ดาวน์0% ผ่อน 84งวด ดอก 3.8 แพงไปไหมคะ

ขอสอบถามนะคะ ถ้าเราดาวน์รถ 0 % ผ่อน 84 งวด
ดอก3.8 แพงไหมคะ หรือปกติ รถรุ่น yaris 5 ประตู 2020 รองท็อป ราคา 609,000 ค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ถ้าถามว่าแพงกว่าคนอื่นไหม ตอบว่าไม่หรอก ประมาณนี้แหละจ้า

แต่ถ้าถามว่าดอกเบี้ยเท่านี้มันแพงไหม บอกเลยว่าแพงมากๆๆๆๆๆ

ถ้าชัวร์ว่ารายได้มั่นคง เช่น เป็นข้าราชการประจำ ก็จัดได้เลย

ราคารถ 609,000 บาท ดอกเบี้ย 161,994 บาท ผ่อนงวดละ 9,178.50 บาท

แต่ถ้าเกิดสะดุดขึ้นมา สมมุติว่าผ่อนไป 6 เดือนแล้วอยากขายทิ้ง จะเท่ากับว่าผ่อนไปแล้ว 55,071 บาท เหลือหนี้ 715,923 บาท

ถึงเวลานั้นอาจจะงงว่า เอ๊ะ รถราคา 6 แสน หนี้มาจากไหน เพราะลืมคิดไปว่าดอกเบี้ย 3.8% 7 ปี เท่ากับร้อยละ 26.6 ของราคารถ หรือเพิ่มมาอีก 1 ใน 4

คำถามคือ รถป้ายแดงราคา 609,000 บาท ใช้ไป 6 เดือน จะมีใครซื้อต่อราคา 715,923 บาท หรือแม้แต่เปลี่ยนสัญญาไปผ่อนต่องวดละ 9,178.50 บาท (ค่าเปลี่ยนสัญญา+ค่างวดล่วงหน้า+ประกันภัย ฯลฯ ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่น ขนาดคุณยังดาวน์ 0% ได้ ถ้าคนอื่นมีเงิน 3 หมื่น ทำไมจะออกป้ายแดงไม่ได้)

อีกอย่างคือ คนที่ผ่อนรถเดือนละเกือบหมื่นไหว ถ้าไม่มองรถใหญ่กว่านี้ แนวโน้มที่เขาจะไปออกป้ายแดงเองก็สูงกว่ามาก เพราะผ่อนพอๆ กัน แต่ได้รถใหม่

สมมุติว่าผ่อนไป 1 ปี เหลือหนี้ 660,852 บาท เกิดมีความจำเป็น ทำให้ผ่อนรถไม่ได้อีกต่อไป หนทางกำจัดรถคันนี้คือต้องยกให้คนอื่นไปผ่อนต่อฟรีๆ

คนที่จะผ่อนต่อ ต้องยอมซื้อรถราคา 660,852 ทั้งๆ ที่ป้ายแดงราคา 609,000 (+ดอกเบี้ย) ถ้ามีคนที่จะผ่อนต่อเดือนละ 9 พันกว่าบาทได้ คาดว่าเขาก็คงไปออกป้ายแดงเหมือนกัน

แต่ๆๆ ถ้ารายได้คุณยืนพื้น ขั้นต่ำเลยนะ ตีว่าสัก 2 หมื่นกว่าบาท ไม่ตกงานแน่นอน ทั้งตัวเองและคนที่บ้านห้ามเจ็บป่วยเด็ดขาด ไม่กินไม่เที่ยวอะไรทั้งนั้น และพร้อมจะผ่อนรถคันนี้ 7 ปี ก็ทำได้

อย่าลืมว่า ถ้าจำเป็นต้องขายจริงๆ นี่กรณีสมมุติเฉยๆ นะ สมมุติว่าผ่อนไป 1 ปี 110,142 บาท แล้วต้องยกให้คนอื่นไปผ่อนต่อฟรีๆ เงินแสนที่จ่ายไป 1 ปีคือสูญเลยนะ

อย่าหาว่าขู่เลยนะ คนเราจะขับรถเนี่ย ความซวยมันรออยู่ตั้งแต่ปากซอยบ้านแล้ว ถ้าเกิดกรณีร้ายแรงสุดๆ เกิดอุบัติเหตุ คู่กรณีเสียชีวิต รถเราพังยับซ่อมไม่ได้ ต่อให้ประกันชั้น 1 เขาก็จ่ายแค่ทุนประกัน 70-80% ของมูลค่ารถ ถ้าเกิดขับไปแล้วเกิดเหตุ ประกันจ่ายไม่ถึง 5 แสน ส่วนต่างคุณต้องจ่ายคืนธนาคารเองนะ ไม่รวมค่าคดีความ ค่าทำขวัญ ฯลฯ ไม่ได้แช่งนะ แต่บอกเลยว่าโอกาสมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน คนเราขับรถมาดีๆ โดนคันอื่นสะกิดทีเดียว ชีวิตเปลี่ยนเลยนะ

กลับกัน ถ้าอดใจเก็บเงินสักปี จะผ่อนเดือนละ 9 พันใช่ไหม หยอดกระปุกไปเลยเดือนละ 9 พัน ครบปีเมื่อไหร่ กำเงินไปเลย 108,000 บาท อยากได้รุ่นไหนไปเลือกเอาเลย

ถ้ามีเงินดาวน์แสนบาท จะกลายเป็นว่ากู้ไฟแนนซ์ 501,000 รวมดอกเบี้ย สมมุติให้แพงๆ เลย 3.5% 5 ปี รวมเสียดอกเบี้ย 87,675 บาท เท่ากับยอดจัด 588,675 บาท เหลือผ่อนเดือนละ 9,811.25 บาท 60 งวด

หนี้น้อยกว่ากันแสนแปด

ถ้าผ่อนไปปีหนึ่งแล้วอยากขาย จะเท่ากับคุณผ่อนไปแล้ว 117,735 บาท เหลือหนี้อยู่ 470,940 บาท

รถราคาป้ายแดง 609,000 ใช้ไป 1 ปี คุณว่าบอกขายราคา 470,940 บาท กับ 715,923 บาท ราคาไหนเป็นไปได้กว่ากัน?

