มากระทำความหว่อง กับ In The Mood for Love
กับหนังที่หว่อง กา ไวรักที่สุด
====================================
1.
ใครจะไปคาดคิดว่าภาพนีออนสีแดงสลัวๆกลางห้อง สลับความมืดของค่ำคืนเปลี่ยวเหงา คลุกเคล้าด้วยควันบุหรี่สีขาวโพลน ที่เราเคยดูผ่านวีซีดี (หรือบางคนก็วีดีโอ) ในตอนเด็กๆ จะถูกนำมารีมาสเตอร์ 4K แบบชัดๆ เต็มตา เต็มอารมณ์ ให้เราได้ดื่มด่ำกับสุนทรียศาสตร์ระดับปรมาจารย์แห่งการ “กระทำความหว่อง” ในโรงหนังกันอีกครั้ง
2.
เพราะสิ้นเดือนนี้ค่ะ ภาพยนตร์ที่ขึ้นชื่อว่า “พิถีพิถันสรรค์สร้างมากที่สุดในชีวิต” ของผู้กำกับ หว่องกาไว อย่าง In The Mood for Love จะถูกเข้าฉายให้ชาวไทยได้เห็นว่า...นี่แหล่ะค่ะ “ตำนานที่แท้จริงมันเป็นแบบนี้!!”
3.
In The Mood for Love นี่ถือว่าเป็นหนังในดวงใจของใครหลายๆคนเลยนะคะ ยิ่งคนที่เรียนศิลปะ เรียนภาพยนตร์ หลายคนยกให้เรื่องนี้คือที่สุดเพราะนี่คือ “หนังทำยากที่สุดในชีวิต แต่ละฉาก แต่ละเฟรมภาพคือตั้งใจละเมียดละไมพิถีพิถันสร้างขึ้นมา” โดยใช้เวลาสร้างทั้งสิ้นถึง 15 เดือน
4.
อีกทั้งเฮียหว่องแกยังเข้ามาใช้โลเคชั่นถ่ายทำในประเทศไทย โดยเซ็ทให้ย่านบางรัก และ เจริญกรุง เป็นฉากหลังของ In the Mood for Love ที่เล่าเรื่องราวของฮ่องกงในปี 1962 ด้วยค่ะ #เผื่อใครสนใจไปตามรอยได้ 55555
5.
บางครั้งความรักก็ไม่ได้มาถูกที่ถูกเวลาเสมอไป เรื่องราวความสัมพันธ์ของหญิงชายอย่าง คุณนายชาน (จางม่านอวี้) กับ คุณเชา (เหลียงเฉาเหว่ย) ที่ทั้งคู่ต่างก็แต่งงานแล้ว และย้ายมาอยู่ในห้องเช่าติดกันในวันเดียวกันพอดี แต่เพราะชีวิตคู่ของพวกเขากำลังจืดจาง เมื่อคนเหงาอยู่ใกล้คนเหงา ความรู้สึกผูกพันก็ยิ่งลึกซึ้ง และพัฒนากลายเป็นความสัมพันธ์ต้องห้ามที่ไม่ว่าใครก็ยากจะห้ามใจได้
6.
IN THE MOOD FOR LOVE ถือเป็นหนังไม่มีบท ไม่มีสคริปต์ มีเพียงโครงเรื่องคร่าว ๆ เป็นสไตล์เฉพาะตัวของหว่องกาไว จนทำให้กลายเป็นหนังเอเชียที่ถูกรับเลือกให้เข้าชิงรางวัล Palm D’or รางวัลสูงสุดของเทศกาลหนังเมืองคานส์ แต่ความเก๋ของหว่อง กาไว อยู่ตรงที่เขาพิถีพิถันกับหนังเรื่องนี้ ต่อให้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 อาทิตย์ที่จะต้องฉายในคานส์แล้วแต่ก็ยังตัดต่อหนังเรื่องนี้ไม่เสร็จจ้า แกถือคติว่าหนังฉันต้องเพอร์เฟคทุกเฟรม ทุกวินาที
รอได้ก็รอ ….รอไม่ได้ฉันก็ไม่แคร์ค่ะ เอาเซ่ 555555
7.
แต่ถึงกระนั้น หนังก็ได้รับคำวิจารณ์อย่างล้นหลามทั้งฝั่งคนดูและนักวิจารณ์ จนทำให้ เหลียงเฉาเหว่ย ได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ ถือเป็นนักแสดงเอเชียคนที่ 2 ที่ได้รับรางวัลนี้เลยค่ะ
8.
มีสถิติสนุกๆ ที่เล่ากันว่าทุกฉากที่ จางม่านอวี้ นางเอกได้ปรากฏตัวในเรื่องนี้ เธอจะสวมเสื้อผ้าที่ไม่เหมือนกันเลยสักชุด หากนับรวมฉากที่ถูกตัดออก เธอใส่ชุดทั้งหมดมากกว่า 40 ชุดเลยทีเดียว
9 .
ด้วยความที่ In The Mood for Love มีองค์ประกอบและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นชัดเจน ทั้งฉาก แสง สี การถ่ายภาพ เพลง การตัดต่อ จึงทำให้กลายเป็นหนังที่มีอิทธิพลต่อหนังเหงาๆ ในยุคหลังๆ ไปทั่วโลก หนังที่ได้แรงบันดาลใจที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ Lost in Translation , Her แม้แต่นักเขียนชื่อดังอย่าง ฮารูกิ มูรากามิ ก็ได้รับอิทธิพลมาเช่นกัน
.
10.
และในโอกาสครบรอบ 20 ปีที่ In The Mood for Love ได้เข้าฉายครั้งแรกในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ " เราจะได้ดูภาพยนตร์ แบบรีมาสเตอร์ 4K ชัดๆ เต็มตา เต็มอารมณ์ ดื่มด่ำกับสุนทรียศาสตร์ระดับปรมาจารย์แห่งการ “กระทำความหว่อง” ตั้งแต่ 29 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ในโรงภาพยนตร์ HOUSE SAMYAN – MAJOR CINEPLEX – SF CINEMA ค่ะ

แมวตัวนั้นนั่งดูหนังตรงแถวc  https://www.facebook.com/cwatchthemovies