นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกของผมถ้ามีอะไรผิดพลาดยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับคลิปทั้งหมดไม่ได้มีการสนับสนุนจากใครทั้งสิ้น
วันนี้ผมตั้งใจจะขี่รถคนเดียวไปเที่ยวที่ทุ่งหญ้าสะวันนาที่ดอยแม่โถจังหวัดเชียงใหม่
ผมเริ่มต้นจากการขี่มอเตอร์ไซค์เริ่มจากในตัวเมืองเชียงใหม่โดยตั้งพิกัด GPS ไปที่ทุ่งหญ้าสะวันนาดอยแม่โถระยะทางโดยประมาณ 160 กิโลเมตรใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ การขับขี่ในช่วงแรกใช้เส้นทางสันป่าตองหางดง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 108 จากนั้นตรงยาวไปเรื่อยๆจนมาเจอวงเวียน ให้ใช้ทางออกที่ 3 ขับขี่ไปอีกสักพักจึงเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 1270 เมื่อเข้าเส้นนี้แล้วก็แสดงว่าอีก 16 กิโลเมตรก็จะถึงเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะเข้าเส้นนี้แนะนำให้เติมน้ำมันด้วยนะครับเพราะข้างในจะไม่มีปั๊มน้ำมันอีกแล้ว
มาถึงเราจะเห็นเต็นท์สีฟ้าทางด้านขวาจะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ภายใน ให้เราลงทะเบียนลงชื่อก่อนนะครับ หลังจากนี้เราสามารถเลือกที่จะขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปเองที่ทุ่งหญ้าสะวันนาเอง(ค่าลงทะเบียนแบบนี้ 20 บาท) หรือใช้บริการรถกระบะของชาวบ้าน ซึ่งผมไม่แนะนำให้ขี่ขึ้นไปเองนะครับถ้าไม่ชำนาญทาง เพราะว่าทางขึ้นค่อนข้างโหดร้ายเลย ค่าบริการของรถกระบะอยู่ที่เที่ยวละ 500 บาท ซึ่งผมหาแชร์กับอีกกลุ่มหนึ่งคนละครึ่งแต่สำหรับใครที่มีรถ 4WD ก็สามารถขับขึ้นไปได้สบายเลยนะครับแต่ทางก็โหดร้ายอยู่นิดนึง สำหรับเรื่องเสบียงอาหารก็ขึ้นอยู่กับเพื่อนๆเลยเพราะข้างบนจะมีซุ้มบริการอยู่ 1 ซุ้มมีลูกชิ้นทอดบวกกับอาหารตามสั่งซึ่งคุณภาพก็ไม่แย่และก็ไม่แพงด้วย สำหรับเครื่องดื่มน้ำเปล่าขวดเล็กข้างบนขายอยู่ขวดละ 10 บาทเบียร์กระป๋องละไม่เกินกระป๋องละ 50 บาท เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวอดตายกับอดเมากันเลยทีเดียว สำหรับสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่นี่ตามที่เขาบอกเลยครับว่าอินเตอร์เน็ตมาตามสายลมตัวผมเองใช้สัญญาณของ dtac มันมาๆหายๆเดี๋ยวก็ขึ้น 4G เดี๋ยวขึ้น 3G บางทีก็มีอินเตอร์เน็ตปลอมๆ หมายถึงสัญญาณขึ้นแต่ใช้ไม่ได้ซะงั้น ส่วนเรื่องที่พักแน่นอนว่าข้างบนไม่มีห้องให้เช่าแน่นอนครับ ถ้าอยากเสพบรรยากาศด้านบนเต็นท์คือทางเลือกเดียว แต่ข้างบนเขาก็มีบริการให้เช่าเต็นท์ด้วยนะครับแต่ถ้าใครเอามาเองก็เสียค่ากางเต็นท์อย่างเดียวหลังละ 100 บาท ค่าเช่าเต็นท์อยู่ที่หลังละ 500 บาท มาพร้อมอุปกรณ์การนอนมีทั้งผ้าปูผ้าห่มและหมอนให้ครบเซ็ต ในคลิปวีดีโอผมมีแปะสนนราคาต่างๆค่าบริการไว้ให้แล้วนะครับว(ไม่ได้โฆษณานะ ผมแค่ไปใช้บริการของเขามา) พอเราขึ้นไปถึงทุ่งหญ้าสะวันนา เราสามารถเลือกได้เลยว่าอยากนอนจุดไหน พอเลือกได้แล้วก็ตามหาเจ้าของที่แล้วให้เขาจัดการส่วนที่เหลือได้เลย
