ผมเคยได้รีวิวน้ำมันเครื่องโมบิล ชุดโปรโมชั่นของบีควิกไปก่อนหน้านี้แล้ว (อ่านต่อ
https://ppantip.com/topic/40054621) วันนี้ผมจะมารีวิวน้ำมันเครื่องเชลล์ บ้างนะครับ เป็นชุดโปรโมชั่นของบีควิกเช่นกัน ราคาตามที่แจ้งไว้หน้าเว็บสำหรับรถรุ่นผมคือ 1250 บาท แต่ด้วยที่ผมไปวางเครื่องยนต์มาใหม่ ใช้น้ำมัน 4.5 ลิตร ไม่แน่ใจว่าร้านคิดราคายังไงนะครับ สรุปว่าได้ 4+1 ลิตรในราคาโปร 1350 บาทครับ
น้ำมันตัวที่ใช้นี้เป็น Shell Helix HX8 เบิกมาเป็นแกลลอนเลย ไม่ได้ปั๊มจากถังใหญ่เหมือน Mobil Super 3000x2 ที่ผมเคยใช้ก่อนหน้านะครับ และรีวิวครั้งนี้ก็เหมือนเดิมครับ คงเป็นการบอกแค่เรื่อง "ความรู้สึก" ที่พอจะสัมผัสได้จากการทดลองใช้ ไม่มีการทดสอบวัดค่าอะไรออกมาเป็นตัวเลขใดๆ และเพราะเป็น "ความรู้สึก" จากการใช้งานในแบบของผม ในรถของผมเอง อาจจะแตกต่างจาก "ความรู้สึก" ของท่านอื่นๆที่ไปลองใช้กับรถของแต่ละท่านนะครับ
ref:
https://www.b-quik.com/en/product/oil/shell/1789/shell-helix-hx8-syn-5w-40-sn-a685-size-4l
รายละเอียดเกี่ยวกับรถ
ยี่ห้อ/รุ่น: Toyota Altis 1.6E AT 2004
เครื่องยนต์: 2ZZ-GE (เอาเครื่องจากโคโรลล่าตัวญี่ปุ่นมาวาง) ตามสเปค 190 แรงม้า วัดจริงลงที่ล้อ 170 แรงม้า, Redline 8200 รอบ
กรองอากาศ: กรองผ้า 2 ยี่ห้อสลับกันใช้ มี K&N กับ Fabrix
น้ำมันเครื่องที่ผมเคยใช้มาทั้งหมดกับรถคันนี้ ..
1. Mobil 1 (กระป๋องทอง)
2. Shell Helix Ultra (ลองมาทั้งสองตัว สูตรเก่า และสูตรใหม่ Pureplus)
3. Castrol Edge
4. Eneos (ลองมา 2 สูตร คือกึ่งสังเคราะห์ และตัว Sustina สังเคราะห์แท้)
5. GReddy F2
6. ปตท Super Synthetic
7. บางจาก GE Gold
8. Valvoline SYN Power
9. Luqui Moly (ลองใช้มา 2 สูตรคือ 5w-40 5L ราคา 2200 และ 0w-40 5L ราคา 2400)
10. Mobil Super 3000 X2 โปรบีควิก
11. Shell Helix HX8 โปรบีควิก <------ ตัวที่กำลังเขียนรีวิว
** ทุกตัวที่ใช้ เบอร์ความหนืด 40 นะครับ ส่วนเลขหน้า 0 บ้าง 5 บ้าง 10 บ้าง ครับ **
โปร B-Quick
ชุดโปรของบีควิกจะมีน้ำมัน 2 แบบคือสังเคราะห์แท้และกึ่งสังเคราะห์ และมีให้เลือก 3 ยี่ห้อ คือ Mobil Shell และ Total ส่วนของผม มีส่วนที่เพิ่มจากชุดโปรปกติก็คือ ผมซื้อกรองแท้ศูนย์แยกต่างหาก ก็บวกราคาไปอีก 195 บาท (พนักงานน่าจะคีย์ราคาผิด ปกติน่าจะ 2 ร้อยกว่าๆ)
(รูปถ่ายเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2020 นะครับ เป็นวันที่ผมถ่ายโมบิลออก แล้วใส่ Shell HX8 เข้าไปแทนนะครับ)
(ส่วนวันที่กำลังเขียนรีวิวนี้เป็นวันที่ 21 ต.ค. 2020 และเพิ่งถ่าย Shell HX8 เป็นรอบที่สองเมื่อวานนี้ครับ)
