ผมพึ่งมาสังเกตว่าคนที่บอกว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ ส่วนใหญ่หน้าที่การงานดีๆรวยๆทั้งนั้น

ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สองกรณีคือ หนึ่งเขาได้งานดี รวยจริงๆ และเขาก็ยังไม่มีความสุขในชีวิต รวยแล้วแต่ยังไม่สุข เหมือนอะไรขาดหายไป เหมือนมีอะไรติดฟันเอาลิ้นไปดันๆก็ไม่ออก อยู่ข้างนอกบ้านจะหาแปรงฟันก็ไม่ได้  อารมณ์แบบมันไม่สุดขาดๆอะไรไปแต่ถามว่าขาดอะไรไปก็ตอบไม่ได้

กรณีที่สองคือคำวลีนี้เขาสร้างมาเพื่อให้คนส่วนใหญ่ที่ยังจน หรือพอมีพอกินอยู่ไม่ไปแข่งกับพวกเค้า บอกว่ารวยแล้วก็ยังไม่สุข เงินเดือนเพิ่มไปคุณก็ไม่สุขขึ้นหรอก นั้นไม่ต้องพยายามมากหรอก อยู่แบบนี้แหละ ซึ่งมันจะเป็นการตัดคู่แข่งไปได้จำนวนมาก 

และผมก็สงสัยว่าสมมติฐานที่สองเป็นไปได้มากกว่า เพราะคนที่พูดแบบนี้ให้ฟังมักรวยๆทั้งนั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
มันต้องมีเงินก่อนไงครับ ถึงจะรู้ว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ คนไม่มีเงินมาไม่ถึงตรงนี้หรอก

เพราะความสุขมาจากการ “พอ” ซึ่งไม่ต้องใช้เงิน พอเมื่อไหร่มีความสุขเมื่อนั้น

ถ้ายังไม่พอ มีเท่าไหร่ก็ไม่มีความสุข
ความคิดเห็นที่ 3
อย่าไปเชื่อมาก... ให้เค้าลองจนดูครับ

ผมเห็นคนพูดแบบนี้ แต่จริงๆ ก็ยังเผลอหลุดแอบพูดเรื่องรายได้เงินทองเป็นประจำ
ความคิดเห็นที่ 20
คำว่ามีเงินก็ซื้อความสุขไม่ได้ คนที่มีคุณสมบัติมากพอที่จะพูดก็คือคนรวยแล้วนั่นแหละครับ เพราะเค้าสัมผัสแล้วเค้าถึงได้รู้ว่ามีเงินเยอะๆมันซื้อความสุขไม่ได้จริงหรือไม่

ส่วนคนที่ยังไม่มีเงินเยอะ หรือยังไม่รวยก็คงยังไม่มีโอกาสได้รู้จริงๆว่าข้อความนี้มันจริงหรือไม่

ถ้าคนรวยเป็นคนพูด ผมว่ามันก็คงจริง

ถ้าคนจนเป็นคนพูด ผมว่าองุ่นเปรี้ยว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่