คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
อัพเดทนะคะ
หลังจากเราหาข้อมูลอยู่นานก็ตัดสินใจเรียนกับสถาบันแห่งหนึ่ง ตอนนี้จบครอส 6 เดือนที่เราซื้อไว้แล้ว คะแนนที่เราทดสอบกับทางสถาบัน จากเริ่มแรก 200-300กว่าๆ เป็น 500 กว่าๆค่ะ (คะแนนเราค่อยๆขึ้นมาแบบไต่ระดับค่ะ เพราะพื้นฐานเราอ่อนมากจริง ค่อยๆปรับค่อยๆแก้ตัวเองไป) และยังทำข้อสอบกับสถาบันผ่าน zoom ไปเรื่อยๆจนกว่าTOEIC ในกทม.จะเปิดให้สอบ และสอบจริงแล้วค่ะ (หากใครสนใจอยากเรียนที่นี่ อยากทราบชื่อทักหลังไมค์ได้นะคะ)
ข้อดีของสถาบันนี้
1. พี่ๆแอดมิดที่สาขาเป็นกันเอง และพร้อมช่วยเหลือทุกอย่างมาก ทั้งติวปรับพื้นฐาน ให้ทำข้อสอบ ตรวจและอธิบายแต่ละข้อให้ หาเอกสาร/ไฟล์เสียงเพิ่มเติมให้เราฝึกฟัง/อ่าน
2.ปรับพื้นฐานใหม่ทั้งหมด ทั้ง Grammar , Vocabulary , Sentence Writing , Pronunciation , Conversation (Conversation เรียนกับเจ้าของภาษา
3.หลังจากคลาสพื้นฐานจบจะได้เรียนคลาสติว TOEIC , IELTS , สอบต่างๆ และคลาสทั้งหมดเป็นคลาสสอนสด+มีคลิปให้ดูล่วงหน้า/ทบทวน
4.หลังจบคลาสพื้นฐานแล้ว เวลาเรียนเรายังเหลือ สามารถปรึกษาพี่แอดมิน เลือกวิชาที่เวลาเรียนไม่ซ้ำกันลงเองได้ จะลงคลาสพื้นฐานซ้ำเพื่อให้แน่น หรือจะลง conversation ในระดับที่ยากขึ้นก็ได้ ถ้าขยันก็ลงให้เต็มตารางได้เลย
5.ระหว่างเรียนจะมีให้ฝึกทำข้อสอบเรื่อยๆ แล้วบันทึกผลแนวโน้มของเรา ส่วนที่ไม่เข้าใจพี่แอดมิดจะช่วยสอน
6.หลังหมดครอสพี่แอดมินจะยังนัดเราทำข้อสอบผ่าน zoom สัปดาห์ละครั้ง มีอธิบายเพิ่มข้อที่เรายังสงสัย จนกว่าเราจะได้สอบจริง
7.ที่ๆเราเรียนเป็นโซนวัยทำงาน จึงได้รู้จักพี่ๆหลายคน(ที่สนิท3-4คน) ได้ความรู้ ช่องทางการทำงาน คอลเลคชั่นเล็กๆน้อยๆ จากพี่ๆเขา
ข้อเสีย
1.เรียนรวม ไม่มีการแยกระดับ สำหรับคนที่พื้นฐานอ่อนมากๆและแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเลยอย่างเราตอนนี้ หลายครั้งจะทำให้รู้สึกกดดันมาก โดยเฉพาะเรื่อง Vocabulary กับ Pronunciation (ตอนที่เรียนเราอ่อนสุดในสถาบัน😂)
2.คนที่ลงครอส 3 เดือนเวลาจะพอแค่พื้นฐาน จะไม่ได้คลาสข้อสอบเท่าไร (ถ้าพื้นฐานดีอยู่แล้วก็น่าจะขอเขาข้ามคลาสพื้นฐานได้) จะไม่เหมือนสถาบันที่เน้นข้อสอบ ที่ฝึกทำข้อสอบไปเลย
3.พอเจอโควิดระบาดหนัก ต้องเปลี่ยนเป็นเรียนออนไลน์ ทำให้คลาส conversation ลดลง การสื่อสารกันน้อยลง และอุปสรรคอีกหลายเรื่อง(ข้อนี้คิดว่าเป็นทุกสถาบัน) แต่ก็แอบมีข้อดีคือ
สถาบันขยายเวลาเพิ่มให้เดือนกว่าๆ
