การทำบุญนั้นอาจจะมีหลายจุดประสงค์แล้วแต่ศรัทธาของผู้ที่ต้องการทำบุญ แต่จะมีการทำบุญที่สามารถเรี่ยไรเงินเข้าวัดได้เป็นจำนวนมากอย่างน้อยปีละสองครั้งในแต่ละวัด นั่นคืองานบุญทอดกฐินและงานบุญทอดผ่าป่า

ส่วนใหญ่แล้วการเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านในปัจจุบันมีจุดประสงค์เพื่อสร้างอาคารหรือโบสถ์ให้แก่พระสงฆ์ได้ใช้อาศัยหรือทำกิจกรรมทางศาสนาที่สำคัญๆ นอกจากนั้นก็เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับข้าวของเครื่องใช้ของพระสงฆ์เช่นผ้าจีวร ไปจนถึงการจ่ายค่าน้ำค่าไฟหรือการซ่อมแซมวัด 
ในปัจจุบันประเทศไทยมีวัดทั้งหมดด้วยตัวเลขที่ไม่เป็นทางการคือ 123,390 วัด(ยังไม่รวมสำนักสงฆ์)เฉลี่ยแล้วเรามีวัดอยู่หมู่บ้านละเกือบ 2 วัดในจำนวน 75,032 หมู่บ้านทั่วประเทศ  เมื่อดูจำนวนของพระสงฆ์ในประเทศทั้งหมดจากการสำรวจในปี 2562 คือ 250,000 รูป(ถ้ารวมสามเณรอาจมีถึง 4 แสนรูป) ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจหากนำตัวเลขนี้ไปเปรียบเทียบกับจำนวนของโรงเรียนทั้งหมดในประเทศมีอยู่แค่ 55,000 โรงเท่านั้น แต่เรามีจำนวนนักเรียนทั่วประเทศถึง(โดยประมาณ) 10,980,000 คน (เป็นข้อมูลจากคลังข้อมูลกลางการศึกษาประจำปี 2563) ทำให้นักเรียนต้องกระจุกตัวกันมากเกินไปในแต่ละชั้นเรียน

แม้ว่าเราจะมีจำนวนวัดมากมายและเป็นตัวเลขที่ไม่สมดุลกันกับจำนวนของพระสงฆ์สักเท่าไหร่ (เฉลี่ยวัดละ2-3รูป) แต่การสร้างวัดก็ยังเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 300 วัดในทุกๆปี เงินทุนที่นำมาสร้างวัดนั้นก็มาจากชาวบ้านในหมู่บ้าน และที่อยู่ใกล้เคียงไปจนถึงคนต่างประเทศ  แต่เมื่อดูสถิติในการเข้าวัดนั้นกลับลดลงอย่างน่าใจหายสวนทางกับจำนวนวัดที่เพิ่มขึ้นอยู่ทุกปี อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าคนไทย 90 % ยังไม่เคยรู้ข้อมูลแบบนี้หรือไม่เคยสนใจเลยด้วยซ้ำทั้งๆที่มาตรฐานของพระสงฆ์โดยทั่วไปนั้นกำลังเสื่อมลงพร้อมๆกับการศึกษาของเด็กไทยที่ตกต่ำลงอย่างน่าใจหายเช่นกัน
แต่เหตุใดไม่มีการรณรงค์ให้ประชาชนทำบุญเพื่อสร้างโรงเรียนหรือทอดผ้าป่าเพื่อหาทุนให้กับโรงเรียนเอาไปใช้ประโยชน์แทนการสร้างวัดในเมื่อจำนวนวัดนั้นมีล้นจำนวนพระไปมากแล้ว แต่ก็ไม่ได้เรียกศรัทธาจากชาวพุทธได้สูงขึ้นได้แม้แต่น้อย  สิ่งที่สังคมต้องใส่ใจและให้การช่วยเหลือเป็นอันดับแรกในตอนนี้คือการศึกษามากว่าไม่ใช่หรือ แต่ทุกคนก็ยังมุ่งทำทำบุญเข้าวัดแบบไม่สนใจว่าเงินเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์หรือไม่ นี่ยังไม่พูดถึงการฉ้อโกงหรือแคมเปญหลอกลวงชาวบ้านอีกมามายที่ไม่ปรากฎเป็นข่าว  แต่ผมรับรองได้เลยหากทางโรงเรียนออกประกาศเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านเพื่อการสร้างอาคารหรือเพื่อจ้างครูมาเพิ่มทุกปีจะต้องโดนชาวบ้านวิจารณ์อย่างหนัก  ในขณะที่แต่ละปีชาวบ้านเหล่านั้นไม่เคยบ่นสักคำที่มีการเรี่ยไรเงินทำบุญเข้าวัดมากมายหลายวัดรวมเป็นเงินจำนวนหลายร้อยหลายพันบาทสำหรับบางคน แม้แต่วัดเล็กๆในหมู่บ้านผมปีนี้ยังเรี่ยไรได้ถึง 1 ล้านบาท ซึ่งอีกไม่นานก็จะกลายเป็นอิฐหินดินทรายเข้าไปอยู่ในวัดตราบจนวันพังทลาย แม้ไม่รู้ว่าจะได้ใช้ประโยชน์เมื่อไหร่ตอนไหนก็ไม่เคยสนใจคิดกัน แทนที่จะเป็นทุนสร้างเสริมมาตรฐานให้กับลูกหลานตัวเองในโรงเรียน คนที่ได้ผลบุญก็เป็นลูกหลานเราเองทั้งสิ้นแต่ก็ไม่เคยมีใครนึกถึงเรื่องแบบนี้กัน

ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าการทำบุญเข้าวัดเป็นทางเดียวที่จะได้รับผลบุญ การทำบุญที่อื่น เพื่อสิ่งอื่น ที่เป็นประโยชน์มากกว่านั้นก็จะได้รับผลบุญตอบแทนเหมือนกันไม่ใช่หรือ แค่หวังว่าคำถามนี้จะส่งถึงคนไทยทั่วทั้งประเทศในสักวัน อยากให้คิดสักนิดว่าเงินที่ท่านหยิบยื่นไปนั้นอาจถุกนำไปใช้ในทางที่ผิดก็เป็นได้ เรามีวัดเพียงพอแล้วกับความต้องการในปัจจุบัน ส่วนลูกหลานเรายังคงต้องการอะไรที่ดีกว่านี้ในโรงเรียนที่พวกเขาต้องไปทุกๆวัน นี่ไม่ใช่การขัดขวางการเจริญก้าวหน้าของพุทธศาสนาในเมืองไทย แต่เราควรตระหนักถึงสิ่งใดที่จำเป็นมากกว่าก็เท่านั้น ต้องขออภัยหากทำให้ใครหลายคนรู้สึกขุ่นเคืองใจ ไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น ที่พูดไปก็เพราะหวังดีกับสังคมจริงๆ