ชื่อของ “นู สเรย์ โปว” อาจทำให้ชาวไทยจดจำยากและไม่คุ้นปาก แต่หากบอกว่าแชมป์คุนแขมร์สาวชาวกัมพูชารายนี้ คือคนที่เคยสร้างความบอบช้ำให้กับ “ริกะ อิชิเกะ” นักสู้สาวลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น จนต้องพ่ายบนสังเวียนในบ้านเกิด เชื่อว่าหลายคนน่าจะจดจำไฟต์นั้นได้อย่างติดตา
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคมนี้ “นู สเรย์ โปว” จะกลับมาขึ้นสังเวียนเป็นครั้งที่ 3 ใน วัน แชมเปียนชิพ เพื่อไต่อันดับและสร้างชื่อของเธอในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) โดยจะต้องข้ามผ่านด่านหินจากยอดนักสู้มวยปล้ำหญิงชาวอินเดีย “The Indian Tigress” ริตู โฟกาต ไปให้ได้ ในศึก ONE: INSIDE THE MATRIX
นู ติดตามผลงานของนักสู้สาวชาวอินเดีย เจ้าของเหรียญทองมวยปล้ำคอมมอนเวลท์ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ใน วัน แชมเปียนชิพ เพราะถือเป็นคู่แข่งรายสำคัญของรุ่นอะตอมเวต ทำให้เธอเห็นว่า ริตู สามารถประยุกต์ทักษะมวยปล้ำมาใช้ในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานได้เป็นอย่างดี
“ฉันได้ดูการแข่งขันของ ริตู ใน วัน แชมเปียนชิพ เธอทั้งเร็ว และมีทักษะการปล้ำล็อกที่อันตราย เต็มไปด้วยพลังและความแข็งแกร่ง สิ่งที่ฉันต้องทำคือการป้องกันตัวตั้งแต่วินาทีแรก และพยายามเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่จะทำให้ฉันเสียเปรียบในเกมมวยปล้ำ”
แชมป์คุนแขมร์สาว วัย 25 ปี เจ้าของสถิติการแข่งขันคุนแขมร์ 91-8-2 มีพื้นฐานการยืนสู้ไม่น้อยหน้าใคร เธอได้อวดความแข็งแกร่งให้เป็นที่ประจักษ์ ตั้งแต่ครั้งบุกมาดินแดนสยาม ถิ่นกำเนิดของกีฬามวยไทย และเล่นงาน “ริกะ อิชิกะ” อย่างหมดทางสู้ในไฟต์เปิดตัวของเธอเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก่อนที่ไฟต์ต่อมาเธอจะพ่ายให้กับแชมป์วูซูระดับประเทศอินโดนีเซีย “พริสซิลลา เฮอร์ตาติ ลุมบัน กาโอล์” ด้วยคะแนนเอกฉันท์
เส้นทางนักสู้ไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ การกลับมากู้หน้าของเธอในไฟต์ที่ 3 กลับต้องเจอก้างชิ้นใหญ่อย่าง ริตู ที่โชว์ฟอร์มสวยหรูตั้งแต่เปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ด้วยการปิดเกมโหดคู่แข่งสาวชาวเกาหลีใต้ “นัม ฮี คิม” ในยกแรก ก่อนที่ 3 เดือนต่อมาเธอจะเก็บชัยชนะอีกครั้งหลังเอาชนะนักสู้สาวไทเป “หวู เฉี่ยว เฉิน” ด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์
ตอนนี้ นู ได้ฝึกซ้อมกับโค้ชใหม่ “อลัน แมคคูน” และ “ครูฤทธิ์ เจีย” ที่ Kun Khmer Warriors Fight Team พร้อมกับยกระดับทักษะการปล้ำล็อกที่ยิม คีรี ยิวยิตสู ร่วมกับบรรดานักมวยปล้ำทีมชาติกัมพูชา
“การฝึกกับโค้ช อลัน เน้นพัฒนาทักษะการป้องกันตัวจากการถูกเทกดาวน์ ส่วนที่ คีรี ยิวยิตสู ก็ช่วยรวบเทคนิคการนอนสู้ให้ฉันภายใต้ระยะเวลาเตรียมตัวสั้นๆ”
“ในไฟต์ก่อนๆ ฉันยังติดกับการใช้หมัดบ่อยมาก แต่ครั้งนี้ฉันมีศอกเสริมเข้าไปด้วย เพราะมันเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งและอันตรายเมื่ออยู่ในระยะประชิด หากฉันถูกเทกดาวน์ค่ะ”
