คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
คือผมลองประมาณการคร่าว ๆ ของพวกผลประโยชน์ดี ๆ ที่ จขกท.บอกออกมาเป็นตัวเงินจากบริษัทปัจจุบัน โดยประมาณการสูง ๆ ไว้ก่อน อย่างอาหารเที่ยงฟรี ตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลหรู IPD/OPD จุก ๆ PVD ขั้นต่ำ 5% เงินโบนัส 3.5 เดือน และเก็บเงินเดือนละ 20% จากฐานเงินเดือน (เพราะบอกว่ามีเงินเก็บอยู่ 700,000 บาทแล้ว ... คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นคนเก็บเงินเก่ง)
แล้วเอาผลประโยชน์จากบริษัทเดิม ย้ายข้างไปหักออกจากเงินเดือนที่ใหม่ (เพราะที่ใหม่ไม่มีผลประโยชน์อะไรให้เลย) เพื่อให้มัน cover ผลประโยชน์ต่าง ๆ จากที่เดิมก่อน และสมมติต่อว่ายังคงเก็บเงินที่เดือนละ 20% จากฐานเงินเดือนเหมือนเดิม ผลที่ได้ออกมา ก็จะประมาณข้างล่างนี้
ผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินนั้นต่างกันแน่นอน ในแต่ละเดือน จขกท. จะมีเงินชิลล์มากกว่าเดิม 11,250 (จากการประมาณการ) มีเงินเก็บที่เก็บได้เร็วกว่าเดิมเกือบจะ 3 เท่า (ประมาณ 2.98 เท่า) คือจากเก็บเงินได้ปีละ 84,000 จะเพิ่มเป็นเก็บได้ปีละ 240,000 บาทนั่นเอง (การคำนวณทั้งหมดนั้น ยัง exclude PIT หรือ Personal Income Tax นะจ๊ะ) ทีนี้เราลองมาดูผลประโยชน์ที่ไม่ได้มาในรูปของตัวเงินบ้าง ตามด้านล่างนี้
คหสต. คิดว่างานใหม่ ให้ประโยชน์มากกว่าทั้งในรูปของตัวเงิน และการต่อยอด แต่ท้ายที่สุดให้กลับไปอ่าน คห. 7 อันนี้สำคัญมาก สัญญาจ้างงาน ลักษณะการทำงานและขอบเขต รวมถึงผลลัพธ์ของงานที่ต้องส่งเพื่อให้มั่นใจว่า เราจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ครบ 12 เดือนตามที่สัญญากำหนด โดยไม่มีการ terminate ออกก่อนเพราะผลงานไม่ถึงเกณฑ์ ฯลฯ
ป.ล. ผิดพลาดประการใด กรุณาช่วยเสริม อย่าซ้ำเติม 555+ ท้ายที่สุด ยินดีกับ จขกท. ด้วยจริง ๆ ครับที่ได้รับโอกาสอันจุก ๆ นี้มา ปังปะรังปังปิ้ง มาก ๆ
แล้วเอาผลประโยชน์จากบริษัทเดิม ย้ายข้างไปหักออกจากเงินเดือนที่ใหม่ (เพราะที่ใหม่ไม่มีผลประโยชน์อะไรให้เลย) เพื่อให้มัน cover ผลประโยชน์ต่าง ๆ จากที่เดิมก่อน และสมมติต่อว่ายังคงเก็บเงินที่เดือนละ 20% จากฐานเงินเดือนเหมือนเดิม ผลที่ได้ออกมา ก็จะประมาณข้างล่างนี้
ผลประโยชน์ที่เป็นตัวเงินนั้นต่างกันแน่นอน ในแต่ละเดือน จขกท. จะมีเงินชิลล์มากกว่าเดิม 11,250 (จากการประมาณการ) มีเงินเก็บที่เก็บได้เร็วกว่าเดิมเกือบจะ 3 เท่า (ประมาณ 2.98 เท่า) คือจากเก็บเงินได้ปีละ 84,000 จะเพิ่มเป็นเก็บได้ปีละ 240,000 บาทนั่นเอง (การคำนวณทั้งหมดนั้น ยัง exclude PIT หรือ Personal Income Tax นะจ๊ะ) ทีนี้เราลองมาดูผลประโยชน์ที่ไม่ได้มาในรูปของตัวเงินบ้าง ตามด้านล่างนี้