Shell Helix HX8
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ - เต็มสมรรถนะ ในการทำความสะอาด และปกป้องเครื่องยนต์
• ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ โดยป้องกันการสึกหรอแม้เผชิญกับสภาวะการขับขี่ที่หนักหน่วง
• เหมาะกับเครื่องยนต์ทุกประเภท ทุกยี่ห้อ และเป็นน้ำมันเครื่องที่ผู้ผลิตแนะนำ
• ลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่อง ช่วยลดการเติมพร่อง
• เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงผสมเบนซิน/เอทานอล
มาตรฐาน: API SN
เกรด: SAE 5W-40
ดัชนีความหนืด: -
ref:
https://www.shell.co.th/th_th/motorists/oils-lubricants/helix-for-cars/helix-fully-synthetic/shell-helix-hx8-synthetic-5w-40.html
รีวิวการใช้งาน
ขอบอกก่อนนิดนึงว่า เครื่องตัวที่ผมใช้เป็นเครื่องรอบสูงกว่ารถบ้านทั่วๆไป (redline 8200) มีส่วนทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นนะครับ รวมถึงการขับใช้งานของผมไม่ได้ขับช้าๆเน้นประหยัด แต่ผมค่อนข้างเท้าหนัก กระทืบคันเร่งบ่อยอยู่ครับ ถึงจะใช้รอบสูงไม่ถึงกับแตะ redline เป็นประจำ แต่รอบกลางๆช่วง 3000 4000 5000 เป็นรอบที่ใช้งานบ่อยๆครับ พอใช้รอบสูง เครื่องก็ร้อน และก็ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมเร็วขึ้นครับ
หลังจากเปลี่ยนถ่ายมา รับรู้ได้ถึงความลื่น และเสียงเครื่องที่เงียบสนิทครับ (ลื่นกว่าโมบิล Super 3000x2 นิดหน่อย แต่ไม่แน่นเท่าครับ) เครื่องเงียบดี เร่งสมูธ ขับมันส์เลยครับ ก็มีความรู้สึกว่าฟีลลิ่งดี ไม่แพ้น้ำมันเครื่องตัวแพง อย่างพวกโมบิลวันป๋องทอง หรือเชลล์ เฮลิกซ์ อัลตร้าเลย แต่จากประสบการณ์ที่ใช้ โมบิล Super 3000x2 มาก่อนทำให้ผมยังไม่เชื่อใจครับ เดี๋ยวใช้ไปสักพักมันอาจจะอืดเหมือนกันก็ได้
รู้สึกว่าสามารถยืนระยะได้นานดีนะครับ ใช้มาถึง 5000 กม. ฟีลลิ่งเพิ่งเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความลื่นเริ่มลดลงเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับว่ารู้สึกว่าขับแย่หรืออะไร การระบายความร้อนยังคงเป็นปกติ (ดูจากเครื่องอ่านค่าจาก OBD2) เสียงเครื่องยังเงียบ เครื่องยังสมูธดีครับ ก็ยังใช้งานไปโดยที่ไม่ได้จับผิดอะไรมากครับ ลงไต้มารอบนึง จนเพิ่งมาสังเกตุว่าอ้าว ใช้มาได้ 9 พันกว่า กม. แล้ว เหลืออีกไม่กี่ กม. ก็ครบหมื่น ถึงระยะที่ต้องถ่ายแล้วนี่นา พอรู้ตัวว่าถึง 9 พันกว่าโลเท่านั้นแหละ เริ่มจ้องจับผิดขึ้นมาทันทีเลยครับ
