นของการตรวจ และการที่ตรวจเจอแสดงให้เห็นว่าระบบของเรายังทำงาน

เมื่อถามถึงการลดจำนวนวันของการกักตัวยังอยู่ในแผนที่จะยังดำเนินการหรือไม่ เพราะมีการตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างการกักตัว นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้เราต้องเน้นที่ต้นทางมากกว่า ตนได้หารือกับทางเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า คนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยต้องตรวจโควิด-19 ก่อน ซึ่งทุกคนบอกว่าตรวจมาหมดแล้ว แต่ทำไมยังติดเชื้อในประเทศแทบทุกไฟล์ทบิน สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เพราะเราเป็นปลายทาง จึงต้องย้ำไปที่สายการบินต้นทางหรือสถานเอกอัครราชทูตต้นทางของเราที่อนุมัติให้คนเดินทางเข้ามา คงจะต้องมีมาตรการเพิ่มมากขึ้นกว่านี้

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนการลดวันกักตัวนั้นยังอยู่ในกระบวนการ โดยทางแพทย์เชื่อว่า 10 กับ 14 วัน ไม่ได้มีข้อแตกต่างกัน ซึ่งเราก็ให้ความสนใจกับความรู้สึกประชาชน อย่างตอนนี้มีกรณีติดเชื้อในสถานที่กักกันของรัฐมากขึ้น เราก็ยังคงต้องใช้การกักตัว 14 วันเหมือนเดิม จนกว่าจะเกิดความสบายใจ แต่ไม่เกี่ยวกับความน่ากังวล ไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวลอะไร ส่วนจะกระทบกับแผนท่องเที่ยวหรือไม่นั้น ก็ต้องให้ความสนใจกับคนไทยก่อน

https://www.naewna.com/local/530938

🔴บิ๊กตู่'ยอมรับเปิดสนามกอล์ฟกักโควิดนักท่องเที่ยวต่างชาติจริง ลั่นถ้าไม่ทำอะไรเลย ธุรกิจพัง



10 พ.ย.63- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีการเปิดสนามกอล์ฟเป็นสถานที่กักกันโรคของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากมีสนามกอล์ฟบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐมนตรีและนักการเมืองในส่วนของรัฐบาลว่า อยากบอกว่าไม่ว่าจะสนามกอล์ฟไหนก็ตาม คิดว่าเป็นเรื่องของผู้ที่จะเข้ามาจะเป็นผู้เลือกเอง เขาอยากจะมาตรงไหนก็มาตรงนั้น แต่ที่พิจารณาร่วมกันเขาเห็นว่าเป็นพื้นที่ปิด มีโรงแรมด้วย มีสนามกอล์ฟด้วย ก็คงต้องหามาตรการที่จะรองรับในสิ่งเหล่านี้ 

https://www.thaipost.net/main/detail/83374

เป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเชื้อนำเข้าจากตปท.

แต่ก็มีข่าวดีจากวัคซีนนะคะ

ไม่ประมาทการ์ดอย่าตกค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่