คหสต. คิดว่างานใหม่ ให้ประโยชน์มากกว่าทั้งในรูปของตัวเงิน และการต่อยอด แต่ท้ายที่สุดให้กลับไปอ่าน คห. 7 อันนี้สำคัญมาก สัญญาจ้างงาน ลักษณะการทำงานและขอบเขต รวมถึงผลลัพธ์ของงานที่ต้องส่งเพื่อให้มั่นใจว่า เราจะสามารถอยู่รอดปลอดภัยได้ครบ 12 เดือนตามที่สัญญากำหนด โดยไม่มีการ terminate ออกก่อนเพราะผลงานไม่ถึงเกณฑ์ ฯลฯ
ป.ล. ผิดพลาดประการใด กรุณาช่วยเสริม อย่าซ้ำเติม 555+ ท้ายที่สุด ยินดีกับ จขกท. ด้วยจริง ๆ ครับที่ได้รับโอกาสอันจุก ๆ นี้มา ปังปะรังปังปิ้ง มาก ๆ
สมาชิกหมายเลข 3427933 ถูกใจ, monster-v ทึ่ง, phoobodee ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1066910 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1711137 ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 4902942 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4666631 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3829601 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3811379 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1973551 ถูกใจรวมถึงอีก 28 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ควรออกจากงานประจำเงินเดือน 3 หมื่นกลางๆ มารับงานสัญญาจ้างเงินเดือน 100K ไหมคะ
1. ปัจจุบันเรารับเงินเดือนของงานประจำอยู่ที่หลัก 3 หมื่นกลางๆ อยู่บริษัทที่มั่นคง มี work-life balance สวัสดิการดี (มี provident fund, OPD รพ.เอกชน, ตรวจสุขภาพประจำปีรพ.ชั้นนำ, อาหารกลางวัน, ฯลฯ) เพื่อนรวมงานดี โบนัส 3 เดือน++
2. ได้รับ offer งานสัญญาจ้าง 1 ปี เงินเดือน 100K ค่ะ ตำแหน่งสูงขึ้น แต่ไม่มีสวัสดิการใดๆ เลย (เค้าบอกมี maternity ซึ่งเราไม่ใช้อยู่แล้วแน่ๆ ใน 1 ปีข้างหน้า) 100% work from home แต่ต้องทำงานตาม UK timezone ค่ะ (บริษัทอยู่อังกฤษ)
3. เราอายุ 28 มีหนี้ส่วนตัวที่ต้องผ่อนเดือนละ 9K ค่ะ ส่วนเงินเก็บมีประมาณ 700K
ประเด็นคือตัวเงินดูสูงสำหรับคนไทย (แม้เรตนี้จะเป็นstarting salary ของเด็กจบใหม่ที่นู่นก็ตาม) ตำแหน่งได้ขึ้นเป็น Manager แถมทำงานจากที่บ้าน และได้ใช้ภาษาอังกฤษเยอะ ดูเป็นโอกาสที่ดีค่ะ แต่ใจจริงก็ยังไม่อยากออกจากบริษัทปัจจุบัน ด้วยภาวะเศรษฐกิจในอนาคตที่ไม่แน่นอนค่ะ ตอนนึ้เลยทะเลาะกับตัวเองอยู่ว่าจะเลือกออกจาก comfort zone ดีไหม
ยังไงถ้าใครมีคำแนะนำดีๆ หรือข้อคิดอะไรต่างๆ ก็ welcome หมดเลยนะคะ รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ 🙏🏼