อากาศข้างบนเรียกว่าดีมากๆมีลมตลอดเวลา ถึงแม้จะดูเหมือนแดดจะแรงแต่ก็ไม่ร้อนเลยนะครับ ส่วนเรื่องห้องน้ำยิ่งไม่ต้องห่วง ทางข้างบนเจ้าของเขาได้สร้างห้องน้ำไว้ให้ใช้บริการถึงจะไม่หรูหรา แต่สำหรับผมแล้วการได้มากางเต็นท์ในที่แบบนี้แล้วยังมีห้องน้ำที่สะอาดให้ใช้บริการก็ถือว่าสุดยอดแล้วครับ แถมพี่หรือ(เจ้าของที่ที่ผมใช้บริการ)ยังบอกอีกว่าน้ำในห้องน้ำนี่ต่อท่อลงมาจากภูเขาเลย เย็นสดชื่นแบบสุดๆ
สำหรับคนที่อยากไปชมวิวบนดอย 360 องศา เราสามารถใช้บริการรถจากข้างบนให้เขาพาไปส่งได้เลย ระยะทางประมาณ 3-4 กม. ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่าบริการอยู่รอบละ 500 บาทแต่บอกก่อนเลยนะครับว่าเส้นทางโหดยิ่งกว่าตอนขาขึ้นมาหลายเท่า เนื่องจากผมมาคนเดียวเขาเลยอาสาขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งแทนคิดค่าบริการแค่ 250 บาท พร้อมพาเดินขึ้นไปถึงยอดดอย หลังจากที่นั่งรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าทางวิบากแบบสุดๆเพียง 15 นาที เราก็จะมาถึงจุดเริ่มเดินตรงนี้ถ้าใครอยากมากางเต็นท์ก็สามารถทำได้นะครับ แต่ผมว่าวิวไม่สวยเท่ากับบนทุ่งหญ้าสะวันนา แถมเงียบและวังเวงอีกต่างหาก
เมื่อมาถึงจุดเริ่มเดินก็เตรียมตัวมาเบาๆโดยการเดินขึ้นช้าๆระยะทางประมาณ 1 ถึง 1.2 กิโลเมตร แต่เป็นทางชันเกือบตลอดเส้นทางเลย ผมใช้เวลาเดินขึ้นมาประมาณ 35 นาที ระหว่างทางมีจุดให้พักเป็นช่วงๆ 2-3 จุด ช่วงครึ่งแรกจะชันน้อยกว่าช่วงครึ่งหลัง แต่ผมรับรองถึงความสวยงามเลยเพราะถึงยอดเลยเข้าใจว่าทำไมถึงชื่อดอย 360 องศา เพราะตอนนี้เราอยู่บนยอดของภูเขาเลยทีเดียว หันไปทางไหนก็ไม่มีอะไรมาบดบังสายตาของเราเลย เมื่อเสพบรรยากาศสดชื่นจนพอใจแล้วก็ถึงเวลาเดินลงเราสามารถเดินลงมาทางเดิมหรืออีกทางนึงก็ได้ ซึ่งผมเลือกอีกทางถึงแม้จะยาวกว่าแต่ก็ได้เดินชมวิวธรรมชาติไปในตัว ยังไงเดินลงมันก็ไม่เหนื่อยเท่าเดินขึ้นอยู่แล้ว แต่ระวังลื่นสักนิดนึงนะครับ พอกลับมาถึงที่พักประมาณ 5 โมงกว่าๆผมจึงไปอาบน้ำแร่สักหน่อยกลัวว่าถ้ามืดกว่านี้อากาศมันจะหนาวเกินไป หลังจากอาบน้ำเสร็จผมได้สั่งหมูกระทะมากินเป็นมื้อเย็นในราคาชุดละ 400 บาท ถ้าอยากได้ข้าวสวยก็สั่งเพิ่มจานละ 20 บาท(แอบแพงไปนิด) แต่ถ้าถามว่าคุ้มไหม ผมว่าคุ้มครับแต่ใครอยากเอาอะไรไปปิ้งเองก็ได้นะครับ ให้เขาตั้งเตาให้ได้แต่ที่นี่ไม่อนุญาติให้ก่อกองไฟนะ หลังจากพระอาทิตย์ตกดินที่นี่จะมีชื่อเสียงอีกอย่างหนึ่งก็คือทางช้างเผือก วันไหนโชคดีฟ้าเปิดก็อาจจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลย ผมเห็นมีคนมานอนรอถ่ายรูปทางช้างเผือกกันทั้งคืนเลยที่นี่ ตกกลางคืนอากาศก็หนาวเย็นสบายๆ เสื้อหนาวกันลมบางตัวเดียวก็เอาอยู่ แต่ลมค่อนข้างแรงเลยทีเดียว ผมไปช่วงกลางเดือนตุลาคม ตอนกลางคืนนอนไม่ต้องใส่เสื้อหนาวเลยครับเพราะเขามีผ้าห่มผ้าปูที่นอนให้ ผมบอกเลยว่าทั้งนุ่มทั้งอุ่นสบายมากๆ ผมจบคืนนี้ด้วยการจิบเหล้านอนดูดาวแล้วจึงเข้านอน