และไม่รู้ด้วยความตั้งใจจะจับผิดของผมหรือยังไง หลังจากนั้นไม่กี่วัน (ผมมีออก ตจว ไกล้ๆ ไปกลับสุพรรณบุรีทุกอาทิตย์เลยครับ) ก็เริ่มรู้สึกได้ว่ารถเริ่มฟีลลิ่งเปลี่ยนไป เสียงเครื่องเริ่มดังขึ้นหน่อย เสียงท่อเริ่มดังขึ้นนิด และเวลาขับรถเดินทางปกติแบบไม่ได้ขับเร็วนะครับ แล้วแวะจอดเข้าเซเว่นข้างทาง หรือจอดเติมแก๊สที่ปั๊ม แบบที่ใช้เวลาลงไปไม่เกิน 5 นาที แล้วกลับขึ้นมาสตาร์ทรถใหม่ ความร้อนเริ่มขึ้นไปถึง 100 องศา แทบจะทุกครั้งเลย แปลว่าน้ำมันเริ่มระบายความร้อนได้แย่ลง นั่นก็คือ น้ำมันเริ่มเสื่อมสภาพแล้วนั่นเองครับ แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังไม่ว่างไปถ่ายน้ำมันเครื่องทันทีครับ ยังขับใช้ไปมาอยู่อีก 2-3 สัปดาห์ จนสุดท้ายทนไม่ไหวแล้ว ขับรถไปทิ้งรถไว้ให้บีควิกจัดการถ่าย น้ำมันเครื่องให้โดยที่ไม่ได้นั่งเฝ้าอย่างทุกทีครับ เพราะลากนานๆไปก็สงสารเครื่องครับ (รถก็เก่าแล้ว เครื่องยนต์ก็แก่แล้วเช่นกัน) ศิริรวมอายุน้ำมันเครื่อง ใช้ไปทั้งสิ้น 10,942 กม. กับระยะเวลา 3 เดือนครึ่งครับ โดยหลังถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นตัวเดิม เหมือนเดิม แค่ขับออกมาจากบีควิกก็รู้สึกชัดเลยว่าเสียงเครื่องเงียบสนิท ท่อเงียบลง และความรู้สึกลื่นปี๊ด ขับสนุกได้กลับมาเหมือนเดิม เป็นอันว่าจบการรีวิวสำหรับ Shell Helix HX8 สำหรับรถผมแต่เพียงเท่านี้นะครับ
สรุปผลการใช้งาน
น้ำมันเครื่อง Shell Helix HX8 โปรบีควิก ราคา 1350 บาทสำหรับรถผม (ซื้อกรองเพิ่มเอง บวกไปอีก 235 บาท) โดยส่วนตัวใช้ไป 10,942 พัน กม. จึงตัดสินใจเปลี่ยนถ่าย ด้วยเหตุผลของเรื่องเครื่องเริ่มตื้อ เริ่มมีเสียงเครื่องดัง และระบายความร้อนดรอบลงครับ ด้วยราคา 1350 (4+1 ลิตร) กับระยะทาง 10,942 กม. สำหรับผม เทียบกับตัวที่ผมชอบใช้ที่สุด ราคาประมาณ 2200 ค่ากรองอีก 200 ค่าแรงถ่ายอีก 100 รวมเป็น 2500 จะใช้ได้ระยะประมาณ 10,000-12,000 กม. โดยส่วนตัวก็คิดว่าเทียบกับตัวที่ผมรีวิวอยู่นี้ เรื่องราคาชนะขาดเลยครับ (แต่ถ้าเทียบเรื่องฟีลลิ่งและสุนทรีย์ในการขับรถช่วง 5000 โลแรกคือดีพอกันเลย แต่ 5000 โลหลังอาจจะยังสู้ไม่ได้ครับ) ส่วนท่านอื่นๆจะเห็นว่าคุ้มค่าหรือไม่ ลองคำนวนกันดูนะครับ เพราะแต่ละท่านมีน้ำมันที่รักที่ชอบไม่เหมือนกัน และให้ความสำคัญกับราคาไม่เท่ากันครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ รีวิวนี้เป็นเพียงการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว อธิบายด้วย "ความรู้สึก" ที่สัมผัสได้จากการใช้งานของผมล้วนๆ อาจจะแตกต่างจากความรู้สึกของท่านอื่นที่ใช้น้ำมันตัวเดียวกันนี้กับรถของท่าน หากมีสิ่งใดผิดพลาด ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
Shell Helix HX8
