ทางเลือกสำหรับคนอยากลงทุนระยะยาว (3-5 ปี) ขอมาเปิดตัวคริปโต Cardano (ADA) อีกรอบครับ

สวัสดีครับ...

ส่วนตัวผมมาเริ่มลงทุนใน Blockchain เทคโนโลยีหลังจากที่ได้เริ่มเรียนรู้จริงจังตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่า บิทคอยน์และ Blockchain Technology คืออะไร (สรุปสั้นๆก็คือเราสามารถส่งเงินดิจิตอล Peer to Peer ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางอย่างธนาคาร หรือ Central Authorities อื่นๆ โดยใช้เครือข่ายเป็นตัว proof transaction) ยิ่งศึกษาเพิ่มขึ้นก็ยิ่งรู้สึกว่าตัว Blockchain นี้คือ The Future เพราะ Digital Currency เป็นสิ่งที่เราสัมผัสแล้ว เพื่อนๆก็คงเห็นด้วยว่าบางวันเราไม่เห็นจะต้องใช้เงินสดเลย เงินที่เราหาได้ก็เป็นแค่ตัวเลขที่อยู่ในธนาคาร (เงินดิจิตอล) ถ้าเกิด Blockchain เข้ามาเปลี่ยนระบบที่เราใช้อยู่ได้ คุณค่าของมันก็น่าจะมีอย่างน้อยที่สุดเท่ากับเสดเสี้ยวของคุณค่าที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินต่างๆมีค่าอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะมีค่าเป็นหมื่นๆล้านเหรียญครับ

ทีนี้พอผมเริ่มเข้าใจ concept แล้วก็เลยเจาะลึกลงไปอีกว่าคุณค่าของคริปโตตัวอื่นๆที่แท้จริงแล้วยังมีอะไรอีก พอผมนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียบกับบิทคอยน์ ปรากฏว่าหลายสิ่งหลายอย่างบอกให้ผมตัดสินใจลงทุนกับ Cardano ครับ ยิ่งพอผมทราบประวัติ ทั้งความรู้ และ ความสามารถของคนก่อตั้งตัว Cardano นี้แล้ว (Charles Hoskinson เค้าเป็นหนึ่งใน Ethereum Co-founders) ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะคิดว่าตัวคริปโตนี้คงมีโอกาสที่จะเป็นตัวสำคัญในการผลักดันให้คริปโตเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกเราในอนาคตได้เร็วยิ่งขึ้น

เหตุผลหลักๆที่ผมหาได้มา ซึ่งได้ช่วยให้ผมตัดสินใจในการลงทุนกับ Cardano ก็คือ
1. Cardano เข้ามาแก้ปัญหาที่ Bitcoin กับ Ethereum ยังแก้ไม่ได้ - เพื่อนๆคนไหนที่พอรู้ หรือได้ยินเกี๋ยวกับ bitcoin มาบ้างแล้วก็น่าจะทราบว่าตัวบิทคอยน์ หรือ แม้แต่ Ethereum นั้นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายๆอย่าง เช่น Bitcoin จะมีข้อจำกัดด้านความเร็วของ transaction หรือ Ethereum ที่เจอกับปัญหา scalability หรือข้อจำกัดด้านการขยายตัวของ network ที่ไม่สามารถรองรับกับความต้องการของผู้ใช้ ทั้งนี้ Cardano ยังสามารถที่จะสื่อสารข้าม blockchain network (interoperability) อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้เป็น cryptocurrency ที่สามารถที่จะถูกบริหารจากระบบกระจายตัวอย่างแท้จริง (decentralization) ซึ่งอำนาจการตัดสินใจต่างๆ จะไม่ตกอยู่กับแค่กลุ่มคนเล็กๆ อีกทั้งได้นำ proof of stake มาใช้จึงไม่จำเป็นที่จะต้องให้ miner มาขุดให้เปลืองทรัพยากรอย่างบิทคอยน์
2. Cardano ราคาปัจจุบัน ได้ตกลงมาจากตอน 2017 (ยอดดอย) แล้วกว่า 90% พอผมมาดูปัจจัยราคาแล้ว ผมก็รู้สึกดีใจมากเลยว่าราคาเหรียญนี้ลงมาแล้วเยอะมาก ผมคิดว่าการเข้าซื้อที่ราคาตอนนี้ จะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าตอน 2017 อย่างมาก (Imbalanced Risk/Rewards) ส่วนตัวรู้ครับว่าลงแล้วอาจจะลงไปได้อีก แต่พอดูกราฟแล้วก็ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าเราซื้อถัวระยะยาวก็คงไม่เสี่ยงมากมาย อีกทั้งราคาก็ได้ดีดตัวขึ้นมากว่า 400% จากจุดต่ำสุดเมื่อเจ็ดเดือนที่แล้ว

