.
เช้าตรู่อรพินตื่นนอนก่อนใคร เพื่อเตรียมอาหารให้สองคนพ่อลูก เมนูง่าย ๆ คือข้าวต้มแสนธรรมดา แต่ล้วนออกมาจากความตั้งใจของเธอล้วน ๆ ก่อนจะปลุกคนทั้งสองให้ตื่นอาบน้ำรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน วันนี้พวกเธอจะพาลูกสาวตัวน้อยไปเที่ยวสวนสัตว์
อรรถพลรู้สึกตัวตื่นเพราะกลิ่นหอมของข้าวต้ม ลุกขึ้นนั่งเบา ๆ เกรงว่าลูกสาวจะตื่น เขาหันมองข้าง ๆ ลูกสาวนอนแอ้งแม้งหลับปุ๋ยบนที่นอน อรรถพลก้มหน้าจุมพิตลูกเบา ๆ ก่อนจะลุกเดินไปหาอรพินในครัว
“ตื่นเช้าจังครับ” เขายืนอยู่ตรงขอบประตูทักทายเจ้าของห้อง ที่กำลังง่วนอยู่กับการทำกับข้าว
“รพินตื่นมาทำข้าวเช้าให้ลูกค่ะ พี่อรรถรับข้าวต้มหรือกาแฟคะ” อรพินหันมาพูดคุยกับเขา มือก็คนหม้อไปด้วย “จวนจะเสร็จแล้ว ถ้าจะรับกาแฟกับขนมปังเดียวรพินจัดการให้”
แววตาของเธอบ่งบอกถึงความจริงใจ ไม่ได้รังเกียจเหมือนแต่ก่อน ยิ่งทำให้รู้สึกผิดกับการกระทำของตนในคืนนั้น ถ้าเขารอเวลาที่เหมาะสม ถ้าไม่เห็นแก่ตัว คงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ นับว่าเป็นความโชคดี เขาคิดว่ามันเป็นความโชคดีเสมอที่มีลูกสาวตัวน้อยร่วมกัน
“พี่รับกาแฟครับ” ความรู้สึกที่หายไปนานบัดนี้มันกลับมาอีกครั้ง แววตาคู่นั้นที่มองมายังเขา รอยยิ้มนั้นที่เขาเคยได้รับเสมอมาเมื่อก่อน ก่อนที่มันจะหายไปเพราะการกระทำโง่ ๆ ของตนเอง ตอนนี้นาทีนี้เขาได้สัมผัสมันอีกครั้ง และจะไม่ยอมปล่อยให้มันหายไปอีก มันจะต้องอยู่กับเขาตราบนานเท่านานอรพินผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ
“ชมพูต้องตื่นเต้นแน่เลยเนอะพี่อรรถได้ไปเที่ยวดูสัตว์ รพินไม่ค่อยมีเวลาพาลูกเที่ยวเลยตั้งแต่ลูกมาอยู่ด้วย” อรพินรู้สึกผิดนิดหน่อย พร้อมมองคนตรงหน้า แววตาบ่งบอกว่าตนดีใจที่ลูกได้ไปเที่ยวสักที ที่ผ่านมาเที่ยวไกลที่สุดก็แค่ห้างสรรพสินค้าเท่านั้นเอง
“ครับ พี่ก็ตื่นเต้น เอ้ยไม่ใช่! พี่ก็ว่างั้นพี่ว่าจะพาไปหลายครั้งแล้ว แต่...” เขาหยุดเงียบก่อนจะพูดต่อ “พี่ไม่อยากพาลูกไปสองคนน่ะ อยากไปแบบพ่อแม่ลูกมากกว่า”
“พี่อรรถไปจัดการตัวเองก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวรพินจะไปปลุกชมพูเอง” คนออกคำสั่งพูดจบก็หันมาจัดการข้าวต้มต่อ ก่อนจะเดินไปปลุกลูกสาวให้ตื่นอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเธอสามคนพ่อแม่ลูกจะไปเที่ยวด้วยกัน
อรรถพลยิ้มหน้าบานผิวปากเป็นทำนองเพลง เดินไปเปิดประตูรถให้อรพินกับลูกสาวเข้าไปนั่งฝั่งข้างคนขับ ไม่แคร์สายตาของอรพินที่มองแบบหมั่นไส้สักนิด เขามีความสุขที่สุดสำหรับวันนี้ และมันจะต้องมีวันต่อ ๆ ไป จนกลายเป็นทุกวัน เป็นเรื่องปกติในที่สุด สักวันเขาจะทำให้ได้ ก่อนที่ลูกจะกลับไปบ้านสวน
