สวัสดีจย้าาาา !!!!!! เราชื่อเอ เราเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ผู้มีประสบการณ์กับการแก้จมูกมาแล้ว 2 ครั้ง อิอิ
เราจะมาแชร์เรื่องของเราให้เพื่อนๆ ฟัง
จมูกดั้งเดิมที่พ่อแม่ให้เรามาตั้งแต่เกิด เป็นแบบนี้ ...
จริงๆ เราก็เป็นคนที่มาเนื้อจมูกในระดับนึง มีเนื้อส่วนปลาย แต่เราไม่มีสัน มันเลยทำให้หน้าเราดูแป้นๆ กลมๆ ไปหน่อย
ครั้งแรกที่ทำ ด้วยเพราะตัวเองเรียนที่อุบลฯ อยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่า หาคลินิกทำที่อุบลฯ แหละ เวลาตัดไหม หรือ ถ้ามีปัญหาอะไร จะได้ไม่ต้องยุ่งยากไปไกล ก็เลยตัดช้อยอื่นที่อยู่นอกอุบลฯ ออก ซึ่งจริงๆ ก็มีคนแนะนำให้ค่อยๆ หา ลองเลือกดีๆ แต่เพราะอยากสวยไวๆ ก็เลยไม่ได้เสพรีวิวอะไรเยอะแยะ
.... ด้วยความที่อยากทำมากกกกกกกก และความบังเอิญไปเจอคลินิก S (เราขอใช้เป็นชื่อย่อ) เป็นคลินิกเปิดใหม่ ลดราคาสำหรับเคสรีวิว (ตอนนั้นเราทำในราคา 4,999 บาท) ไอ่เราก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะคิดว่าทำคลินิกไหนก็คงเหมือนๆ กัน
\\\\\\\\ และแล้วว วันนัดเสริมจมูกก็มาถึง ////////
เราเตรียมตัวเตรียมใจอย่างดีเพื่อจะไปเสริมจมูก ซิลิโคนแท่งแรกในชีวิต พอไปถึงคุณหมอและพนง.แนะนำให้เราเปลี่ยนซิลิโคนเพิ่มเงินอีก 2,000 บาท
…….ปุ้ปบๆ ตุ้บปป เรียบร้อยสำหรับครั้งแรก รู้สึกเจ็บมาก จี๊ดๆ ตอนฉีดยาชา (ปล : พนง.น่ากลัวมากกก บริการไม่โอเคเลย อยู่ในห้องผ่าเราเกร็งไปหมด) หลังจากทำเสร็จ เราก็ดูแลตัวเองอย่างดี ประคบเย็น ทานยาตามที่หมอให้ ตอนแรกเรารู้สึกพอใจละ ทรงสวย แบบที่เราอยากได้ (>\\<) พอเวลาผ่านไป เราไม่แน่ใจว่าประมาณ 4 หรือ 5 เดือน อยู่ดีๆ เรารู้สึกว่าซิลิโคนมันเอียง มันเบี้ยวไปจากตอนแรก เพื่อนๆ ก็เริ่มทักว่า "จมูกมันเบี้ยวหรือตากุเอียงวะ" เราก็เลยเริ่มกังวล ก็เลยกลับมาหาคุณหมอที่คลินิกเพื่อให้หมอตรวจ
พอเรามาถึงที่คลินิก เนื่องด้วยเราติดต่อผ่านทางแชทมาก่อนแล้ว ว่าจมูกเราเป็นยังไง พนง.ก็บิ้วด์ ไม่อยากให้เราแก้ บอกว่าจมูกมันสวยแล้ว จะแก้ทำไม (ทำหน้าเหมือนไม่พอใจ) แต่พอเราไปพบกับคุณหมอที่ทำให้ คุณหมอไม่พูดอะไรเยอะ ตอบแค่ว่า "ครับ มันเบี้ยว และขาซิลิโคนน่าจะโผล่ "
แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ตอบไปแค่ " ค่ะ " เนื่องด้วยตอนที่จมูกเรามันเบี้ยว มันยังอยู่ในช่วงรับประกันของทางคลินิก (ทางคลินิกเขารับประกัน 6 เดือน) คุณหมอเลยแก้ให้ รอบนี้เจ็บมากกกกกกกกกก จนเราร้องไห้ แถมยังได้จ่ายค่ายาเพิ่มอีก 1,000 บาท
แถ่น แถ้น แถ๊นนนนนนนน .........
( ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นความแดงตรงปลายจมูกเรา // ถ่ายรูปทุกรอบเห็นตัลลอดดดดดดด )
แก้มาแล้วจ้าาาาาาาาา แต่ แต่ แต่ ไม่จบค่ะ ผ่านไป 2-3 เดือนอาการเบี้ยวของซิลิโคนยังคงมีอยู่ บวกเพิ่มมาด้วยอาการแดง ปลายตุงๆ ใกล้ทะลุ เนื่องจากทรงจมูกของเราพุ่งมาก ปลายแหลม โอ้วววว มาย ก้อตตตตตตต แม่เจ้า น้ำตาจะไหลลลล นี่คิดว่าตัวเองจะหลุดพ้นมาได้แล้วนะ
อาการแดงของเราเกิดขึ้นตอนที่เวลาเราออกแดด เมื่อไหร่มีแดดนะ จมูกแดงจ้ะ สันแดงออกมาเลยยยยย แล้วเราก็รู้สึกเจ็บแป็ปๆ ตรงปลายจมูก เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่มั้ยอย่างนี้ ~ ~ ~ ~ โทดที นอกเรื่อง
ต่อๆ เราก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง เราอยู่กับสันจมูกแดงๆ และอาการซิลิโคนใกล้ทะลุมาประมาณ 2 เดือน เอาจริงๆ เราก้ร็สึกว่าไม่อยากแก้แล้วนะ เราไม่อยากเฟลอีก แต่ถ้าไม่แก้ก็จมูกก็แดง ไม่รู้จะทะลุวันไหนอีก
สุดท้ายยยยยย เราก็ตัดสินใจแก้อีกครั้ง พักก่อนกับคลินิกเดิม 2 ครั้งไม่ได้ช่วยอะไรชั้นเลยยยยย รอบนี้เราดูรีวิวหลายคลินิกมากขึ้น ไม่ใจร้อน ค่อยๆ หา ไปเรื่อยๆ จนมาเจอคลินิกนึงที่ขอนแก่น เนื่องด้วยความประทับใจ เราขออนุญาต เอ่ยชื่อ " คุณชายคลินิก เวชกรรม (ขอนแก่น) " จำได้ว่าตอนแรกที่ทักเข้าไปในเพจเราขอคุยกับคุณหมอก่อน ยังไม่ได้ตัดสินใจจองไป แล้วก็นัดคิวคุยกับคุณหมอ พอเราได้คุยกับคุณหมอ ก็เลยรู้ว่าที่จมูกเราเป็นแดงๆ ใกล้ทะลุ เพราะตัวซิลิโคนมันยาวและกว้างกว่าจมูกของเรา เลยเกิดอาการเหล่านี้ พอคุยกับคุณหมอก็รู้สึกอุ่นใจขึ้น และพนง.ของทางคลินิกก็บอกด้วยว่า ถ้าทำที่นี่แล้วจมูกมีปัญหาหรืออะไร คุณหมอรับประกันแก้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดชีวิต >> ใช่จ้ะ เราไม่แน่ใจว่าเพราะคำนี้รึป่าว ที่ทำให้เรารู้สึกว่า อืมมม คลินิกนี้ ดูโอเค ถ้าคุณหมอกล้ารับประกันแบบนั้น ก็แปลว่าต้องทำดี
เอาจริง ๆ การแก้เรารอบนี้เราไม่มีทรงในใจ ไม่มีอะไรเลย ขอแค่จมูกดูคมขึ้น แล้วก็ปลอดภัยจากปัญหาทั้งหลายทั้งปวงที่เคยทำมา
และวันแก้จมูกครั้งที่ 2 ก็มาถึงงงง เป็นไงคะซิสสสส ตรงมั้ยละจ้ะะะะะะะ 5555555555 (T^T)
***** งานจมูกแดง เรืองแสงก็มาาาาาว่ะแกรรรรร ~~~~~~~~~
ครั้งนี้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าการแก้รอบก่อนมากกกก เนื่องจากมีการมาร์คยาชาที่จมูกไว้ก่อน เลยทำให้ตอนที่คุณหมอฉีดยาชาไม่ได้รู้สึกเจ็บมากเท่าไหร่ ระหว่างที่ทำๆ ไปพี่ๆ พนง.จะคอยบอกตลอดว่าตอนนี้คุณหมอ ทำนั่นอยู่ ทำนี่อยู่นะคะ คอยจับมือ ปลอบตลอด เราก็คิดในใจ เออ ดีเว้ย (ละคือที่คลินิกก่อนไม่มีเลยนะ ให้นอนรอไปจ้ะ บทหมอจะมากรีด จะมาฉีดก็มาแบบไม่ได้ตั้งตัว) เคสเราใช้เวลาแก้อยู่น่าจะประมาณ 1 ชั่วโมง