ถือเป็นอีกไฟต์ที่แฟนๆ จะได้เห็นความต่างขั้วระหว่างนักสู้สาวกัมพูชาสุดแกร่งในเกมยืนสู้ และซูเปอร์สตาร์สาวชาวอินเดียที่ถนัดในเกมปล้ำ ความมันจึงอยู่ที่ใครจะคุมเกมได้เหนือกว่ากัน และคนที่ใช้ทักษะที่ตัวเองถนัดได้ดีกว่าก็จะคว้าชัยชนะไปครอบครองในที่สุด
“นู สเรย์ โปว” แชมป์คุนแขมร์ เสริมแกร่งเตรียมปะทะ รับมือ “ริตู โฟกาต" นักมวยปล้ำหญิงชาวอินเดีย
วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคมนี้ “นู สเรย์ โปว” จะกลับมาขึ้นสังเวียนเป็นครั้งที่ 3 ใน วัน แชมเปียนชิพ เพื่อไต่อันดับและสร้างชื่อของเธอในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) โดยจะต้องข้ามผ่านด่านหินจากยอดนักสู้มวยปล้ำหญิงชาวอินเดีย “The Indian Tigress” ริตู โฟกาต ไปให้ได้ ในศึก ONE: INSIDE THE MATRIX
นู ติดตามผลงานของนักสู้สาวชาวอินเดีย เจ้าของเหรียญทองมวยปล้ำคอมมอนเวลท์ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ใน วัน แชมเปียนชิพ เพราะถือเป็นคู่แข่งรายสำคัญของรุ่นอะตอมเวต ทำให้เธอเห็นว่า ริตู สามารถประยุกต์ทักษะมวยปล้ำมาใช้ในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสานได้เป็นอย่างดี
“ฉันได้ดูการแข่งขันของ ริตู ใน วัน แชมเปียนชิพ เธอทั้งเร็ว และมีทักษะการปล้ำล็อกที่อันตราย เต็มไปด้วยพลังและความแข็งแกร่ง สิ่งที่ฉันต้องทำคือการป้องกันตัวตั้งแต่วินาทีแรก และพยายามเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่จะทำให้ฉันเสียเปรียบในเกมมวยปล้ำ”
แชมป์คุนแขมร์สาว วัย 25 ปี เจ้าของสถิติการแข่งขันคุนแขมร์ 91-8-2 มีพื้นฐานการยืนสู้ไม่น้อยหน้าใคร เธอได้อวดความแข็งแกร่งให้เป็นที่ประจักษ์ ตั้งแต่ครั้งบุกมาดินแดนสยาม ถิ่นกำเนิดของกีฬามวยไทย และเล่นงาน “ริกะ อิชิกะ” อย่างหมดทางสู้ในไฟต์เปิดตัวของเธอเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก่อนที่ไฟต์ต่อมาเธอจะพ่ายให้กับแชมป์วูซูระดับประเทศอินโดนีเซีย “พริสซิลลา เฮอร์ตาติ ลุมบัน กาโอล์” ด้วยคะแนนเอกฉันท์
เส้นทางนักสู้ไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ การกลับมากู้หน้าของเธอในไฟต์ที่ 3 กลับต้องเจอก้างชิ้นใหญ่อย่าง ริตู ที่โชว์ฟอร์มสวยหรูตั้งแต่เปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ด้วยการปิดเกมโหดคู่แข่งสาวชาวเกาหลีใต้ “นัม ฮี คิม” ในยกแรก ก่อนที่ 3 เดือนต่อมาเธอจะเก็บชัยชนะอีกครั้งหลังเอาชนะนักสู้สาวไทเป “หวู เฉี่ยว เฉิน” ด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์
“การฝึกกับโค้ช อลัน เน้นพัฒนาทักษะการป้องกันตัวจากการถูกเทกดาวน์ ส่วนที่ คีรี ยิวยิตสู ก็ช่วยรวบเทคนิคการนอนสู้ให้ฉันภายใต้ระยะเวลาเตรียมตัวสั้นๆ”
“ในไฟต์ก่อนๆ ฉันยังติดกับการใช้หมัดบ่อยมาก แต่ครั้งนี้ฉันมีศอกเสริมเข้าไปด้วย เพราะมันเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งและอันตรายเมื่ออยู่ในระยะประชิด หากฉันถูกเทกดาวน์ค่ะ”
ถือเป็นอีกไฟต์ที่แฟนๆ จะได้เห็นความต่างขั้วระหว่างนักสู้สาวกัมพูชาสุดแกร่งในเกมยืนสู้ และซูเปอร์สตาร์สาวชาวอินเดียที่ถนัดในเกมปล้ำ ความมันจึงอยู่ที่ใครจะคุมเกมได้เหนือกว่ากัน และคนที่ใช้ทักษะที่ตัวเองถนัดได้ดีกว่าก็จะคว้าชัยชนะไปครอบครองในที่สุด