ใส่ผิด 6 คน ติดๆๆ ⁉️
ต้องรอระบบปฏิเสธแล้วลงใหม่ ซึ่งไม่รู้รอนานแค่ไหน
.
.
.
คือ มีกรุ๊ปลูกค้าโรงแรมมาพักและใช้สิทธิ์ เราเลยแนะนำการลงขอสิทธิ์ จดเลข booking จับคู่ตั๋วกับคนที่จะใช้สิทธิ์ ให้เสร็จสรรพ อธิบายเรียบร้อย กะว่าจะลงให้เองเลย แต่ลูกค้าเช็คเอาท์แล้วเดินทางทันที่ เลยไม่ได้ทำให้
เราก็งง ทำไมถึงผิด
ปรากฏว่า. ลูกค้าเจอคำว่า Flight Booking No ในหน้ากรอกรับสิทธิ์ แค่นั้นแหละค่ะ ที่จดไว้ไม่ดูกรอกตามความรู้สึกทันที ^^
จะไม่ให้สับสนได้ไง มาดูกันเลยค่ะ
##กระทู้นี้ ก็แค่อยากบ่น จุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เข้าใจผิดได้
จะแก้ก็ดี จะประสัมพรธ์อีกทีก็ดี เพราะคำเรียกแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ทางที่ดีควร มีตัวอย่าง booking id ให้ดูหลายๆ รูปแบบการจอง/สายบิน
ตย.หน้าเว็บเราเที่ยวด้วยกัน เขียนว่า airline booking no.
พอเข้สไปเว็บจริง เขียนจริง Flight booking no.
และ หน้ารายละเอียดโครงการ เขียน Booking Id
คือ...ไม่รู้จะพูดยังไง มิน่าคนถึงขอสิทธิ์กันน้อย ขอไปก็ไม่ได้ ใส่ผิดกันเยอะ
เพราะสับสนกับคำว่า Booking Id
ถ้าลูกค้าจองผ่าน เอเย่นต์ ต่างๆ เช่น Agoda Traveloka Trip
ก็จะมี Booking Id ของเอเย่นส์อีกที่ส่วนใหญ่จะเป็น ตัวเลขยาวๆ ❌ซึ่งไม่ใช่
ก็เข้าใจว่า โครงการกลัวใส่ผิด จึงใส่คำว่า Flight Booking No เข้าไป
แต่.....ก็ทำให้เข้าใจผิด ว่า เป็น Flight No เลขที่เที่ยวบิน ❌ซึ่งไม่ใช่
Booking Id ที่จะใช้ของสิทธิ์คืนค่าตั๋ว จะต้องเป็น 📌✔️📌ตัวเลขผสมตัวอักษร 6หลัก📌 ✔️📌 ไม่รู้อีก ว่าเหมือนกันทุกสายการบินมั้ย
ตย บางที่ก็เขียน booking no. บางที่ ก็เขียน airline booking reference
ซึ่ง.....Booking ID นี้ จะไม่มีแสดงในตั๋วเดินทาง (Boarding Pass) ไม่แน่ใจทุกสายการบินมั้ย
ต้องเช็คในอีเมลล์ที่ทำการจองเท่านั้น⁉️
แนะนำว่า ทางโครงการควรประชาสัมพันธ์ มีตัวอย่าง step by step จากตัวอย่างจริง หรือ ให้ทางสายการบิน ช่วยเน้น เลข Booking Id ตอนเช็คอินอีกที
ตย ตั๋วเครื่องบิน จะไม่มี Booking Id
ปัญหา Booking ID การรับสิทธิตั๋วเครื่องบิน โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ต้องรอระบบปฏิเสธแล้วลงใหม่ ซึ่งไม่รู้รอนานแค่ไหน
.
.
.
คือ มีกรุ๊ปลูกค้าโรงแรมมาพักและใช้สิทธิ์ เราเลยแนะนำการลงขอสิทธิ์ จดเลข booking จับคู่ตั๋วกับคนที่จะใช้สิทธิ์ ให้เสร็จสรรพ อธิบายเรียบร้อย กะว่าจะลงให้เองเลย แต่ลูกค้าเช็คเอาท์แล้วเดินทางทันที่ เลยไม่ได้ทำให้
เราก็งง ทำไมถึงผิด
ปรากฏว่า. ลูกค้าเจอคำว่า Flight Booking No ในหน้ากรอกรับสิทธิ์ แค่นั้นแหละค่ะ ที่จดไว้ไม่ดูกรอกตามความรู้สึกทันที ^^
จะไม่ให้สับสนได้ไง มาดูกันเลยค่ะ
##กระทู้นี้ ก็แค่อยากบ่น จุดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เข้าใจผิดได้
จะแก้ก็ดี จะประสัมพรธ์อีกทีก็ดี เพราะคำเรียกแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ทางที่ดีควร มีตัวอย่าง booking id ให้ดูหลายๆ รูปแบบการจอง/สายบิน
ตย.หน้าเว็บเราเที่ยวด้วยกัน เขียนว่า airline booking no.
พอเข้สไปเว็บจริง เขียนจริง Flight booking no.
และ หน้ารายละเอียดโครงการ เขียน Booking Id
คือ...ไม่รู้จะพูดยังไง มิน่าคนถึงขอสิทธิ์กันน้อย ขอไปก็ไม่ได้ ใส่ผิดกันเยอะ
เพราะสับสนกับคำว่า Booking Id
ถ้าลูกค้าจองผ่าน เอเย่นต์ ต่างๆ เช่น Agoda Traveloka Trip
ก็จะมี Booking Id ของเอเย่นส์อีกที่ส่วนใหญ่จะเป็น ตัวเลขยาวๆ ❌ซึ่งไม่ใช่
ก็เข้าใจว่า โครงการกลัวใส่ผิด จึงใส่คำว่า Flight Booking No เข้าไป
แต่.....ก็ทำให้เข้าใจผิด ว่า เป็น Flight No เลขที่เที่ยวบิน ❌ซึ่งไม่ใช่
Booking Id ที่จะใช้ของสิทธิ์คืนค่าตั๋ว จะต้องเป็น 📌✔️📌ตัวเลขผสมตัวอักษร 6หลัก📌 ✔️📌 ไม่รู้อีก ว่าเหมือนกันทุกสายการบินมั้ย
ตย บางที่ก็เขียน booking no. บางที่ ก็เขียน airline booking reference
ซึ่ง.....Booking ID นี้ จะไม่มีแสดงในตั๋วเดินทาง (Boarding Pass) ไม่แน่ใจทุกสายการบินมั้ย
ต้องเช็คในอีเมลล์ที่ทำการจองเท่านั้น⁉️
แนะนำว่า ทางโครงการควรประชาสัมพันธ์ มีตัวอย่าง step by step จากตัวอย่างจริง หรือ ให้ทางสายการบิน ช่วยเน้น เลข Booking Id ตอนเช็คอินอีกที
ตย ตั๋วเครื่องบิน จะไม่มี Booking Id