อ้ออ ตอนที่คุณหมอถอดซิลิโคนอันเก่าออกมาให้ดูแล้วก็วางบนจมูกของเรา อื้อออหือออออ มันยาวกว่าจมูกเราจริงๆ มันเลยทำให้เรารู้สึกเจ็บๆ ตรงปลายจมูก หลังจากนั้นก็เป็นอันเสร็จการแก้จมูกรอบที่ 2
( เราขอรูปนี้จากทางคลินิก และทางคลินิกก็อนุญาตแล้วว เพื่อให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น )
ครั้งนี้เรารู้สึกพอใจกับจมูกเรามาก ทรงที่ได้ก็รู้สึกเข้ากับหน้าเราดี หลังทำก็ไม่มีอาการบวมช้ำมากเท่าไหร่ ตอนนี้ทำมาได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พวกปัญหาเดิมที่เคยมี ตอนนี้ก็ไม่มี ใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจแล้วจ้าาาาาาาาา
จมูกใหม่ งานก็มาจ้าาาาาาาา >\\<
ปล. เราอยากฝากถึงคนที่อยากเสริมจมูกหรืออยากแก้จมูกนะ ว่าอย่าใจร้อน ค่อยๆ หา ดูหลายๆ คลินิก อย่าเห็นแก่ของถูกมากเกินไป เดี๋ยวจะมีปัญหาตามมาทีหลัง (เหมือนเราาาา แงะ)
ปล.2 ที่เรามารีวิว เราแค่มาเล่าปสก. ของเราให้ฟัง ไม่ได้จะพาดพิงหรืออวยคลินิกใดๆ
ปล.3 เราจ่ายเองทุกบาททุกสตางงงงเด้อออออ
--------------------------- จบการรีวิวงับ --------------------------------
[SR] บทสรุปสุดท้ายยยย ของการแก้จมูกจย้าาาาาา
เราจะมาแชร์เรื่องของเราให้เพื่อนๆ ฟัง
จมูกดั้งเดิมที่พ่อแม่ให้เรามาตั้งแต่เกิด เป็นแบบนี้ ...
จริงๆ เราก็เป็นคนที่มาเนื้อจมูกในระดับนึง มีเนื้อส่วนปลาย แต่เราไม่มีสัน มันเลยทำให้หน้าเราดูแป้นๆ กลมๆ ไปหน่อย
ครั้งแรกที่ทำ ด้วยเพราะตัวเองเรียนที่อุบลฯ อยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่า หาคลินิกทำที่อุบลฯ แหละ เวลาตัดไหม หรือ ถ้ามีปัญหาอะไร จะได้ไม่ต้องยุ่งยากไปไกล ก็เลยตัดช้อยอื่นที่อยู่นอกอุบลฯ ออก ซึ่งจริงๆ ก็มีคนแนะนำให้ค่อยๆ หา ลองเลือกดีๆ แต่เพราะอยากสวยไวๆ ก็เลยไม่ได้เสพรีวิวอะไรเยอะแยะ
.... ด้วยความที่อยากทำมากกกกกกกก และความบังเอิญไปเจอคลินิก S (เราขอใช้เป็นชื่อย่อ) เป็นคลินิกเปิดใหม่ ลดราคาสำหรับเคสรีวิว (ตอนนั้นเราทำในราคา 4,999 บาท) ไอ่เราก็ไม่ได้อะไรมาก เพราะคิดว่าทำคลินิกไหนก็คงเหมือนๆ กัน
\\\\\\\\ และแล้วว วันนัดเสริมจมูกก็มาถึง ////////
เราเตรียมตัวเตรียมใจอย่างดีเพื่อจะไปเสริมจมูก ซิลิโคนแท่งแรกในชีวิต พอไปถึงคุณหมอและพนง.แนะนำให้เราเปลี่ยนซิลิโคนเพิ่มเงินอีก 2,000 บาท