3. การดำเนินงานของโปรเจค มีแผนที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง - พอศึกษาปัจจัยที่อาจส่งผลกับราคาของเหรียญแล้วก็ปรากฏว่ามีแต่จะมีปัจจัยบวกเรียงหน้ากันเข้ามาทั้งในอนาคตอันใกล้ และไกล...เช่นการให้ Stake ที่ให้ผู้ถือเหรียญได้ดอกเบี้ยทุกๆเดือน (หรือเทียบเท่ากับการฝากประจำกับธนาคารในภาษาไทย), การใช้โปรแกรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน, การออกเหรียญ stable coin และอื่นๆ
4. Cardano อาจจะเป็นคำตอบของปัญหาคอร์รัปชั่นที่ไทยเผชิญอยู่ (Reference) ซึ่งนำจุดเด่นในเทคโนโลยี blockchain มาเป็นตัวแก้ปัญหาต่างๆให้ตรงจุดเช่น
-ด้านการจัดซื้อ หรือ การประมูลงานหลวง - Cardano (blockchain) จะนำความโปร่งใสไปสู่การจัดการเพราะทุก transaction สามารถตรวจสอบได้ และยังป้องกันการแก้ไขข้อมูลเพื่อนำผลประโยชน์เข้าตัว หรือคนกลุ่มเล็ก
-ด้านการจัดสรรที่ดิน - คล้ายกับข้อข้างต้น เพราะทุกอย่างที่ทำธุรกรรมบน blockchain มีความโปร่งใส และข้อมูลไม่สามารถถูกแก้ไขโดยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนได้นำระบบนี้ไปใช้ในการจัดสรรบ้านพักสวัสดิการที่ให้กับประชาชนอย่างเป็นธรรม
-ด้านการเลือกตั้ง - ระบบการเลือกตั้งบน blockchain จะสามารถลดการโกงคะแนนเสียงและอำนวยความสะดวกเพื่อให้คนมาใช้เสียงมากขึ้น ตัวอย่างเช่น คนที่ต้องเดินทางไปที่คูหาเลือกตั้งก็สามารถที่จะทำการโหวตผ่านมือถือได้
-ด้านการป้องกันการฟอกเงินของบริษัทที่ตั้งไว้บังหน้า - หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้โปร่งใสมากขึ้น ถ้าจัดสรรข้อมูลของผู้ที่มีผลประโยชน์จากบริษัทนั้นๆบน blockchain
-ด้านการเบิกจ่ายเงินกองทุนช่วยเหลือให้แก่ประชาชน - เพราะการทำธุรกรรมต่างๆ บน blockchain ปลอมแปลงไม่ได้ อีกทั้งสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน การจ่ายเงินก็จะไปถึงคนที่ต้องการเงินช่วยเหลือตามเป้าหมายจริง และยังไม่จำกัดด้วยว่าคนนั้นต้องมีบัญชีธนาคาร เพราะ blockchain สามารถใช้ได้ผ่าน smart phone และ cellular network ได้ด้วย

ส่วนตัวขอสารภาพว่า...ผมได้เห็นหลายๆคนเสียเงินกับ 2017 ICO mania แล้วก็เสียวๆครับ... แต่ขอบอกตามตรงคือสุดท้ายก็คิดว่าถ้าผมเดาผิดแล้วปรากฏว่า Cardano เป็นโปรเจคที่ล่มไป ผมก็ทำใจเผื่อเอาไว้แล้ว อีกทั้งก็ได้กระจายความเสี่ยงไปที่โปรเจคอื่นๆด้วย (เช่น Ethereum) ส่วนตัวได้มีความมั่นใจกับข้อมูลที่ได้รับมาอย่างมาก ยิ่งพอได้รับรู้ประโยชน์ (use cases) และความสามารถของมัน (potential) แล้วก็อยากที่จะสนับสนุนอย่างจริงจัง นอกจากกำไรที่หวังไว้จากการลงทุน ผลพลอยได้ก็คงเพื่อที่ว่าจะได้ให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นอีกสักนิดครับ

สุดท้ายนี้
ถ้าเพื่อนๆสนใจข้อมูลเพิ่มเติม เชิญเข้าไปอ่านได้จากที่เพจนะครับ https://www.facebook.com/CardanoTH
ถ้าชอบข้อมูล ก็ช่วยกดไลค์กับแชร์นะครับ ผมจะคอยเข้าไปอัพเดทข่าวคราวเกี่ยวกับ คริปโต และ Cardano ให้เพื่อนๆที่สนใจครับ
ถ้าเพื่อนๆ ถือ ADA อยู่แล้ว ก็ขอเชิญเข้ามา Stake กับ pool ชื่อ BULPR นะครับ ถือว่าเป็นการสนับสนุนคนไทยที่ช่วยผลักดันคริปโตให้เปลี่ยนโลกไปในทางที่ดีขึ้น

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่