ความลื่นสมูธ: 7/10
เครื่องแน่นเงียบ: 7/10
ระบายความร้อน: 7/10
คงสภาพได้นาน: 7/10
ความคุ้มค่า: 8/10
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] [CR] รีวิวสามัญชน: น้ำมันเครื่องเชลล์ สังเคราะห์แท้ (โปรบีควิก 1,350 บาท)
น้ำมันตัวที่ใช้นี้เป็น Shell Helix HX8 เบิกมาเป็นแกลลอนเลย ไม่ได้ปั๊มจากถังใหญ่เหมือน Mobil Super 3000x2 ที่ผมเคยใช้ก่อนหน้านะครับ และรีวิวครั้งนี้ก็เหมือนเดิมครับ คงเป็นการบอกแค่เรื่อง "ความรู้สึก" ที่พอจะสัมผัสได้จากการทดลองใช้ ไม่มีการทดสอบวัดค่าอะไรออกมาเป็นตัวเลขใดๆ และเพราะเป็น "ความรู้สึก" จากการใช้งานในแบบของผม ในรถของผมเอง อาจจะแตกต่างจาก "ความรู้สึก" ของท่านอื่นๆที่ไปลองใช้กับรถของแต่ละท่านนะครับ
ref: https://www.b-quik.com/en/product/oil/shell/1789/shell-helix-hx8-syn-5w-40-sn-a685-size-4l
รายละเอียดเกี่ยวกับรถ
ยี่ห้อ/รุ่น: Toyota Altis 1.6E AT 2004
เครื่องยนต์: 2ZZ-GE (เอาเครื่องจากโคโรลล่าตัวญี่ปุ่นมาวาง) ตามสเปค 190 แรงม้า วัดจริงลงที่ล้อ 170 แรงม้า, Redline 8200 รอบ
กรองอากาศ: กรองผ้า 2 ยี่ห้อสลับกันใช้ มี K&N กับ Fabrix
น้ำมันเครื่องที่ผมเคยใช้มาทั้งหมดกับรถคันนี้ ..
1. Mobil 1 (กระป๋องทอง)
2. Shell Helix Ultra (ลองมาทั้งสองตัว สูตรเก่า และสูตรใหม่ Pureplus)
3. Castrol Edge
4. Eneos (ลองมา 2 สูตร คือกึ่งสังเคราะห์ และตัว Sustina สังเคราะห์แท้)
5. GReddy F2
6. ปตท Super Synthetic
7. บางจาก GE Gold
8. Valvoline SYN Power
9. Luqui Moly (ลองใช้มา 2 สูตรคือ 5w-40 5L ราคา 2200 และ 0w-40 5L ราคา 2400)
10. Mobil Super 3000 X2 โปรบีควิก
11. Shell Helix HX8 โปรบีควิก <------ ตัวที่กำลังเขียนรีวิว
** ทุกตัวที่ใช้ เบอร์ความหนืด 40 นะครับ ส่วนเลขหน้า 0 บ้าง 5 บ้าง 10 บ้าง ครับ **
โปร B-Quick
ชุดโปรของบีควิกจะมีน้ำมัน 2 แบบคือสังเคราะห์แท้และกึ่งสังเคราะห์ และมีให้เลือก 3 ยี่ห้อ คือ Mobil Shell และ Total ส่วนของผม มีส่วนที่เพิ่มจากชุดโปรปกติก็คือ ผมซื้อกรองแท้ศูนย์แยกต่างหาก ก็บวกราคาไปอีก 195 บาท (พนักงานน่าจะคีย์ราคาผิด ปกติน่าจะ 2 ร้อยกว่าๆ)
(รูปถ่ายเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2020 นะครับ เป็นวันที่ผมถ่ายโมบิลออก แล้วใส่ Shell HX8 เข้าไปแทนนะครับ)
(ส่วนวันที่กำลังเขียนรีวิวนี้เป็นวันที่ 21 ต.ค. 2020 และเพิ่งถ่าย Shell HX8 เป็นรอบที่สองเมื่อวานนี้ครับ)
Shell Helix HX8
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ - เต็มสมรรถนะ ในการทำความสะอาด และปกป้องเครื่องยนต์
• ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ โดยป้องกันการสึกหรอแม้เผชิญกับสภาวะการขับขี่ที่หนักหน่วง
• เหมาะกับเครื่องยนต์ทุกประเภท ทุกยี่ห้อ และเป็นน้ำมันเครื่องที่ผู้ผลิตแนะนำ
• ลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเครื่อง ช่วยลดการเติมพร่อง
• เหมาะสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงผสมเบนซิน/เอทานอล
มาตรฐาน: API SN
เกรด: SAE 5W-40
ดัชนีความหนืด: -
ref: https://www.shell.co.th/th_th/motorists/oils-lubricants/helix-for-cars/helix-fully-synthetic/shell-helix-hx8-synthetic-5w-40.html
รีวิวการใช้งาน
ขอบอกก่อนนิดนึงว่า เครื่องตัวที่ผมใช้เป็นเครื่องรอบสูงกว่ารถบ้านทั่วๆไป (redline 8200) มีส่วนทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นนะครับ รวมถึงการขับใช้งานของผมไม่ได้ขับช้าๆเน้นประหยัด แต่ผมค่อนข้างเท้าหนัก กระทืบคันเร่งบ่อยอยู่ครับ ถึงจะใช้รอบสูงไม่ถึงกับแตะ redline เป็นประจำ แต่รอบกลางๆช่วง 3000 4000 5000 เป็นรอบที่ใช้งานบ่อยๆครับ พอใช้รอบสูง เครื่องก็ร้อน และก็ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมเร็วขึ้นครับ
หลังจากเปลี่ยนถ่ายมา รับรู้ได้ถึงความลื่น และเสียงเครื่องที่เงียบสนิทครับ (ลื่นกว่าโมบิล Super 3000x2 นิดหน่อย แต่ไม่แน่นเท่าครับ) เครื่องเงียบดี เร่งสมูธ ขับมันส์เลยครับ ก็มีความรู้สึกว่าฟีลลิ่งดี ไม่แพ้น้ำมันเครื่องตัวแพง อย่างพวกโมบิลวันป๋องทอง หรือเชลล์ เฮลิกซ์ อัลตร้าเลย แต่จากประสบการณ์ที่ใช้ โมบิล Super 3000x2 มาก่อนทำให้ผมยังไม่เชื่อใจครับ เดี๋ยวใช้ไปสักพักมันอาจจะอืดเหมือนกันก็ได้
รู้สึกว่าสามารถยืนระยะได้นานดีนะครับ ใช้มาถึง 5000 กม. ฟีลลิ่งเพิ่งเริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย ความลื่นเริ่มลดลงเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับว่ารู้สึกว่าขับแย่หรืออะไร การระบายความร้อนยังคงเป็นปกติ (ดูจากเครื่องอ่านค่าจาก OBD2) เสียงเครื่องยังเงียบ เครื่องยังสมูธดีครับ ก็ยังใช้งานไปโดยที่ไม่ได้จับผิดอะไรมากครับ ลงไต้มารอบนึง จนเพิ่งมาสังเกตุว่าอ้าว ใช้มาได้ 9 พันกว่า กม. แล้ว เหลืออีกไม่กี่ กม. ก็ครบหมื่น ถึงระยะที่ต้องถ่ายแล้วนี่นา พอรู้ตัวว่าถึง 9 พันกว่าโลเท่านั้นแหละ เริ่มจ้องจับผิดขึ้นมาทันทีเลยครับ
