อึดอัด สับสน เศร้า เสียใจ อยากคุย อยากระบายแต่ไม่รู้จะคุยกับใคร

😢 มันเหมือนเวรกรรมตามสนอง 😢
เราเป็นผู้หญิงนิสัยเจ้าชู้ขี้อ่อน ขี้เหงาและคุยเยอะ แต่!! ไม่ใช่ผู้หญิงหลายใจ นอกกาย มีแฟนก็จะรักแค่แฟนเอาแฟนขึ้นหิ้ง เป็นนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่มัธยม มีแฟนแต่ยังเฟรนลี่คุยเยอะใครทักมาก็คุย จนตอนนี้อายุจะ 24 ล่ะ มาเจอคนคนนึงที่ทำให้เราเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนการกระทำอย่างเต็มใจและไม่ได้อึดอัดกับตัวเองเลย เค้าทำเรากลายเป็นคนที่หยิ่งกับทุกแชทที่ทัก เลิกนิสัยขี้อ่อยและคุยเยอะ เหงาแต่รอได้ รอสายจากเค้ารอแชทจะเค้า รอแบบไม่ได้หาใครมาคุยเล่นเพื่อฆ่าเวลา เค้าทำให้ผู้หญิงที่เจ้าชู้มากๆคนนึงกลายเป็นผู้หญิงที่คิดจะคบใครจริงจังและมีแค่คนเดียวจริงๆได้ เค้าเข้ามาด้วยการทัก FB ด้วยประโยคที่ไม่มีคำเกริ่นจู่ๆก็ชวนเรากินก๋วยเตี๋ยว เราถูกซื้อด้วยประโยคสั้นๆที่ว่า กินก๋วยเตี๋ยวมั้ย 😊 นี่ก็ตอบกลับเหมือนสนิทว่า "เลี้ยงอ่อ" เค้าบอกเลี้ยง แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบทสนทนา ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของความรัก เพราะตอนนั้นเราอยู่ในล่วงอ่านหนังสือสอบไม่ได้ตอบแชทใครเค้าเลยหายไป ส่วนเราไม่ชอบทักใครก่อน ไม่เข้าหาใครก่อนและไม่จีบใครก่อน 6-7เดือนผ่านไปตั้งแต่วันนั้นจูๆเค้าก็ทักมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันคือจุดเริ่มต้นของรักครั้งนี้ เค้าบอกว่าเค้าไม่กล้าทักทำใจอยู่นานกว่าจะกล้า เพราะกลัวว่าทักแล้วเราจะไม่ตอบ แต่สุดท้ายก็ตอบ เราคุยกันตลอด รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เราทั้งคู่ต่างไม่ได้เปิดเผยลง FB ว่าเราคุยอยู่กับเค้าหรือเค้าคุยอยู่กับเรา เหตุผลที่ไม่เปิดเผยมันเหมือนว่าต่างคนต่างมรกำแพงบางอย่างกั้นเอาไว้อยู่ มันกลัว มีเราแคปแชทที่ปิดรูปและเปลี่ยนชื่อแชทอัพสตอรี่บ้าง เราเปิดเผยและโพสต์ประกาศลงหน้าเฟสพร้อมเปิดสาธารณะว่าเรากำลังคุยอยู่กับคนๆนึงจริงจัง ผู้ชายคนอื่นไม่ต้องทักมาหาเราอีก คุยกันมาเรื่อยๆ แบบไม่เคยเจอกันเพราะอยู่ละจักหวัด เราอยู่พัทลุงเค้าอยู่สุราษฎร์ จนประมาณ 2 เดือนนิดๆ เราไปธุระที่สุราษฎร์สัปดาห์นึงถึงได้เจอกัน ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมันมีความสุขมากๆ กอดของเค้ามันอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัย มันไม่ง่ายเลยที่เราจะเจอใครสักคนที่กอดของเค้ามันทำให้เรารู่สึกปลอดภัย แล้วเวลาแห่งความสุขก็จบลงต่างคนต่างมีหน้าที่ เรากลับพัทลุง ส่วนเค้าไปทำงาน กทม. อยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งแถวสาทร ส่วนเราหลังจากเสร็จงานรับปริญญาก็มีแพลนจะขึ้นไปหางานทำใน กทม. แต่แล้วแผนที่วางไว้ก็พังเมื่อเราดันสอบงานที่แม่ขอให้สอบติด ระยะเวลาจ้างงาน 1 ปี สรุปอดไปอยู่ กทม. ตลอดเวลาที่ห่างกันมีทะเลาะกันบ้าง ระแวงกันบ้าง แต่คอลหากัน ค้างสายไว้ทุกคืน  นี่ก็ตั้งใจว่าหยุดยาวจะบินไปหา จนมาพักหลังๆเค้าเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ออนเฟสอัพตัสลงสตอรี่แต่ไม่ตอบแชท จริงๆตลอดเวลาที่คุยกันมันมีกลิ่นมาตลอดว่าเค้าไม่ได้คุยแค่กับเราหรอกเพราะพื้นที่ส่วนตัวของเค้าไม่เคยมีเราเลย เหมือนเราเป็นแฟนเค้าแค่ในแชทที่รู้กันแค่สองคน พอขอความชัดเจนก็โดนชวนทะเลาะเรื่องอื่นๆ นี่เหมือนความอ่ะยอมโง่รู้ทั้งรู้แต่ยังรัก ยังพยายามทำทุกอย่าง มองข้ามทุกอย่าง เลี่ยงคำถามที่ถามแล้วทำให้ทะเลาะ แกล้งยิ้มทั้งๆที่เจ็บเจียนตาย จนตอนนี้ ณ เวลานี้ เค้าบอกหากน้องเจ็บก็ถอยไม่ต้องฝืน พี่พอแล้วไม่อยากต้องมาคอยระแวงแล้วเป็นทุกข์อยู่แบบนี้ เค้าไม่เคยเชื่อเราเลยว่าเรามีแค่เค้า ทั้งๆที่เราไม่มีใคร แล้วพยายามชัดเจนออกสื่อมาตลอด นิสัยขี้อ่อยก็เลิก เที่ยวร้านเหล้าลงรูปแคปชั่นยังหมายถึงเค้าเลย เค้าเอาแคปชั่นที่เราลงรูปล่าสุดมาเป็นเหตุผลว่าเรายังไม่เลิกอ่อย เราโพสต์ว่า " 1+1=เท่ากับเท่าไหร ถ้าตอบถูกมาเป็นแฟนกัน " ตอนโพสต์อ่ะเรา หวังแค่ให้เค้ามาเม้นไม่ว่าเค้าจะเม้นว่าอะไรเราจะให้มันเป็นคำตอบที่ถูก แต่เค้ากลับไม่ได้มาเม้น 🤦🏻‍♀️ เค้าจบบทสนทนาประโยคสุดท้ายด้วยคำว่า รักเสมอนะ 😢😢  การกระทำของเค้าทั้งหมดมันเหมือนเรา เราตอนที่คุยกับคนนู้นคนนี่ไปเรื่อย ให้ความหวัง ทำให้เค้ามารัก พอเบื่อเราก็หาเหตุผลบ้าบอมาเพื่อจะตัดเค้าออกไปจากชีวิตโดยที่ไม่ได้สนไม่ได้แคร์เลยว่าเค้าจะรู้สึกยังไง 😔😔 สุดท้ายแล้วเราก็คงทำได้แค่ทำใจแล้วก้มหน้ายอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น คงจะกลายเป็นคนที่เข็ดหลาบกับความรักไปอีกซักพักใหญ่ๆ พิมพ์ไปร้องไห้ไป ... ขอบคุณหากคุณอ่านมันจนจบ มันเหมือนเราได้พูดได้เล่าออกไปบ้าง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่