ผมตื่น 5:30 น ออกมาสูดอากาศตอนเช้า ที่นี่ผมยังไม่เห็นทะเลหมอกนะมีแต่หมอกกระจายไปทั่วแทน ที่ผมไปพักเขายังมีบริการข้าวต้มให้สำหรับตอนเช้าอีกต่างหากแถมฟรีด้วย ส่วนใครอยากจิบกาแฟจิบชาทางนั้นก็มีบริการเพิ่มให้นะครับแต่ไม่ฟรี ผมกลับลงมาจากยอดดอยหลังจากทานข้าวต้มเสร็จโดยให้พี่หรือขับรถกระบะมาส่ง เขาไม่คิดค่าบริการผมนะอาจจะเป็นเพราะว่าผมใช้บริการที่พักแบบเต้นท์ของเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้
สรุปอันเป็นว่าจบคลิปรีวิวดอยแม่โถทุ่งหญ้าสะวันนาเป็นที่เรียบร้อยส่วนใครถ้าอยากดูวีดีโอผมทำไว้เรียบร้อยแล้วนะครับเชิญชมได้เลย
ป.ล. รูปอาจจะน้อยเพราะผมเน้นถ่ายแต่วีดีโอแทน
ผมทำวิดีโอไว้เรียบร้อยแล้วกดดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลยนะครับ แล้วก็ฝสดกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจหน่อยนะครัชชช
https://youtu.be/ixo6OmkeA8kก็
ส่วนเพจเฟซบุ๊กก็ตามลิ้งค์อันนี้เลยนะครับ ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/vlogbunny/videos/634014887482709/
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
[CR] เที่ยวคนเดียว. ขี่รถเล็กเที่ยว ดอยแม่โถทุ่งหญ้าสะวันนาแห่งประเทศไทย
วันนี้ผมตั้งใจจะขี่รถคนเดียวไปเที่ยวที่ทุ่งหญ้าสะวันนาที่ดอยแม่โถจังหวัดเชียงใหม่
ผมเริ่มต้นจากการขี่มอเตอร์ไซค์เริ่มจากในตัวเมืองเชียงใหม่โดยตั้งพิกัด GPS ไปที่ทุ่งหญ้าสะวันนาดอยแม่โถระยะทางโดยประมาณ 160 กิโลเมตรใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ การขับขี่ในช่วงแรกใช้เส้นทางสันป่าตองหางดง จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 108 จากนั้นตรงยาวไปเรื่อยๆจนมาเจอวงเวียน ให้ใช้ทางออกที่ 3 ขับขี่ไปอีกสักพักจึงเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 1270 เมื่อเข้าเส้นนี้แล้วก็แสดงว่าอีก 16 กิโลเมตรก็จะถึงเต็นท์บริการนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะเข้าเส้นนี้แนะนำให้เติมน้ำมันด้วยนะครับเพราะข้างในจะไม่มีปั๊มน้ำมันอีกแล้ว
มาถึงเราจะเห็นเต็นท์สีฟ้าทางด้านขวาจะมีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ภายใน ให้เราลงทะเบียนลงชื่อก่อนนะครับ หลังจากนี้เราสามารถเลือกที่จะขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปเองที่ทุ่งหญ้าสะวันนาเอง(ค่าลงทะเบียนแบบนี้ 20 บาท) หรือใช้บริการรถกระบะของชาวบ้าน ซึ่งผมไม่แนะนำให้ขี่ขึ้นไปเองนะครับถ้าไม่ชำนาญทาง