ปล.สำหรับคนที่เป็นแบบเราคือ เราเคยไม่เอาภาษาอังกฤษเลย เพลงสากลก็ไม่ชอบฟัง หนังพาทย์อิ้งก็ไม่ชอบดู ไม่เอาอะไรเลย จนอ.ท่านหนึ่งที่นี่บอกเราให้บังคับตัวเอง ฝืนแค่ไหนก็เอาตัวเองไปคลุกคลี เพราะเราไม่ได้ทำงานกับต่างชาติ ไม่ได้มี้พื่อนมีแฟนเป็นต่างชาติ ถ้าเราไม่เริ่มก็จะไม่มีวันได้ เรียนไปเดี๋ยวก็จะลืม
แล้วเราก็เริ่มจากฟังเพลงสากลมา2เดือนแล้ว แรกๆก็ฝืนและไม่ค่อยเชื่อว่าแค่ฟังเพลงจะช่วยได้ ตอนนี้เชื่อแล้ว ตอนนี้พาร์ทฟัง เราฟังออกขึ้นเยอะ อาจจะยังไม่เก่ง แต่ก็ดีขึ้นจริงๆ
หลังจากเราหาข้อมูลอยู่นานก็ตัดสินใจเรียนกับสถาบันแห่งหนึ่ง ตอนนี้จบครอส 6 เดือนที่เราซื้อไว้แล้ว คะแนนที่เราทดสอบกับทางสถาบัน จากเริ่มแรก 200-300กว่าๆ เป็น 500 กว่าๆค่ะ (คะแนนเราค่อยๆขึ้นมาแบบไต่ระดับค่ะ เพราะพื้นฐานเราอ่อนมากจริง ค่อยๆปรับค่อยๆแก้ตัวเองไป) และยังทำข้อสอบกับสถาบันผ่าน zoom ไปเรื่อยๆจนกว่าTOEIC ในกทม.จะเปิดให้สอบ และสอบจริงแล้วค่ะ (หากใครสนใจอยากเรียนที่นี่ อยากทราบชื่อทักหลังไมค์ได้นะคะ)
ข้อดีของสถาบันนี้
1. พี่ๆแอดมิดที่สาขาเป็นกันเอง และพร้อมช่วยเหลือทุกอย่างมาก ทั้งติวปรับพื้นฐาน ให้ทำข้อสอบ ตรวจและอธิบายแต่ละข้อให้ หาเอกสาร/ไฟล์เสียงเพิ่มเติมให้เราฝึกฟัง/อ่าน
2.ปรับพื้นฐานใหม่ทั้งหมด ทั้ง Grammar , Vocabulary , Sentence Writing , Pronunciation , Conversation (Conversation เรียนกับเจ้าของภาษา
3.หลังจากคลาสพื้นฐานจบจะได้เรียนคลาสติว TOEIC , IELTS , สอบต่างๆ และคลาสทั้งหมดเป็นคลาสสอนสด+มีคลิปให้ดูล่วงหน้า/ทบทวน
4.หลังจบคลาสพื้นฐานแล้ว เวลาเรียนเรายังเหลือ สามารถปรึกษาพี่แอดมิน เลือกวิชาที่เวลาเรียนไม่ซ้ำกันลงเองได้ จะลงคลาสพื้นฐานซ้ำเพื่อให้แน่น หรือจะลง conversation ในระดับที่ยากขึ้นก็ได้ ถ้าขยันก็ลงให้เต็มตารางได้เลย
5.ระหว่างเรียนจะมีให้ฝึกทำข้อสอบเรื่อยๆ แล้วบันทึกผลแนวโน้มของเรา ส่วนที่ไม่เข้าใจพี่แอดมิดจะช่วยสอน
6.หลังหมดครอสพี่แอดมินจะยังนัดเราทำข้อสอบผ่าน zoom สัปดาห์ละครั้ง มีอธิบายเพิ่มข้อที่เรายังสงสัย จนกว่าเราจะได้สอบจริง
7.ที่ๆเราเรียนเป็นโซนวัยทำงาน จึงได้รู้จักพี่ๆหลายคน(ที่สนิท3-4คน) ได้ความรู้ ช่องทางการทำงาน คอลเลคชั่นเล็กๆน้อยๆ จากพี่ๆเขา
ข้อเสีย
1.เรียนรวม ไม่มีการแยกระดับ สำหรับคนที่พื้นฐานอ่อนมากๆและแทบจะไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันเลยอย่างเราตอนนี้ หลายครั้งจะทำให้รู้สึกกดดันมาก โดยเฉพาะเรื่อง Vocabulary กับ Pronunciation (ตอนที่เรียนเราอ่อนสุดในสถาบัน😂)