เด็กหญิงวัยกำลังช่างสงสัย ถามนู่นถามนี่พ่อกับแม่ตลอดทาง ส่วนมากจะเป็นอรรถพลมากกว่าที่คอยตอบคำถามลูกสาว สลับกับเธอบ้างเป็นบางครั้ง อรพินแอบคอยสังเกตนึกชอบอยู่ในใจ ที่อรรถพลใส่ใจ เอาใจใส่ดูแลลูกของเธอที่สุด ไม่นึกห่วงเลยที่ยอมปล่อยให้ลูกอยู่กับพ่อช่วงปิดเทอม นอกจากอยู่กับวิบูลพ่อของตน
“ป่ะป๊าฮิปโปมันตัวโตแค่ไหนอ่ะ” เด็กหญิงนั่งบนตักคนเป็นแม่ หันไปคุยกับผู้เป็นพ่อ ในมือถือตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล จินตนาการว่าเป็นน้องของตน
“เท่าช้างค่ะ”
“ทำไมมันถึงเท่าช้าง” เด็กหญิงทำท่าครุ่นคิดสงสัย ไม่ได้แกล้งถามคนเป็นพ่อเล่น ๆ
“ชมพูจะขี้สงสัยอะไรมากมาย เพราะมันกินเยอะไงลูก มันก็เลยตัวโตเท่าช้าง”
“ทำไมมันถึงกินเยอะคะคุณแม่” เด็กหญิงมิวายถามต่อไปอีก อรรถพลหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว พร้อมหันมามองสองแม่ลูกโต้วาทีกัน อรพินเองก็มิวายขำหัวเราะตัวเองไปด้วย ที่กำลังจะแพ้ทางลูกสาว
เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดทางจนถึงสวนสัตว์ อรรถพลปรายตามอง กลั้นหัวเราะเอาไว้เมื่อเห็นว่าอรพินกำลังจะจนมุมให้กับผู้เป็นลูก ไม่เหมือนเขาที่ตอบลูกสาวได้เรื่อย ๆ เขาใจเย็นกว่าอรพินเยอะ ไม่เหมือนเธอเริ่มจะหงุดหงิดนิดหน่อยที่เริ่มจนมุม
“ชมพูเปิดเทอมเรียนที่บ้านป่ะป๊ามั้ยลูก ไม่ต้องกลับบ้านสวน” เขาเพียงแกล้งพูดเล่นเท่านั้น ไม่ได้คิดจะพรากตาหลานแยกจากกัน เขาจะไม่มีวันทำร้ายจิตใจอรพินเป็นครั้งที่สองอีกแน่นอน ลูกเป็นทุกอย่างของเธอ รวมทั้งเขาด้วย
“ไม่ได้!” อรพินสวนทันควัน หันหน้ามามองค้อนให้กับเขาอย่างเอาเรื่อง “เราตกลงกันแล้วนะคะพี่อรรถ ลูกอยู่ในความดูแลของรพิน ถึงรพินจะอยู่ที่นี่ก็ตาม” นัยน์ตาของเธอแดงก่ำเหมือนคนกำลังโกรธจัด เหมือนคนกำลังจะร้องไห้และหวาดกลัวอะไร คงกลัวว่าเขาจะแย่งลูกไปจากเธอ อรรถพลตกใจไม่คิดว่าเธอจะโกรธจริงจังขนาดนี้
“รพินพี่ขอโทษ พี่พูดเล่นเฉย ๆ พี่ขอโทษนะครับ พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ พี่พูดแกล้งรพินแกล้งลูกเฉย ๆ จริงนะครับ รพินพี่ขอโทษนะ” อรรถพลหน้าถอดสีไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าเธอจะโกรธจริงจังขนาดนี้ รีบพูดขอโทษขอโพย กลัวว่าเธอจะพาลโกรธแล้วบังคับให้พากลับ ทุกอย่างพังแน่ นึกโกรธตัวเองด้วยที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง
“ถึงพี่อรรถจะพูดจริงรพินก็ไม่มีวันยอมหรอก” อรพินยังอยู่ในอารมณ์เดิม ไม่ชอบใจที่อรรถพลพูดออกมาแบบนี้
“พี่พูดเล่น พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ พี่รู้ว่าลูกเป็นทุกอย่างของรพิน ของพี่ด้วย และอีกอย่างพี่...” อรรถพลปรายตามองหน้าเธอชั่วขณะ “พี่ไม่อยากทำร้ายรพินเป็นรอบที่สอง ไม่อยากทำร้ายจิตใจรพินอีก แค่! แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว”