ถ้าจะผ่อนรถแบบนี้ได้ แบ็คอัพคุณต้องดีมากนะ ถ้าช็อตปั๊บ มีคนให้ยืมไหม ยืมแล้วเอาที่ไหนคืน เพราะถ้าเงินเดือนไม่ขยับแล้วมีเรื่องจำเป็นขึ้นมา เช่น อยู่ดีๆ ปวดฟัน เอกซเรย์ดูแล้วคุดทุกซี่ จะรอประกันสังคมไหวไหม ถ้าต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองจะเอาเงินที่ไหน ถ้าจ่ายค่าทำฟันแล้วเอาที่ไหนผ่อนรถ -- เงินสำรองต้องมีอย่างน้อย 6-12 เดือนถึงจะอุ่นใจ คุณมีแล้วหรือยัง

โลกมันแย่ลงทุกปี ขนาดไม่มีโรคระบาดเศรษฐกิจยังโตช้ามาก ทุกวันนี้ขนาดนักบินที่ว่าไฮโพรไฟล์สุดๆ ยังโดนลดเงินเดือนกันทั่วหน้า ตอนนี้คุณอาจจะมองว่าตัวเองมั่นคง แต่คิดว่าสุขภาพการเงินจะแข็งแรงตลอด 7 ปีไหม การเมืองก็ไม่นิ่ง ถ้าเกิดม็อบกันยาวๆ กระทบธุรกิจ บริษัทปิดไปทำไง

คุณต้องบริหารเงินเป็นนะ ไม่งั้นพอตึงมือ คุณจะกู้หนี้ยืมสิน ใช้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด คุณอาจจะประคองทุกอย่างได้ แต่ระยะ 7 ปี เหนื่อยมากๆ อยากได้เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ก็ต้องคิดหนัก อยากเปลี่ยนโทรศัพท์ ไม่วายต้องผ่อนอีก ถ้าผ่อนรถเดือนละ 9,200 บาท อยากผ่อนโทรศัพท์เดือนละสัก 2,500 บาท เท่ากับเดือนหนึ่งหนี้สินยืนพื้น 11,700 บาท นี่ไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวแม้แต่บาทเดียวนะ

บางคนเงินเดือนขึ้นเร็ว บางคน 7 ปี ขึ้นมาไม่กี่พัน ต้องประมาณการณ์ข้อนี้ด้วย

แนะนำให้พิจารณา 4 ข้อ

1) ดูโพรไฟล์ตัวเอง -- ลักษณะงานมั่นคงแค่ไหน มีโอกาสเลิกจ้าง/ปิดตัวหรือไม่ เงินเดือนอย่างน้อย 2-3 เท่าของค่างวดไหม

2) ดูโอกาสก้าวหน้า -- ถ้าตอนนี้ค่างวดแค่ประมาณ 2 เท่าของเงินเดือน รายได้เราจะเติบโตเร็วแค่ไหน ถ้าเงินเดือนขึ้นปีละเป็นพันๆ บาท อาจจะพอเดินหน้าต่อได้ แต่ถ้าปรับแค่หลักร้อย หรือเคยมีบางปีไม่ได้ปรับเงินเดือน หายใจลึกๆ แล้วค่อยๆ คิดอีกที ลองคิดดูว่าถ้าอีก 3 ปีข้างหน้าเงินเดือนยังเท่านี้อยู่ ทั้งๆ ที่คิดว่ามันน่าจะมากขึ้นอีกหลายพัน จะลำบากแค่ไหน ข้าวของแพงขึ้นทุกปีนะจ๊ะ

3) ดูแบ็คอัพ -- ถ้าฉุกเฉิน ยืมใคร และเอาที่ไหนคืน คิดว่าจะยืมได้กี่ครั้ง (คิดอีกนิดก็ดีว่าควรหวังพึ่งพาคนอื่นไหม ทำได้จริงแค่ไหน)

4) ดูเงินสำรอง -- สำรองเงินไว้ผ่อนกี่เดือน ถ้า 12 เดือนขึ้นไป ตามใจเลย (แต่แนะนำว่าควรปรับแผนอยู่ดี ไปเก็บเงินเพิ่มก่อน แล้ววางเงินดาวน์ ดอกเบี้ยถูกกว่ากันเยอะ) ถ้าเงินสำรอง 3-6 เดือน ไม่ปลอดภัยนะ บอกตรงๆ เดี๋ยวนี้เงิน 5-6 หมื่น จามแรงๆ ก็ปลิวหมดแล้ว

ถ้าข้อใดข้อหนึ่งไม่ชัวร์ เก็บเงินดาวน์ 1 ปี แล้วค่อยว่ากัน

ไม่เกิน 1 พ.ย. 2564 ได้ขับรถป้ายแดง
ความคิดเห็นที่ 19
เหมือนสารที่ คห.10 ส่งไปจะไปไม่ถึง จขกท
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่