เพราะว่าทางขึ้นค่อนข้างโหดร้ายเลย ค่าบริการของรถกระบะอยู่ที่เที่ยวละ 500 บาท ซึ่งผมหาแชร์กับอีกกลุ่มหนึ่งคนละครึ่งแต่สำหรับใครที่มีรถ 4WD ก็สามารถขับขึ้นไปได้สบายเลยนะครับแต่ทางก็โหดร้ายอยู่นิดนึง สำหรับเรื่องเสบียงอาหารก็ขึ้นอยู่กับเพื่อนๆเลยเพราะข้างบนจะมีซุ้มบริการอยู่ 1 ซุ้มมีลูกชิ้นทอดบวกกับอาหารตามสั่งซึ่งคุณภาพก็ไม่แย่และก็ไม่แพงด้วย สำหรับเครื่องดื่มน้ำเปล่าขวดเล็กข้างบนขายอยู่ขวดละ 10 บาทเบียร์กระป๋องละไม่เกินกระป๋องละ 50 บาท เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวอดตายกับอดเมากันเลยทีเดียว สำหรับสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่นี่ตามที่เขาบอกเลยครับว่าอินเตอร์เน็ตมาตามสายลมตัวผมเองใช้สัญญาณของ dtac มันมาๆหายๆเดี๋ยวก็ขึ้น 4G เดี๋ยวขึ้น 3G บางทีก็มีอินเตอร์เน็ตปลอมๆ หมายถึงสัญญาณขึ้นแต่ใช้ไม่ได้ซะงั้น ส่วนเรื่องที่พักแน่นอนว่าข้างบนไม่มีห้องให้เช่าแน่นอนครับ ถ้าอยากเสพบรรยากาศด้านบนเต็นท์คือทางเลือกเดียว แต่ข้างบนเขาก็มีบริการให้เช่าเต็นท์ด้วยนะครับแต่ถ้าใครเอามาเองก็เสียค่ากางเต็นท์อย่างเดียวหลังละ 100 บาท ค่าเช่าเต็นท์อยู่ที่หลังละ 500 บาท มาพร้อมอุปกรณ์การนอนมีทั้งผ้าปูผ้าห่มและหมอนให้ครบเซ็ต ในคลิปวีดีโอผมมีแปะสนนราคาต่างๆค่าบริการไว้ให้แล้วนะครับว(ไม่ได้โฆษณานะ ผมแค่ไปใช้บริการของเขามา) พอเราขึ้นไปถึงทุ่งหญ้าสะวันนา เราสามารถเลือกได้เลยว่าอยากนอนจุดไหน พอเลือกได้แล้วก็ตามหาเจ้าของที่แล้วให้เขาจัดการส่วนที่เหลือได้เลย
อากาศข้างบนเรียกว่าดีมากๆมีลมตลอดเวลา ถึงแม้จะดูเหมือนแดดจะแรงแต่ก็ไม่ร้อนเลยนะครับ ส่วนเรื่องห้องน้ำยิ่งไม่ต้องห่วง ทางข้างบนเจ้าของเขาได้สร้างห้องน้ำไว้ให้ใช้บริการถึงจะไม่หรูหรา แต่สำหรับผมแล้วการได้มากางเต็นท์ในที่แบบนี้แล้วยังมีห้องน้ำที่สะอาดให้ใช้บริการก็ถือว่าสุดยอดแล้วครับ แถมพี่หรือ(เจ้าของที่ที่ผมใช้บริการ)ยังบอกอีกว่าน้ำในห้องน้ำนี่ต่อท่อลงมาจากภูเขาเลย เย็นสดชื่นแบบสุดๆ
สำหรับคนที่อยากไปชมวิวบนดอย 360 องศา เราสามารถใช้บริการรถจากข้างบนให้เขาพาไปส่งได้เลย ระยะทางประมาณ 3-4 กม. ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่าบริการอยู่รอบละ 500 บาทแต่บอกก่อนเลยนะครับว่าเส้นทางโหดยิ่งกว่าตอนขาขึ้นมาหลายเท่า เนื่องจากผมมาคนเดียวเขาเลยอาสาขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งแทนคิดค่าบริการแค่ 250 บาท พร้อมพาเดินขึ้นไปถึงยอดดอย หลังจากที่นั่งรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าทางวิบากแบบสุดๆเพียง 15 นาที เราก็จะมาถึงจุดเริ่มเดินตรงนี้ถ้าใครอยากมากางเต็นท์ก็สามารถทำได้นะครับ แต่ผมว่าวิวไม่สวยเท่ากับบนทุ่งหญ้าสะวันนา แถมเงียบและวังเวงอีกต่างหาก