เมื่ออรรถพลพูดจบกลับเป็นเธอเสียเองที่รู้สึกแปลก ๆ นี่เธอแคร์ความรู้สึกเขาอย่างนั้นหรือ แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง ว่ากำลังแคร์ความรู้สึกของอรรถพลจริง ๆ
“เรื่องมันแล้วไปแล้วค่ะพี่อรรถ รพินไม่สนใจอดีตหรอก แค่ปัจจุบันทำมันให้ดีที่สุดก็พอ เราจะทำหน้าที่ เป็นพ่อแม่ที่ดีให้กับลูกนะคะ” อรรถพลเพียงยิ้มให้เธอเป็นคำตอบ ไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาขับรถให้ถึงที่หมายเร็ว ๆ
“ถึงแล้วทุกคน” อรรถพลจอดรถที่ลานจอดรถของสวนสัตว์ วันนี้เขาพาครอบครัวเล็ก ๆ ของเขามาเที่ยวที่สวนสัตว์ต่างจังหวัด ทว่าอยู่ใกล้กับกรุงเทพ จึงเดินทางแค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาโทรชวนมารดากับน้องสาวที่บ้าน สองคนปฏิเสธไม่ยอมมาด้วย
เด็กหญิงดูท่าทางตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับการได้มาเที่ยวครั้งนี้ “ปะเข้าไปข้างไหนกันเถอะ แหนะชมพู! เดินค่ะไม่อุ้ม” อรพินเอ็ดลูกสาวที่กำลังงอแงให้คนเป็นพ่ออุ้ม “วันหลังแม่บอกป่ะป๊าไม่พามานะ โตแล้วต้องเดินเองค่ะ”
“ไม่เป็นไรรพิน มาค่ะป่ะป๊าอุ้ม”
“พี่อรรถก็งี้”
อรพินมองค้อนอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก ตามใจกันเข้า แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้พ่อลูกเขาเอาอกเอาใจกันไป ทั้งสามคนเดินเข้าไปภายในสวนสัตว์ โดยมีอรรถพลเป็นคนอุ้มลูกสาวอีกมือ ส่วนมืออีกข้างเขาคว้ามาจับมือเธอให้เดินไปพร้อมกัน อรพินยอมให้จับมือตัวเองแต่โดยดี
จนเวลาล่วงเลยมาครึ่งค่อนวัน อีกสถานที่ ๆ พวกเขาพาลูกสาวเที่ยว นั่นคือทะเล เป็นการเที่ยวทะเลครั้งแรกเช่นกันกับการมาเป็นครอบครัว อรรถพลเก็บภาพความประทับใจเอาไว้หลายภาพ หากวันหนึ่งที่ต้องไม่รู้จักกัน จะได้เอามาดูว่าครั้งหนึ่งเขาเคยอยู่กันเป็นครอบครัว
“คุณพ่อกับคุณแม่ยืนชิด ๆ กันหน่อยค่ะ” อรรถพลขอให้คนอื่นถ่ายรูปครอบครัวให้
“ชิดแค่นี้พอยังคะ”
“อีกนิดนึงค่ะ อ่าแค่นั้นพอดีแล้ว หนึ่ง สอง...” เป็นภาพสามคนพ่อแม่ลูกถ่ายภาพคู่กันหลายภาพ อรรถพลกับเธอขอบคุณช่างภาพจำเป็น ก่อนจะพาลูกไปเล่นน้ำทะเล
ภายในร่มต้นไม้หน้าชายหาด มีผู้คนมาเที่ยวมากมายเช่นกัน พวกเด็ก ๆ ต่างพากันวิ่งไล่หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็ลงไปเล่นน้ำ แม่ค้าพ่อค้าหาบเล่ขายของตามชายหาด มีนั่งท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศมาเที่ยวทะเลที่นี่ด้วย
