สวัสดีค่ะ วันนี้เราก็จะมารีวิวบทความดีๆสำหรับคนที่รักและชื่นชอบในผลงานเขียนและผลงานทางจอแก้วที่ไม่ควรจะพลาดเป็นอย่างยิ่ง

สืบเนื่องจากเราเป็นคนที่ชื่นชอบในผลงานเขียนมาก และตัวเองก็เคยมีผลงานเขียนเผยแพร่ลงบนเว็บ และเร็วๆนี้ผลงานของเราก็กำลังจะถูกผลิตเป็นละคร (เราส่งพล็อตนิยายเข้าประกวดทางช่อง GMM25 ค่ะ) วันนี้เลยจะมาริวิวนวนิยายจักรวาลนครสวรรค์ ของคุณ จุฬามณี ที่เปรียบเสมือนเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายของเราเลยค่ะแถมนวนิยายจักรวาลนครสวรรค์ยังประสบความสำเร็จด้วยการนำมาต่อ
ยอดผลิตเป็นละครและยังออกมาดังทุกเรื่องเลยด้วย



และทำไมถึงเรียกว่าจักรวาลนครสวรรค์ นั่นก็เพราะว่านิยายทั้ง 5 เรื่อง ที่เราหยิบยกมา ตัวละครในแต่ละเรื่องมีความเกี่ยวข้อง เกี่ยวโยงกัน แถมเรื่องราวของแต่ละเรื่องก็เกิดขึ้นในจังหวัดนครสวรรค์ ของประเทศไทยของเรานั่นเอง



เริ่มจากเรื่องแรกชิงชัง ตอนนั้นเรามีโอกาสได้ดูละครเรื่องนี้ทางช่อง 5 ค่ะ แต่ดูไม่ประติดประต่อมาก แต่กระแสละครเรื่องนี้ดังมากๆเลยค่ะ และเรามีโอกาสได้กลับมาย้อนดูเต็มๆเรื่องบน Youtube ปรากฎว่าสนุกมาก เป็นเรื่องราวของ 4 สาวพี่น้องที่ต้องมาชิงดีชิงเด่นในเรื่องของความรัก แถมยังมีเรื่องราวความวุ่นวายในรุ่นลูก

ตอนดูไปครึ่งเรื่อง เราตัดสินใจไปห้องสมุดของจังหวัด KCC ฉะเชิงเทรา และยืมเรื่องนี้มาอ่านจนจบ ( เรื่องนี้เป็นนวนิยายของคุณจุฬามณีที่เราอ่านเป็นเรื่องที่ 2 เรื่องแรกคือสุดแค้นแสนรัก) พออ่านนิยายจบ ความรู้สึกส่วนตัวเราชอบในเวอร์ชั่นนิยายมากกว่าละคร เพราะเนื้อหาดูไม่ปรับมากเกินไปค่ะ แต่ในการนำไปทำเป็นละครนั้น ถือว่ากระแสตอบรับดีมากๆเลยค่ะ นามปากกาของคุณจุฬามณีกลายเป็นที่พูดถึงมากในตอนนั้น แถมละครเรื่องนี้ยังได้รับรางวัลนาฏราช สาขาละครยอดเยี่ยมด้วย

สำหรับเรื่องชิงชัง ถ้าใครอยากอ่านความสนุกแบบเรียลๆ ไม่เผ็ดแบบในละครเราว่าชิงชังในเวอร์ชั่นนิยายจะตอบโจทย์มาก ส่วนถ้าใครชอบแบบแซ่บๆ ดราม่าจัดเต็มแบบเห็นภาพ ต้องไม่พลาดในเวอร์ชั่นละครเลยค่ะ



มาต่อกันที่เรื่องต่อมา คือ สุดแค้นแสนรัก เรื่องนี้เราอ่านเวอร์ชั่นนิยายก่อนที่จะมาผลิตเป็นละคร ด้วยความที่ตอนนั้นเรากำลังเขียนนิยายเรื่องหนึ่งอยู่ เราเลยไปหาผลงานเขียนของคนอื่นๆเพื่อดูการใช้ภาษา การพรรณนาถ้อยคำ เราเลยไปสะดุดที่นิยายเรื่องนี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่หยิบมาอ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ

เรื่องนี้จะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท คือ พาร์ท สุดแค้น จะเป็นเรื่องราวของรุ่นพ่อแม่ และตัวละครหลักของเรื่องคือยายแย้มต่อมาพาร์ท แสนรัก จะเป็นเรื่องราวของรุ่นลูกในวัยเด็ก และพาร์ทสุดท้ายคือ สุดแค้นแสนรัก เรื่องราวของรุ่นลูกในตอนโต ที่ยังมีความเกี่ยวโยงกะรุ่นพ่อแม่อยู่ ในนิยายอ่านแล้วมันส์มาก สนุกครบรส และแซ่บมากๆ โดยเฉพาะตัวละครยายแย้ม เป็นเรื่องราวของความบาดหมางกันระหว่าง 2 ครอบครัว

ตอนที่รู้ว่าเรื่องนี้จะนำไปทำละคร เราคาดหวังมากว่าจะออกมาดีเหมือนในนิยายไหม ตอนแรกเราแอบติงการแคสติ้งตัวละครนิดนึง แต่ก็รอติดตามชม และทันที่ที่ละครออนแอร์ ปรากฎว่าออกมาดีเกินคาด สนุก เผ็ด แซ่บ ดราม่าครบรสมาเต็ม นักแสดงจัดเต็มทุกคน จนเราไม่เคยพลาดดูสักตอน เป็นอีกละครที่เราวนกลับมาดูหลายรอบเลย ชื่นชมในการแสดงของคุณรัดเกล้ามากๆ เป็นอีกหนึ่งละครที่นักแสดงทำได้ดีทุกรุ่น ทั้งรุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก

โดยรวมแล้วสำหรับสุดแค้นแสนรัก เราชอบเวอร์ชั่นละครมากกว่านิยายนะ เพราะละครทำออกมาได้ดีมากจริงๆ แถมยังกวาดรางวัลมาหลายเวทีด้วย



มาต่อกันเรื่องที่ 3 คือกรงกรรม กรงกรรมจะเป็นเรื่องของ ม๊าย้อย พี่สาวยายแย้มสุดแค้นแสนรัก โดยเหตุการณ์ของกรงกรรมจะเกิดขึ้นก่อน สุดแค้นแสนรัก ในส่วนของกรงกรรม เราอ่านเวอร์ชั่นนิยายก่อนที่จะมาดูเป็นเวอร์ชั่นละครเพราะทันทีที่ทราบข่าวว่ากรงกรรมกำลังจะถูกสร้างเป็นละคร เราเลยไปหานิยายมาอ่านรอ

ในนิยายคุณจุฬามณีเขียนตัวละคร ออกมาได้มีมิติทุกตัวละคร แถมความเด่นของตัวละครนั้นยังมีเท่าๆกันเลย ตั้งแต่ม๊าย้อย เรณู พิไล อาซา จันตา โดยบทเด่นๆจะไปเทอยู่ในฝั่งของตัวละครหญิงมากกว่า  พอเราอ่านนิยายจบ เรามั่นใจมากว่าในเวอร์ชั่นละครต้องออกมาดีแน่ๆ ด้วยแคสตัวละครที่ได้เบลล่ามาแสดง แถมยังเป็นค่ายแอคอา์ตของพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ เป็นผู้ผลิต

และเมื่อละครออนแอร์ลงบนจอแก้ว ก็คุ้มค่ากับการรอคอยมาก ทั้งตัวพี่ใหม่ เบลล่า แพร และตัวละครอื่นๆตีบทแตกกระจาย แถมละครเรื่องนี้ก็ดังไปทั้วบ้านทั่วเมือง กระแสเรณู พิไลถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์ไปทั่วทุกที่ แถมเรตติ้งก็เพิ่มขึ้นๆทุกตอน

โดยรวมแล้ว เราให้กรงกรรมในเวอร์ชั่นละครเสมอกับเวอร์ชั่นนิยายเลย เพราะความสนุกกินกันไม่ลงเลย ดีงามทั้งคู่มากๆ