…….ปุ้ปบๆ ตุ้บปป เรียบร้อยสำหรับครั้งแรก รู้สึกเจ็บมาก จี๊ดๆ ตอนฉีดยาชา (ปล : พนง.น่ากลัวมากกก บริการไม่โอเคเลย อยู่ในห้องผ่าเราเกร็งไปหมด) หลังจากทำเสร็จ เราก็ดูแลตัวเองอย่างดี ประคบเย็น ทานยาตามที่หมอให้ ตอนแรกเรารู้สึกพอใจละ ทรงสวย แบบที่เราอยากได้ (>\\<) พอเวลาผ่านไป เราไม่แน่ใจว่าประมาณ 4 หรือ 5 เดือน อยู่ดีๆ เรารู้สึกว่าซิลิโคนมันเอียง มันเบี้ยวไปจากตอนแรก เพื่อนๆ ก็เริ่มทักว่า "จมูกมันเบี้ยวหรือตากุเอียงวะ" เราก็เลยเริ่มกังวล ก็เลยกลับมาหาคุณหมอที่คลินิกเพื่อให้หมอตรวจ
พอเรามาถึงที่คลินิก เนื่องด้วยเราติดต่อผ่านทางแชทมาก่อนแล้ว ว่าจมูกเราเป็นยังไง พนง.ก็บิ้วด์ ไม่อยากให้เราแก้ บอกว่าจมูกมันสวยแล้ว จะแก้ทำไม (ทำหน้าเหมือนไม่พอใจ) แต่พอเราไปพบกับคุณหมอที่ทำให้ คุณหมอไม่พูดอะไรเยอะ ตอบแค่ว่า "ครับ มันเบี้ยว และขาซิลิโคนน่าจะโผล่ "
แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ตอบไปแค่ " ค่ะ " เนื่องด้วยตอนที่จมูกเรามันเบี้ยว มันยังอยู่ในช่วงรับประกันของทางคลินิก (ทางคลินิกเขารับประกัน 6 เดือน) คุณหมอเลยแก้ให้ รอบนี้เจ็บมากกกกกกกกกก จนเราร้องไห้ แถมยังได้จ่ายค่ายาเพิ่มอีก 1,000 บาท
แถ่น แถ้น แถ๊นนนนนนนน .........
( ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นความแดงตรงปลายจมูกเรา // ถ่ายรูปทุกรอบเห็นตัลลอดดดดดดด )
แก้มาแล้วจ้าาาาาาาาา แต่ แต่ แต่ ไม่จบค่ะ ผ่านไป 2-3 เดือนอาการเบี้ยวของซิลิโคนยังคงมีอยู่ บวกเพิ่มมาด้วยอาการแดง ปลายตุงๆ ใกล้ทะลุ เนื่องจากทรงจมูกของเราพุ่งมาก ปลายแหลม โอ้วววว มาย ก้อตตตตตตต แม่เจ้า น้ำตาจะไหลลลล นี่คิดว่าตัวเองจะหลุดพ้นมาได้แล้วนะ
อาการแดงของเราเกิดขึ้นตอนที่เวลาเราออกแดด เมื่อไหร่มีแดดนะ จมูกแดงจ้ะ สันแดงออกมาเลยยยยย แล้วเราก็รู้สึกเจ็บแป็ปๆ ตรงปลายจมูก เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อกหักใช่มั้ยอย่างนี้ ~ ~ ~ ~ โทดที นอกเรื่อง
ต่อๆ เราก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง เราอยู่กับสันจมูกแดงๆ และอาการซิลิโคนใกล้ทะลุมาประมาณ 2 เดือน เอาจริงๆ เราก้ร็สึกว่าไม่อยากแก้แล้วนะ เราไม่อยากเฟลอีก แต่ถ้าไม่แก้ก็จมูกก็แดง ไม่รู้จะทะลุวันไหนอีก
สุดท้ายยยยยย เราก็ตัดสินใจแก้อีกครั้ง พักก่อนกับคลินิกเดิม 2 ครั้งไม่ได้ช่วยอะไรชั้นเลยยยยย รอบนี้เราดูรีวิวหลายคลินิกมากขึ้น ไม่ใจร้อน ค่อยๆ หา ไปเรื่อยๆ จนมาเจอคลินิกนึงที่ขอนแก่น เนื่องด้วยความประทับใจ เราขออนุญาต เอ่ยชื่อ " คุณชายคลินิก เวชกรรม (ขอนแก่น) " จำได้ว่าตอนแรกที่ทักเข้าไปในเพจเราขอคุยกับคุณหมอก่อน ยังไม่ได้ตัดสินใจจองไป แล้วก็นัดคิวคุยกับคุณหมอ พอเราได้คุยกับคุณหมอ ก็เลยรู้ว่าที่จมูกเราเป็นแดงๆ ใกล้ทะลุ เพราะตัวซิลิโคนมันยาวและกว้างกว่าจมูกของเรา เลยเกิดอาการเหล่านี้ พอคุยกับคุณหมอก็รู้สึกอุ่นใจขึ้น และพนง.