“ชมพูชอบทะเลมั้ยคะ” อรรถพลลูบศีรษะลูกสาว ให้ลูกนั่งบนตักตัวเอง เอียงคอคุยด้วยอย่างเอ็นดู ขณะนี้เด็กหญิงเล่นน้ำพอแล้ว ผมเพ้าเปียกพันกันหลังจากที่คนเป็นแม่พาไปเปลี่ยนชุดออก ขณะนี้ก็กำลังใช้หวี ๆ ผมให้กับลูกสาวไปด้วย เด็กหญิงกำลังทานข้าวด้วยความเพลียจากการเล่นน้ำเมื่อสักครู่
“ชอบ ป่ะป๊าพรุ่งนี้มาอีกนะ” อรรถพลยิ้มให้ลูกสาว เขาสัญญาว่าจะพาลูกมาอีกทว่าไม่ใช่พรุ่งนี้แน่นอน “พาคุณด้ากับอาอรมาด้วย พาตาบูลกับยายวันกับน้าพุดจีบมาด้วยนะ” เด็กหญิงพูดถึงตายายและก็ย่า อยากให้มาด้วย
“ค่ะ ถามคุณแม่สิอยากมาด้วยหรือเปล่า” อรรถพลปลายตามองแม่ของลูก พูดโยนหินถามทาง และลุ้นว่าจะโดนปฏิเสธหรือเปล่า
“จะมาอะไรบ่อย วันนี้มาแล้วพรุ่งนี้ยังต้องมาอีกเหรอ” อรพินไม่ปฏิเสธทว่ากลับดุสองคนพ่อลูกกลับไปแทน ที่ตามใจกันไม่รู้เรื่อง เธอหมายถึงพรุ่งนี้จริง ๆ ตามที่ลูกสาวพูด ไม่อยากคิดอะไรซับซ้อน อรรถพลยิ่งเจ้าเล่ห์กับเธอประจำ
“เราก็ไปเที่ยวที่อื่นไง พาลูกเที่ยวก่อนลูกจะเปิดเทอมนะ” อรรถพลมองหน้าเธอ ส่งสายตาอ้อนวอน มันน่าตีนักแทนที่จะเป็นลูกงอแง กลับเป็นพ่อที่งอแงแทนลูกซะงั้น เรียกร้องจะเอานู่นเอานี้ ได้คืบจะเอาศอกอยู่เรื่อย
“เที่ยวเสร็จแล้วกลับไปหาตาบูลที่บ้านสวนเลยนะ” อรพินแกล้งพูดเอ็ดลูกสาวกับคนเป็นพ่อของลูกไปอย่างนั้นเอง อีกตั้งเดือนกว่า กว่าลูกสาวจะเปิดเทอม
“ไม่ได้ลูกยังไม่เปิดเทอมเลย! ชมพูพรุ่งนี้เราไปสวนน้ำกันดีกว่าน้อ” เด็กหญิงพยักหน้าชอบใจ เพราะชอบเล่นสวนน้ำที่สุด “รพินจะมากไปมั้ยถ้าพี่ขอพาลูกกับรพินไปเที่ยวต่างจังหวัด เราไปน่านกันมั้ย ไปเที่ยวเหนือกัน เที่ยวที่บ้านเกิดพี่ ไปเยี่ยมคุณย่าพี่ด้วย”
สายตาอ้อนวอนคู่นี้มาอีกแล้ว เธอรู้สึกแปลกใจตัวเอง ทำไมไม่ปฏิเสธเขาไป กลับอยากไปเที่ยวด้วย ๆ ซ้ำ เธอเป็นอะไรของเธอกันแน่ อยากไปทำความรู้สึกกับคุณย่าของอรรถพลขึ้นมาดื้อ ๆ “คือคุณย่าท่านรู้ว่าพี่มีลูก ท่านอยากเจอหลานน่ะ ท่านอายุ 90 แล้วนะ”
“ได้ค่ะ แต่ให้รพินเคลียร์งานก่อนนะ”
“ครับ ขอก่อนลูกกลับนะ” อรรถพลยิ้มออกมาอย่างคนดีใจ อรพินเองก็นึกขำท่าทางของเขาที่ดีใจอะไรอย่างกับเด็ก ๆ มากกว่าลูกอีก “ชมพูเราได้เที่ยวแล้ว คุณแม่อนุญาต” จากนั้นก้มหอมแก้มลูกสาวฟอดใหญ่
อรพินส่ายหัวให้กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าเอาลูกมาบังหน้า ทว่าที่น่าแปลกคือทำไมเธอถึงยอม เธอรักเขาเหรอ ไม่! ไม่มีทาง ที่ทำอยู่ตอนนี้เพื่อความสุขของลูกต่างหาก ลูกกลับบ้านสวนเมื่อไหร่ ความสัมพันธ์เธอกับเขาก็จบลง
ใจหายพิลึกเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เธอก็ไปต่างกันที่อยากให้เวลาเดินช้า ๆ ถอยหลังนับจากนี้ ไปถึงวันที่ลูกสาวเปิดเทอม อรพินสลัดความคิดสับสนในใจทิ้ง ก่อนจะหันมาให้ความสนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้า และคุยกับลูกสาว
โซ่รัก บทที่ 14
.
เช้าตรู่อรพินตื่นนอนก่อนใคร เพื่อเตรียมอาหารให้สองคนพ่อลูก เมนูง่าย ๆ คือข้าวต้มแสนธรรมดา แต่ล้วนออกมาจากความตั้งใจของเธอล้วน ๆ ก่อนจะปลุกคนทั้งสองให้ตื่นอาบน้ำรับประทานอาหารเช้าพร้อมกัน วันนี้พวกเธอจะพาลูกสาวตัวน้อยไปเที่ยวสวนสัตว์
อรรถพลรู้สึกตัวตื่นเพราะกลิ่นหอมของข้าวต้ม ลุกขึ้นนั่งเบา ๆ เกรงว่าลูกสาวจะตื่น เขาหันมองข้าง ๆ ลูกสาวนอนแอ้งแม้งหลับปุ๋ยบนที่นอน อรรถพลก้มหน้าจุมพิตลูกเบา ๆ ก่อนจะลุกเดินไปหาอรพินในครัว
“ตื่นเช้าจังครับ” เขายืนอยู่ตรงขอบประตูทักทายเจ้าของห้อง ที่กำลังง่วนอยู่กับการทำกับข้าว
“รพินตื่นมาทำข้าวเช้าให้ลูกค่ะ พี่อรรถรับข้าวต้มหรือกาแฟคะ” อรพินหันมาพูดคุยกับเขา มือก็คนหม้อไปด้วย “จวนจะเสร็จแล้ว ถ้าจะรับกาแฟกับขนมปังเดียวรพินจัดการให้”
แววตาของเธอบ่งบอกถึงความจริงใจ ไม่ได้รังเกียจเหมือนแต่ก่อน ยิ่งทำให้รู้สึกผิดกับการกระทำของตนในคืนนั้น ถ้าเขารอเวลาที่เหมาะสม ถ้าไม่เห็นแก่ตัว คงไม่ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ นับว่าเป็นความโชคดี เขาคิดว่ามันเป็นความโชคดีเสมอที่มีลูกสาวตัวน้อยร่วมกัน
“พี่รับกาแฟครับ” ความรู้สึกที่หายไปนานบัดนี้มันกลับมาอีกครั้ง แววตาคู่นั้นที่มองมายังเขา รอยยิ้มนั้นที่เขาเคยได้รับเสมอมาเมื่อก่อน ก่อนที่มันจะหายไปเพราะการกระทำโง่ ๆ ของตนเอง ตอนนี้นาทีนี้เขาได้สัมผัสมันอีกครั้ง และจะไม่ยอมปล่อยให้มันหายไปอีก มันจะต้องอยู่กับเขาตราบนานเท่านานอรพินผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ
“ชมพูต้องตื่นเต้นแน่เลยเนอะพี่อรรถได้ไปเที่ยวดูสัตว์ รพินไม่ค่อยมีเวลาพาลูกเที่ยวเลยตั้งแต่ลูกมาอยู่ด้วย” อรพินรู้สึกผิดนิดหน่อย พร้อมมองคนตรงหน้า แววตาบ่งบอกว่าตนดีใจที่ลูกได้ไปเที่ยวสักที ที่ผ่านมาเที่ยวไกลที่สุดก็แค่ห้างสรรพสินค้าเท่านั้นเอง
“ครับ พี่ก็ตื่นเต้น เอ้ยไม่ใช่! พี่ก็ว่างั้นพี่ว่าจะพาไปหลายครั้งแล้ว แต่...” เขาหยุดเงียบก่อนจะพูดต่อ “พี่ไม่อยากพาลูกไปสองคนน่ะ อยากไปแบบพ่อแม่ลูกมากกว่า”
“พี่อรรถไปจัดการตัวเองก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวรพินจะไปปลุกชมพูเอง” คนออกคำสั่งพูดจบก็หันมาจัดการข้าวต้มต่อ ก่อนจะเดินไปปลุกลูกสาวให้ตื่นอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเธอสามคนพ่อแม่ลูกจะไปเที่ยวด้วยกัน
อรรถพลยิ้มหน้าบานผิวปากเป็นทำนองเพลง เดินไปเปิดประตูรถให้อรพินกับลูกสาวเข้าไปนั่งฝั่งข้างคนขับ ไม่แคร์สายตาของอรพินที่มองแบบหมั่นไส้สักนิด เขามีความสุขที่สุดสำหรับวันนี้ และมันจะต้องมีวันต่อ ๆ ไป จนกลายเป็นทุกวัน เป็นเรื่องปกติในที่สุด สักวันเขาจะทำให้ได้ ก่อนที่ลูกจะกลับไปบ้านสวน