เมื่อมาถึงจุดเริ่มเดินก็เตรียมตัวมาเบาๆโดยการเดินขึ้นช้าๆระยะทางประมาณ 1 ถึง 1.2 กิโลเมตร แต่เป็นทางชันเกือบตลอดเส้นทางเลย ผมใช้เวลาเดินขึ้นมาประมาณ 35 นาที ระหว่างทางมีจุดให้พักเป็นช่วงๆ 2-3 จุด ช่วงครึ่งแรกจะชันน้อยกว่าช่วงครึ่งหลัง แต่ผมรับรองถึงความสวยงามเลยเพราะถึงยอดเลยเข้าใจว่าทำไมถึงชื่อดอย 360 องศา เพราะตอนนี้เราอยู่บนยอดของภูเขาเลยทีเดียว หันไปทางไหนก็ไม่มีอะไรมาบดบังสายตาของเราเลย เมื่อเสพบรรยากาศสดชื่นจนพอใจแล้วก็ถึงเวลาเดินลงเราสามารถเดินลงมาทางเดิมหรืออีกทางนึงก็ได้ ซึ่งผมเลือกอีกทางถึงแม้จะยาวกว่าแต่ก็ได้เดินชมวิวธรรมชาติไปในตัว ยังไงเดินลงมันก็ไม่เหนื่อยเท่าเดินขึ้นอยู่แล้ว แต่ระวังลื่นสักนิดนึงนะครับ พอกลับมาถึงที่พักประมาณ 5 โมงกว่าๆผมจึงไปอาบน้ำแร่สักหน่อยกลัวว่าถ้ามืดกว่านี้อากาศมันจะหนาวเกินไป หลังจากอาบน้ำเสร็จผมได้สั่งหมูกระทะมากินเป็นมื้อเย็นในราคาชุดละ 400 บาท ถ้าอยากได้ข้าวสวยก็สั่งเพิ่มจานละ 20 บาท(แอบแพงไปนิด) แต่ถ้าถามว่าคุ้มไหม ผมว่าคุ้มครับแต่ใครอยากเอาอะไรไปปิ้งเองก็ได้นะครับ ให้เขาตั้งเตาให้ได้แต่ที่นี่ไม่อนุญาติให้ก่อกองไฟนะ หลังจากพระอาทิตย์ตกดินที่นี่จะมีชื่อเสียงอีกอย่างหนึ่งก็คือทางช้างเผือก วันไหนโชคดีฟ้าเปิดก็อาจจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าเลย ผมเห็นมีคนมานอนรอถ่ายรูปทางช้างเผือกกันทั้งคืนเลยที่นี่ ตกกลางคืนอากาศก็หนาวเย็นสบายๆ เสื้อหนาวกันลมบางตัวเดียวก็เอาอยู่ แต่ลมค่อนข้างแรงเลยทีเดียว ผมไปช่วงกลางเดือนตุลาคม ตอนกลางคืนนอนไม่ต้องใส่เสื้อหนาวเลยครับเพราะเขามีผ้าห่มผ้าปูที่นอนให้ ผมบอกเลยว่าทั้งนุ่มทั้งอุ่นสบายมากๆ ผมจบคืนนี้ด้วยการจิบเหล้านอนดูดาวแล้วจึงเข้านอน
ผมตื่น 5:30 น ออกมาสูดอากาศตอนเช้า ที่นี่ผมยังไม่เห็นทะเลหมอกนะมีแต่หมอกกระจายไปทั่วแทน ที่ผมไปพักเขายังมีบริการข้าวต้มให้สำหรับตอนเช้าอีกต่างหากแถมฟรีด้วย ส่วนใครอยากจิบกาแฟจิบชาทางนั้นก็มีบริการเพิ่มให้นะครับแต่ไม่ฟรี ผมกลับลงมาจากยอดดอยหลังจากทานข้าวต้มเสร็จโดยให้พี่หรือขับรถกระบะมาส่ง เขาไม่คิดค่าบริการผมนะอาจจะเป็นเพราะว่าผมใช้บริการที่พักแบบเต้นท์ของเขาหรือเปล่าก็ไม่รู้
สรุปอันเป็นว่าจบคลิปรีวิวดอยแม่โถทุ่งหญ้าสะวันนาเป็นที่เรียบร้อยส่วนใครถ้าอยากดูวีดีโอผมทำไว้เรียบร้อยแล้วนะครับเชิญชมได้เลย
ป.ล. รูปอาจจะน้อยเพราะผมเน้นถ่ายแต่วีดีโอแทน
ผมทำวิดีโอไว้เรียบร้อยแล้วกดดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลยนะครับ แล้วก็ฝสดกดไลค์ กดแชร์ และกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจหน่อยนะครัชชช
https://youtu.be/ixo6OmkeA8kก็
ส่วนเพจเฟซบุ๊กก็ตามลิ้งค์อันนี้เลยนะครับ ฝากกดติดตามด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/vlogbunny/videos/634014887482709/
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้