มาต่อกันเรื่องต่อมา คือ ทุ่งเสน่หา ที่เรามีโอกาสได้อ่านก่อนที่ละครจะออกอากาศ เป็นเรื่องราวต่อจาก สุดแค้นแสนรักที่มีตัวละครดำเนินเรื่องเด่นๆฝ่ายหญิง คือ ยุพิน กับ สำเภา ที่เป็นเรื่องราวความรักที่ต่างชนชั้นที่เล่าบรรยากาศผ่านท้องทุ่งนา ที่เป็นเอกลักษณ์หลักของเรื่อง ตัวนิยายนั้นค่อนข้างจะกลมกล่อม ไม่เผ็ดแบบเรื่องก่อนหน้าของคุณจุฬามณีแต่จะเน้นไปที่การดำเนินเรื่องที่ค่อยๆพีคขึ้น และน่าติดตามมากขึ้นทุกตอน

ในเวอร์ชั่นละครนั้นทำออกมาได้ดีเหมือนกัน แต่เราว่ามันยังขาดความกลมกล่อมแบบในนิยายไป แต่นักแสดงหลักของเรื่องอย่าง เต้ย จรินพร พี่หน่อย บุษกร และคนอื่นๆก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี ทำให้เราต้องเอาใจช่วยในทุกๆตอน

โดยรวมแล้ว เราให้คะแนนในเวอร์ชั่นของนิยายมากกว่าละคร เพราะในนิยายมันกลมกล่อมแบบลงตัวจริงๆ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราค่อนข้างประทับใจเลย



และเรื่องสุดท้ายคือ วาสนารัก ภาคต่อจากทุ่งเสน่หา เป็นเรื่องราวของรุ่นลูกของทุ่งเสน่หา ที่มีไฮไลต์หลักอยู่ที่คำว่าวาสนา หากคนเรามีวาสนาต่อกัน ความรักก็ย่อมไม่คลาดแคล้วจากกัน บทหลักๆจะอยู่ที่กันตพล ที่เป็นพระเอกของเรื่อง

ในตัวของนิยายนั้น คุณจุฬามณีเขียนนิยายออกมาได้กลมกล่อมมาก เรื่องนี้จะไม่หวือหวา เผ็ด ร้อนแรง เหมือนเรื่องอื่นๆเลย จะเน้นไปที่การดำเนินชีวิตของแต่ตัวละคร ที่มีเรื่องราวอุปสรรคมาให้เผชิญ ทำให้เวลาอ่านแล้วเราอยากติดตามว่าแต่ละคนจุดจบชีวิตจะเป็นอย่างไร

ในส่วนของเวอร์ชั่นละครนั้น เราค่อนข้างที่จะผิดหวังที่สุดในจักรวาลนครสวรรค์ เพราะละครตีความแตกต่างไปจากนิยายมาก คือไปเน้นฉากแรงๆ ทำให้ละครไม่เรียลเหมือนในนิยาย อย่างตัวละครพรรณษา ที่ในนิยายไม่ได้ร้ายมากมาย แต่ละครตีบทพรรณษาออกมาเป็นนางร้ายดาษดื่น ขาดมิติแบบในนิยายไปเลย

โดยรวมแล้วสำหรับวาสนารัก เราชอบในเวอร์ชั่นนิยายมากกว่าในละคร ถ้าในเวอร์ชั่นละครทำออกมาแบบในนิยายน่าจะดีกว่านี้ ตรงนี้เราเสียดายมากๆ

สำหรับแนวโน้มในอนาคตนั้น คุณจุฬามณี ก็มีแพลนจะสร้างนิยายเรื่องต่อๆไปที่ยังคงอยู่ในจักรวาล นครสวรรค์อย่างเรื่องระบำบุญ ที่มีความเกี่ยวโยงต่อจากเรื่องกรงกรรม เรื่อง บุษบาตาคลี ที่มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับกรงกรรมเช่นกัน ซึ่งแนวโน้มในอนาคตนั้น เราคงจะได้เห็นออกมาเป็นละครไม่เร็วก็ช้า



และนี่ก็เป็นแผงผังของตัวละครในจักรวาลนครสวรรค์ ที่มีความเกี่ยวข้องกัน


นี่ก็เป็นรีวิวบทความๆเล็กๆน้อยที่เราตั้งใจเอามาฝากค่ะ สำหรับคนที่รักในผลงานเขียน และผลงานละคร ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