เด็กหญิงวัยกำลังช่างสงสัย ถามนู่นถามนี่พ่อกับแม่ตลอดทาง ส่วนมากจะเป็นอรรถพลมากกว่าที่คอยตอบคำถามลูกสาว สลับกับเธอบ้างเป็นบางครั้ง อรพินแอบคอยสังเกตนึกชอบอยู่ในใจ ที่อรรถพลใส่ใจ เอาใจใส่ดูแลลูกของเธอที่สุด ไม่นึกห่วงเลยที่ยอมปล่อยให้ลูกอยู่กับพ่อช่วงปิดเทอม นอกจากอยู่กับวิบูลพ่อของตน
“ป่ะป๊าฮิปโปมันตัวโตแค่ไหนอ่ะ” เด็กหญิงนั่งบนตักคนเป็นแม่ หันไปคุยกับผู้เป็นพ่อ ในมือถือตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล จินตนาการว่าเป็นน้องของตน
“เท่าช้างค่ะ”
“ทำไมมันถึงเท่าช้าง” เด็กหญิงทำท่าครุ่นคิดสงสัย ไม่ได้แกล้งถามคนเป็นพ่อเล่น ๆ
“ชมพูจะขี้สงสัยอะไรมากมาย เพราะมันกินเยอะไงลูก มันก็เลยตัวโตเท่าช้าง”
“ทำไมมันถึงกินเยอะคะคุณแม่” เด็กหญิงมิวายถามต่อไปอีก อรรถพลหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว พร้อมหันมามองสองแม่ลูกโต้วาทีกัน อรพินเองก็มิวายขำหัวเราะตัวเองไปด้วย ที่กำลังจะแพ้ทางลูกสาว
เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดทางจนถึงสวนสัตว์ อรรถพลปรายตามอง กลั้นหัวเราะเอาไว้เมื่อเห็นว่าอรพินกำลังจะจนมุมให้กับผู้เป็นลูก ไม่เหมือนเขาที่ตอบลูกสาวได้เรื่อย ๆ เขาใจเย็นกว่าอรพินเยอะ ไม่เหมือนเธอเริ่มจะหงุดหงิดนิดหน่อยที่เริ่มจนมุม
“ชมพูเปิดเทอมเรียนที่บ้านป่ะป๊ามั้ยลูก ไม่ต้องกลับบ้านสวน” เขาเพียงแกล้งพูดเล่นเท่านั้น ไม่ได้คิดจะพรากตาหลานแยกจากกัน เขาจะไม่มีวันทำร้ายจิตใจอรพินเป็นครั้งที่สองอีกแน่นอน ลูกเป็นทุกอย่างของเธอ รวมทั้งเขาด้วย
“ไม่ได้!” อรพินสวนทันควัน หันหน้ามามองค้อนให้กับเขาอย่างเอาเรื่อง “เราตกลงกันแล้วนะคะพี่อรรถ ลูกอยู่ในความดูแลของรพิน ถึงรพินจะอยู่ที่นี่ก็ตาม” นัยน์ตาของเธอแดงก่ำเหมือนคนกำลังโกรธจัด เหมือนคนกำลังจะร้องไห้และหวาดกลัวอะไร คงกลัวว่าเขาจะแย่งลูกไปจากเธอ อรรถพลตกใจไม่คิดว่าเธอจะโกรธจริงจังขนาดนี้
“รพินพี่ขอโทษ พี่พูดเล่นเฉย ๆ พี่ขอโทษนะครับ พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ พี่พูดแกล้งรพินแกล้งลูกเฉย ๆ จริงนะครับ รพินพี่ขอโทษนะ” อรรถพลหน้าถอดสีไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าเธอจะโกรธจริงจังขนาดนี้ รีบพูดขอโทษขอโพย กลัวว่าเธอจะพาลโกรธแล้วบังคับให้พากลับ ทุกอย่างพังแน่ นึกโกรธตัวเองด้วยที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง
“ถึงพี่อรรถจะพูดจริงรพินก็ไม่มีวันยอมหรอก” อรพินยังอยู่ในอารมณ์เดิม ไม่ชอบใจที่อรรถพลพูดออกมาแบบนี้
“พี่พูดเล่น พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ พี่รู้ว่าลูกเป็นทุกอย่างของรพิน ของพี่ด้วย และอีกอย่างพี่...” อรรถพลปรายตามองหน้าเธอชั่วขณะ “พี่ไม่อยากทำร้ายรพินเป็นรอบที่สอง ไม่อยากทำร้ายจิตใจรพินอีก แค่! แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว”