ของทางคลินิกก็บอกด้วยว่า ถ้าทำที่นี่แล้วจมูกมีปัญหาหรืออะไร คุณหมอรับประกันแก้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ตลอดชีวิต >> ใช่จ้ะ เราไม่แน่ใจว่าเพราะคำนี้รึป่าว ที่ทำให้เรารู้สึกว่า อืมมม คลินิกนี้ ดูโอเค ถ้าคุณหมอกล้ารับประกันแบบนั้น ก็แปลว่าต้องทำดี
เอาจริง ๆ การแก้เรารอบนี้เราไม่มีทรงในใจ ไม่มีอะไรเลย ขอแค่จมูกดูคมขึ้น แล้วก็ปลอดภัยจากปัญหาทั้งหลายทั้งปวงที่เคยทำมา
และวันแก้จมูกครั้งที่ 2 ก็มาถึงงงง เป็นไงคะซิสสสส ตรงมั้ยละจ้ะะะะะะะ 5555555555 (T^T)
***** งานจมูกแดง เรืองแสงก็มาาาาาว่ะแกรรรรร ~~~~~~~~~
ครั้งนี้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าการแก้รอบก่อนมากกกก เนื่องจากมีการมาร์คยาชาที่จมูกไว้ก่อน เลยทำให้ตอนที่คุณหมอฉีดยาชาไม่ได้รู้สึกเจ็บมากเท่าไหร่ ระหว่างที่ทำๆ ไปพี่ๆ พนง.จะคอยบอกตลอดว่าตอนนี้คุณหมอ ทำนั่นอยู่ ทำนี่อยู่นะคะ คอยจับมือ ปลอบตลอด เราก็คิดในใจ เออ ดีเว้ย (ละคือที่คลินิกก่อนไม่มีเลยนะ ให้นอนรอไปจ้ะ บทหมอจะมากรีด จะมาฉีดก็มาแบบไม่ได้ตั้งตัว) เคสเราใช้เวลาแก้อยู่น่าจะประมาณ 1 ชั่วโมง
อ้ออ ตอนที่คุณหมอถอดซิลิโคนอันเก่าออกมาให้ดูแล้วก็วางบนจมูกของเรา อื้อออหือออออ มันยาวกว่าจมูกเราจริงๆ มันเลยทำให้เรารู้สึกเจ็บๆ ตรงปลายจมูก หลังจากนั้นก็เป็นอันเสร็จการแก้จมูกรอบที่ 2
( เราขอรูปนี้จากทางคลินิก และทางคลินิกก็อนุญาตแล้วว เพื่อให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้น )
ครั้งนี้เรารู้สึกพอใจกับจมูกเรามาก ทรงที่ได้ก็รู้สึกเข้ากับหน้าเราดี หลังทำก็ไม่มีอาการบวมช้ำมากเท่าไหร่ ตอนนี้ทำมาได้ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว พวกปัญหาเดิมที่เคยมี ตอนนี้ก็ไม่มี ใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจแล้วจ้าาาาาาาาา
จมูกใหม่ งานก็มาจ้าาาาาาาา >\\<
ปล. เราอยากฝากถึงคนที่อยากเสริมจมูกหรืออยากแก้จมูกนะ ว่าอย่าใจร้อน ค่อยๆ หา ดูหลายๆ คลินิก อย่าเห็นแก่ของถูกมากเกินไป เดี๋ยวจะมีปัญหาตามมาทีหลัง (เหมือนเราาาา แงะ)
ปล.2 ที่เรามารีวิว เราแค่มาเล่าปสก. ของเราให้ฟัง ไม่ได้จะพาดพิงหรืออวยคลินิกใดๆ
ปล.3 เราจ่ายเองทุกบาททุกสตางงงงเด้อออออ
--------------------------- จบการรีวิวงับ --------------------------------
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้