ผมเองเป็นเด็กจบใหม่ในยุคที่โควิดระบาดตอนนี้หางานมา7เดือนแล้วครับยังไม่มีงานทำ แรกๆก็หางานแถวบ้านปรากฏว่างานก็มีนะครับแต่น้อยมาก แทบไม่มีลงประกาศในเว็บเลย ถ้ามีก็จะมีงานที่เราไม่ได้จบมาในสาขานั้นๆ ตัวผมเองนั้นจบนิติศาสตร์ครับ ตอนนี้อยากขอทำงานเป็นนิติกรดูก่อนยังไม่อยากเรียนต่อเนื่องจากที่บ้านไม่ค่อยมีเงิน ซึ่งถ้าหากพูดถึงงานตำแหน่งนิติกรในต่างจังหวัดแล้วส่วนใหญ่จะไม่รับเด็กจบใหม่ จะรับเฉพาะคนที่มีประสบการณ์แล้ว หรือรับคนที่อายุ 25 ขึ้นไป จะเห็นก็แต่ในกทม.ที่งานเกี่ยวกับนิติกรค่อนข้างเยอะมากและรับเด็กจบใหม่ก็มีเยอะ ซึ่งใน6เดือนแรกผมใช้ที่อยู่ปัจจุบันที่ต่างจังหวัดสมัครปรากฏว่าไม่มีบริษัทไหนเรียกสัมภาษณ์เลยครับ ไม่มีอีเมลเชิญให้ไปสัมภาษณ์ มีแต่งานขายโทรมา
ผมจึงได้ลองเปลี่ยนที่อยู่ในใบสมัคร หรือที่อยู่ในเว็บหางาน ปรากฏว่ามันใช้ได้ผลครับ หลังจากเปลี่ยนที่อยู่แล้วไม่กี่วันถัดมามีอีเมลจากหลายๆบริษัทเชิญให้ไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งดังกล่าว บางบริษัทก็เชิญมาเลยโดยที่ผมยังไม่ได้กดสมัคร ผมรู้สึกถึงความหวังขึ้นมาทันที แต่ก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ที่ใช้ที่อยู่เพื่อนในการสมัครงานซึ่งทำให้ได้มาในการถูกเรียกไปสัมภาษณ์
ผมเลยอยากถามในมุมมองของ hr หรือผู้สัมภาษณ์ครับ ว่าถ้าหากผมบอกความจริงในวันที่ไปสัมภาษณ์ว่าที่จริงนั้นผมเป็นเด็กต่างจังหวัด อยากมาหางานที่กรุงเทพทำเพราะงานที่เปิดรับสมัครและรับเด็กจบใหม่มันมีเยอะกว่า hr หรือผู้สัมภาษณ์จะรู้สึกอย่างไรกับเด็กคนนี้ครับ
หางานยาก อยากหางานในกทม.เลยใช้ที่อยู่เพื่อนที่กรุงเทพสมัครงานเพื่อให้บริษัทเรียกสัมภาษณ์ ในสายตา HR รู้สึกอย่างไรครับ
ผมจึงได้ลองเปลี่ยนที่อยู่ในใบสมัคร หรือที่อยู่ในเว็บหางาน ปรากฏว่ามันใช้ได้ผลครับ หลังจากเปลี่ยนที่อยู่แล้วไม่กี่วันถัดมามีอีเมลจากหลายๆบริษัทเชิญให้ไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งดังกล่าว บางบริษัทก็เชิญมาเลยโดยที่ผมยังไม่ได้กดสมัคร ผมรู้สึกถึงความหวังขึ้นมาทันที แต่ก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ที่ใช้ที่อยู่เพื่อนในการสมัครงานซึ่งทำให้ได้มาในการถูกเรียกไปสัมภาษณ์
ผมเลยอยากถามในมุมมองของ hr หรือผู้สัมภาษณ์ครับ ว่าถ้าหากผมบอกความจริงในวันที่ไปสัมภาษณ์ว่าที่จริงนั้นผมเป็นเด็กต่างจังหวัด อยากมาหางานที่กรุงเทพทำเพราะงานที่เปิดรับสมัครและรับเด็กจบใหม่มันมีเยอะกว่า hr หรือผู้สัมภาษณ์จะรู้สึกอย่างไรกับเด็กคนนี้ครับ