เมื่ออรรถพลพูดจบกลับเป็นเธอเสียเองที่รู้สึกแปลก ๆ นี่เธอแคร์ความรู้สึกเขาอย่างนั้นหรือ แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง ว่ากำลังแคร์ความรู้สึกของอรรถพลจริง ๆ
“เรื่องมันแล้วไปแล้วค่ะพี่อรรถ รพินไม่สนใจอดีตหรอก แค่ปัจจุบันทำมันให้ดีที่สุดก็พอ เราจะทำหน้าที่ เป็นพ่อแม่ที่ดีให้กับลูกนะคะ” อรรถพลเพียงยิ้มให้เธอเป็นคำตอบ ไม่ได้พูดอะไรต่อ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาขับรถให้ถึงที่หมายเร็ว ๆ
“ถึงแล้วทุกคน” อรรถพลจอดรถที่ลานจอดรถของสวนสัตว์ วันนี้เขาพาครอบครัวเล็ก ๆ ของเขามาเที่ยวที่สวนสัตว์ต่างจังหวัด ทว่าอยู่ใกล้กับกรุงเทพ จึงเดินทางแค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาโทรชวนมารดากับน้องสาวที่บ้าน สองคนปฏิเสธไม่ยอมมาด้วย
เด็กหญิงดูท่าทางตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจกับการได้มาเที่ยวครั้งนี้ “ปะเข้าไปข้างไหนกันเถอะ แหนะชมพู! เดินค่ะไม่อุ้ม” อรพินเอ็ดลูกสาวที่กำลังงอแงให้คนเป็นพ่ออุ้ม “วันหลังแม่บอกป่ะป๊าไม่พามานะ โตแล้วต้องเดินเองค่ะ”
“ไม่เป็นไรรพิน มาค่ะป่ะป๊าอุ้ม”
“พี่อรรถก็งี้”
อรพินมองค้อนอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก ตามใจกันเข้า แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้พ่อลูกเขาเอาอกเอาใจกันไป ทั้งสามคนเดินเข้าไปภายในสวนสัตว์ โดยมีอรรถพลเป็นคนอุ้มลูกสาวอีกมือ ส่วนมืออีกข้างเขาคว้ามาจับมือเธอให้เดินไปพร้อมกัน อรพินยอมให้จับมือตัวเองแต่โดยดี
จนเวลาล่วงเลยมาครึ่งค่อนวัน อีกสถานที่ ๆ พวกเขาพาลูกสาวเที่ยว นั่นคือทะเล เป็นการเที่ยวทะเลครั้งแรกเช่นกันกับการมาเป็นครอบครัว อรรถพลเก็บภาพความประทับใจเอาไว้หลายภาพ หากวันหนึ่งที่ต้องไม่รู้จักกัน จะได้เอามาดูว่าครั้งหนึ่งเขาเคยอยู่กันเป็นครอบครัว
“คุณพ่อกับคุณแม่ยืนชิด ๆ กันหน่อยค่ะ” อรรถพลขอให้คนอื่นถ่ายรูปครอบครัวให้
“ชิดแค่นี้พอยังคะ”
“อีกนิดนึงค่ะ อ่าแค่นั้นพอดีแล้ว หนึ่ง สอง...” เป็นภาพสามคนพ่อแม่ลูกถ่ายภาพคู่กันหลายภาพ อรรถพลกับเธอขอบคุณช่างภาพจำเป็น ก่อนจะพาลูกไปเล่นน้ำทะเล
ภายในร่มต้นไม้หน้าชายหาด มีผู้คนมาเที่ยวมากมายเช่นกัน พวกเด็ก ๆ ต่างพากันวิ่งไล่หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็ลงไปเล่นน้ำ แม่ค้าพ่อค้าหาบเล่ขายของตามชายหาด มีนั่งท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศมาเที่ยวทะเลที่นี่ด้วย