2.คนที่ลงครอส 3 เดือนเวลาจะพอแค่พื้นฐาน จะไม่ได้คลาสข้อสอบเท่าไร (ถ้าพื้นฐานดีอยู่แล้วก็น่าจะขอเขาข้ามคลาสพื้นฐานได้) จะไม่เหมือนสถาบันที่เน้นข้อสอบ ที่ฝึกทำข้อสอบไปเลย
3.พอเจอโควิดระบาดหนัก ต้องเปลี่ยนเป็นเรียนออนไลน์ ทำให้คลาส conversation ลดลง การสื่อสารกันน้อยลง และอุปสรรคอีกหลายเรื่อง(ข้อนี้คิดว่าเป็นทุกสถาบัน) แต่ก็แอบมีข้อดีคือ
สถาบันขยายเวลาเพิ่มให้เดือนกว่าๆ
ปล.สำหรับคนที่เป็นแบบเราคือ เราเคยไม่เอาภาษาอังกฤษเลย เพลงสากลก็ไม่ชอบฟัง หนังพาทย์อิ้งก็ไม่ชอบดู ไม่เอาอะไรเลย จนอ.ท่านหนึ่งที่นี่บอกเราให้บังคับตัวเอง ฝืนแค่ไหนก็เอาตัวเองไปคลุกคลี เพราะเราไม่ได้ทำงานกับต่างชาติ ไม่ได้มี้พื่อนมีแฟนเป็นต่างชาติ ถ้าเราไม่เริ่มก็จะไม่มีวันได้ เรียนไปเดี๋ยวก็จะลืม
แล้วเราก็เริ่มจากฟังเพลงสากลมา2เดือนแล้ว แรกๆก็ฝืนและไม่ค่อยเชื่อว่าแค่ฟังเพลงจะช่วยได้ ตอนนี้เชื่อแล้ว ตอนนี้พาร์ทฟัง เราฟังออกขึ้นเยอะ อาจจะยังไม่เก่ง แต่ก็ดีขึ้นจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
คอร์สภาษาอังกฤษสถาบันไหนดี สำหรับคนพื้นฐานอ่อน แต่มีเวลาเยอะ
ก่อนหน้านี้เราเคยดูของ Wall Street English ลองทำแบบทดสอบได้ระดับ 3 จาก 20 ระดับ ผลที่ได้จากการคุยกับคนแนะนำคอร์สคือ ภาษาเราอยู่ขั้นพื้นฐานมากๆ แบบเอาไปใช้จริงไม่ได้เลย
ตอนแรกเราก็สนใจที่นี่จากการคุยกับคนแนะนำ แต่ว่าไปเจอที่คนรีวิวในพันทิปเกี่ยวกับที่นี่ทำให้กลัวไปเลย ด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงมาก คือบ้านเราไม่ได้มีตังมาก พอจะตัดใจซื้อคอร์ส6เดือน(ต่ำสุด69000)ได้ แต่กลัวผลลัพท์จะไม่คุ้มเลยค่ะ
ช่วงนี้เราออกจากงานเพราะโควิด เลยพอมีเวลาว่างอยากเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษตัวเองตั้งแต่พื้นฐานนจนทำข้อสอบได้ค่ะ
อยากได้คอร์สที่ไม่เน้นจำอย่างเดียว (ก่อนหน้านี้เราเคยเรียนออนไลน์กับที่หนึ่ง ทุกอย่างให้จำอย่างเดียว ทั้งร้องเพลงต่างๆ แต่เราว่าไม่ค่อยเหมาะกับเราเลย อยากจะเข้าใจไปด้วย)
และเหมาะกับคนว่างงานอย่างเรา สามารถจัดคอร์สให้ไปเรียนทุกวัน หรือบ่อยๆได้
(ถ้าราคาไม่แพงมาก 1คอร์ส เรียน1-2วัน/สัปดาห์ สามารถลงหลายๆคอร์สรวมกันได้ค่ะ)
สถาบันเราสามารถเรียนที่ไหนก็ได้นะคะ เพราะบ้านเราอยู่ต่างจังหวัด ยังไงก็ต้องไปเช่าอยู่ใกล้ๆที่เรียนอยู่แล้ว
มีใครพอจะแนะนำได้ไหมคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