และไม่รู้ด้วยความตั้งใจจะจับผิดของผมหรือยังไง หลังจากนั้นไม่กี่วัน (ผมมีออก ตจว ไกล้ๆ ไปกลับสุพรรณบุรีทุกอาทิตย์เลยครับ) ก็เริ่มรู้สึกได้ว่ารถเริ่มฟีลลิ่งเปลี่ยนไป เสียงเครื่องเริ่มดังขึ้นหน่อย เสียงท่อเริ่มดังขึ้นนิด และเวลาขับรถเดินทางปกติแบบไม่ได้ขับเร็วนะครับ แล้วแวะจอดเข้าเซเว่นข้างทาง หรือจอดเติมแก๊สที่ปั๊ม แบบที่ใช้เวลาลงไปไม่เกิน 5 นาที แล้วกลับขึ้นมาสตาร์ทรถใหม่ ความร้อนเริ่มขึ้นไปถึง 100 องศา แทบจะทุกครั้งเลย แปลว่าน้ำมันเริ่มระบายความร้อนได้แย่ลง นั่นก็คือ น้ำมันเริ่มเสื่อมสภาพแล้วนั่นเองครับ แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังไม่ว่างไปถ่ายน้ำมันเครื่องทันทีครับ ยังขับใช้ไปมาอยู่อีก 2-3 สัปดาห์ จนสุดท้ายทนไม่ไหวแล้ว ขับรถไปทิ้งรถไว้ให้บีควิกจัดการถ่าย น้ำมันเครื่องให้โดยที่ไม่ได้นั่งเฝ้าอย่างทุกทีครับ เพราะลากนานๆไปก็สงสารเครื่องครับ (รถก็เก่าแล้ว เครื่องยนต์ก็แก่แล้วเช่นกัน) ศิริรวมอายุน้ำมันเครื่อง ใช้ไปทั้งสิ้น 10,942 กม. กับระยะเวลา 3 เดือนครึ่งครับ โดยหลังถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นตัวเดิม เหมือนเดิม แค่ขับออกมาจากบีควิกก็รู้สึกชัดเลยว่าเสียงเครื่องเงียบสนิท ท่อเงียบลง และความรู้สึกลื่นปี๊ด ขับสนุกได้กลับมาเหมือนเดิม เป็นอันว่าจบการรีวิวสำหรับ Shell Helix HX8 สำหรับรถผมแต่เพียงเท่านี้นะครับ
สรุปผลการใช้งาน
น้ำมันเครื่อง Shell Helix HX8 โปรบีควิก ราคา 1350 บาทสำหรับรถผม (ซื้อกรองเพิ่มเอง บวกไปอีก 235 บาท) โดยส่วนตัวใช้ไป 10,942 พัน กม. จึงตัดสินใจเปลี่ยนถ่าย ด้วยเหตุผลของเรื่องเครื่องเริ่มตื้อ เริ่มมีเสียงเครื่องดัง และระบายความร้อนดรอบลงครับ ด้วยราคา 1350 (4+1 ลิตร) กับระยะทาง 10,942 กม. สำหรับผม เทียบกับตัวที่ผมชอบใช้ที่สุด ราคาประมาณ 2200 ค่ากรองอีก 200 ค่าแรงถ่ายอีก 100 รวมเป็น 2500 จะใช้ได้ระยะประมาณ 10,000-12,000 กม. โดยส่วนตัวก็คิดว่าเทียบกับตัวที่ผมรีวิวอยู่นี้ เรื่องราคาชนะขาดเลยครับ (แต่ถ้าเทียบเรื่องฟีลลิ่งและสุนทรีย์ในการขับรถช่วง 5000 โลแรกคือดีพอกันเลย แต่ 5000 โลหลังอาจจะยังสู้ไม่ได้ครับ) ส่วนท่านอื่นๆจะเห็นว่าคุ้มค่าหรือไม่ ลองคำนวนกันดูนะครับ เพราะแต่ละท่านมีน้ำมันที่รักที่ชอบไม่เหมือนกัน และให้ความสำคัญกับราคาไม่เท่ากันครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ รีวิวนี้เป็นเพียงการแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัว อธิบายด้วย "ความรู้สึก" ที่สัมผัสได้จากการใช้งานของผมล้วนๆ อาจจะแตกต่างจากความรู้สึกของท่านอื่นที่ใช้น้ำมันตัวเดียวกันนี้กับรถของท่าน หากมีสิ่งใดผิดพลาด ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
Shell Helix HX8
ความลื่นสมูธ: 7/10
เครื่องแน่นเงียบ: 7/10
ระบายความร้อน: 7/10
คงสภาพได้นาน: 7/10
ความคุ้มค่า: 8/10
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้