“ชมพูชอบทะเลมั้ยคะ” อรรถพลลูบศีรษะลูกสาว ให้ลูกนั่งบนตักตัวเอง เอียงคอคุยด้วยอย่างเอ็นดู ขณะนี้เด็กหญิงเล่นน้ำพอแล้ว ผมเพ้าเปียกพันกันหลังจากที่คนเป็นแม่พาไปเปลี่ยนชุดออก ขณะนี้ก็กำลังใช้หวี ๆ ผมให้กับลูกสาวไปด้วย เด็กหญิงกำลังทานข้าวด้วยความเพลียจากการเล่นน้ำเมื่อสักครู่
“ชอบ ป่ะป๊าพรุ่งนี้มาอีกนะ” อรรถพลยิ้มให้ลูกสาว เขาสัญญาว่าจะพาลูกมาอีกทว่าไม่ใช่พรุ่งนี้แน่นอน “พาคุณด้ากับอาอรมาด้วย พาตาบูลกับยายวันกับน้าพุดจีบมาด้วยนะ” เด็กหญิงพูดถึงตายายและก็ย่า อยากให้มาด้วย
“ค่ะ ถามคุณแม่สิอยากมาด้วยหรือเปล่า” อรรถพลปลายตามองแม่ของลูก พูดโยนหินถามทาง และลุ้นว่าจะโดนปฏิเสธหรือเปล่า
“จะมาอะไรบ่อย วันนี้มาแล้วพรุ่งนี้ยังต้องมาอีกเหรอ” อรพินไม่ปฏิเสธทว่ากลับดุสองคนพ่อลูกกลับไปแทน ที่ตามใจกันไม่รู้เรื่อง เธอหมายถึงพรุ่งนี้จริง ๆ ตามที่ลูกสาวพูด ไม่อยากคิดอะไรซับซ้อน อรรถพลยิ่งเจ้าเล่ห์กับเธอประจำ
“เราก็ไปเที่ยวที่อื่นไง พาลูกเที่ยวก่อนลูกจะเปิดเทอมนะ” อรรถพลมองหน้าเธอ ส่งสายตาอ้อนวอน มันน่าตีนักแทนที่จะเป็นลูกงอแง กลับเป็นพ่อที่งอแงแทนลูกซะงั้น เรียกร้องจะเอานู่นเอานี้ ได้คืบจะเอาศอกอยู่เรื่อย
“เที่ยวเสร็จแล้วกลับไปหาตาบูลที่บ้านสวนเลยนะ” อรพินแกล้งพูดเอ็ดลูกสาวกับคนเป็นพ่อของลูกไปอย่างนั้นเอง อีกตั้งเดือนกว่า กว่าลูกสาวจะเปิดเทอม
“ไม่ได้ลูกยังไม่เปิดเทอมเลย! ชมพูพรุ่งนี้เราไปสวนน้ำกันดีกว่าน้อ” เด็กหญิงพยักหน้าชอบใจ เพราะชอบเล่นสวนน้ำที่สุด “รพินจะมากไปมั้ยถ้าพี่ขอพาลูกกับรพินไปเที่ยวต่างจังหวัด เราไปน่านกันมั้ย ไปเที่ยวเหนือกัน เที่ยวที่บ้านเกิดพี่ ไปเยี่ยมคุณย่าพี่ด้วย”
สายตาอ้อนวอนคู่นี้มาอีกแล้ว เธอรู้สึกแปลกใจตัวเอง ทำไมไม่ปฏิเสธเขาไป กลับอยากไปเที่ยวด้วย ๆ ซ้ำ เธอเป็นอะไรของเธอกันแน่ อยากไปทำความรู้สึกกับคุณย่าของอรรถพลขึ้นมาดื้อ ๆ “คือคุณย่าท่านรู้ว่าพี่มีลูก ท่านอยากเจอหลานน่ะ ท่านอายุ 90 แล้วนะ”
“ได้ค่ะ แต่ให้รพินเคลียร์งานก่อนนะ”
“ครับ ขอก่อนลูกกลับนะ” อรรถพลยิ้มออกมาอย่างคนดีใจ อรพินเองก็นึกขำท่าทางของเขาที่ดีใจอะไรอย่างกับเด็ก ๆ มากกว่าลูกอีก “ชมพูเราได้เที่ยวแล้ว คุณแม่อนุญาต” จากนั้นก้มหอมแก้มลูกสาวฟอดใหญ่
อรพินส่ายหัวให้กับความเจ้าเล่ห์ของเขา ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าเอาลูกมาบังหน้า ทว่าที่น่าแปลกคือทำไมเธอถึงยอม เธอรักเขาเหรอ ไม่! ไม่มีทาง ที่ทำอยู่ตอนนี้เพื่อความสุขของลูกต่างหาก ลูกกลับบ้านสวนเมื่อไหร่ ความสัมพันธ์เธอกับเขาก็จบลง
ใจหายพิลึกเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เธอก็ไปต่างกันที่อยากให้เวลาเดินช้า ๆ ถอยหลังนับจากนี้ ไปถึงวันที่ลูกสาวเปิดเทอม อรพินสลัดความคิดสับสนในใจทิ้ง ก่อนจะหันมาให้ความสนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้า และคุยกับลูกสาว