“ตรวจภายใน” ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด 
              
     พี่หมอว่าร่างกายของคนเราก็เหมือนกับรถ 🚗 นี่แหละครับ เพราะขนาดรถเรายังต้องนำไปเช็กระยะเลย แล้วนับประสาอะไรกับร่างกายของเราที่ใช้งานกันอยู่ทุกวัน ที่ก็ต้องมีการตรวจสุขภาพประจำปีกันบ้าง ซึ่งพี่หมอว่าทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ก็น่าจะตรวจสุขภาพกันทุกปีอยู่แล้ว ใช่มั้ยครับ 
     เพราะการตรวจสุขภาพช่วยให้รู้ว่าร่างกายของเรามีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า หรือมีโรคร้ายอะไรแอบซ่อนอยู่หรือไม่ ซึ่งโรคส่วนใหญ่ ถ้าตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ ก็มีโอกาสที่จะรักษาให้หายได้ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง ที่นอกจากจะต้องตรวจสุขภาพทั่วไปแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรจะทำเพิ่มขึ้นก็คือ 👉 “การตรวจภายใน” 
     หลายคนมักจะมีปัญหาเวลาที่ต้องตรวจภายใน เพราะรู้สึกอายและมีความเข้าใจผิดว่า ผู้หญิงที่แต่งงานหรือเคยคลอดลูกเท่านั้นจึงจะต้องตรวจ 
    ✔️ แต่เรื่องจริงก็คือ ผู้หญิงทุกคนควรตรวจภายในตั้งแต่อายุ 21 ปีขึ้นไป หรือตั้งแต่เริ่มมีเพศสัมพันธ์แล้ว 3 ปี เพื่อป้องกันโรคทั้งหลายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก และเพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจเรื่องการตรวจภายใน รวมถึงโรคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงมากขึ้น พี่หมอจึงไปหาข้อมูล รวมถึงสอบถามจากเพื่อนที่เป็นสูติ-นรีแพทย์ เพื่อเอามาเล่าให้ทุกคนฟัง
 
ภายในของคุณผู้หญิงประกอบด้วยอะไรบ้าง 
     อวัยวะเพศหญิง ประกอบด้วยอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนนอกและอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนใน ซึ่งได้แก่
              
    📌 ช่องคลอด ตำแหน่งของช่องคลอดจะอยู่ระหว่างช่องปัสสาวะและช่องทวารหนัก และเป็นทางผ่านของตัวอสุจิที่จะเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ที่อยู่บริเวณปีกมดลูกหรือท่อนำไข่ รวมถึงเป็นช่องทางในการคลอดด้วย ซึ่งปกติในช่องคลอดจะมีสภาวะเป็นกรด เพื่อป้องกันการติดเชื้อต่างๆ
    📌 มดลูก เป็นอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่บริเวณอุ้งเชิงกรานระหว่างกระเพาะปัสสาวะและทวารหนัก ซึ่งถ้ามีการตั้งครรภ์ มดลูกก็จะขยายตัวขึ้นเพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนและการเจริญเติบโตของทารก แต่หลังการคลอด มดลูกก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมภายใน 45 วัน นอกจากนี้ ภายในมดลูกยังมีเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งจะทำหน้าที่สร้างประจำเดือน และยังมีปากมดลูก ซึ่งจะอยู่ติดกับช่องคลอด ทำหน้าที่เป็นทางผ่านของประจำเดือนและอสุจิ เพื่อเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ และสร้างเป็นตัวอ่อนต่อไป
    📌 รังไข่ ตำแหน่งของรังไข่จะอยู่ที่บริเวณปีกมดลูกทั้งซ้ายและขวา ซึ่งจะเชื่อมติดกับมดลูกด้วยปีกมดลูกหรือท่อนำไข่ มีหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์ หรือเซลล์ไข่ รวมถึงสร้างฮอร์โมนเพศด้วย
    📌ท่อนำไข่ หรือปีกมดลูก เป็นทางเชื่อมระหว่างรังไข่ทั้งสองข้างกับมดลูก  มีหน้าที่เป็นทางผ่านของไข่ที่ออกจากรังไข่เข้าสู่มดลูก ซึ่งเป็นบริเวณที่อสุจิและไข่จะมาเจอกันและเกิดการปฏิสนธิ
โรคที่พบได้จากการตรวจภายในเท่านั้น 
 
    🔎 ช็อกโกแลตซีสต์ คือ ถุงน้ำของรังไข่ชนิดหนึ่ง ซึ่งลักษณะของถุงน้ำชนิดนี้ภายในจะมีของเหลวที่คล้ายกับช็อกโกแลตเหลว ซึ่งถุงน้ำนี้ก็คือถุงเลือดนั่นเอง และเมื่อเลือดหยุดไหล น้ำก็จะถูกดูดซึมกลับเข้าไป ทำให้เลือดในถุงเข้มข้นขึ้น และเมื่อเลือดค้างอยู่ในถุงนานๆ ก็จะกลายเป็นสีน้ำตาลและมีลักษณะเหมือนช็อกโกแลต โรคนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุด และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้หญิงปวดท้องในช่วงที่มีประจำเดือน รวมถึงทำให้มีลูกยากด้วย
    🔎 มะเร็งรังไข่ เกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเนื้อเยื่อบริเวณรังไข่ หรือท่อนำไข่ ส่งผลให้รังไข่มีขนาดใหญ่ขึ้น จนในที่สุดเซลล์ที่ผิดปกติก็แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ มะเร็งรังไข่สามารถพบได้ทุกวัย ตั้งแต่เด็ก จนถึงผู้สูงอายุ
    🔎 เนื้องอกในมดลูก พบมากที่สุดในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์  โดยส่วนใหญ่จะเป็นเนื้องอกธรรมดา ไม่ใช่มะเร็ง ซึ่งเนื้องอกก็มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวจนถึงลูกแตงโม ถ้าหากตรวจพบเร็ว คุณหมอก็จะสามารถผ่าตัดเอาออกได้ง่าย แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนเนื้องอกมีขนาดใหญ่ ก็จะรักษาได้ยากขึ้น
    🔎 เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งอาจจะไปแทรกตัวอยู่ในผนังหรือกล้ามเนื้อมดลูก รวมถึงอาจเข้าไปเจริญอยู่ในช่องท้องตามอวัยวะต่างๆ ในอุ้งเชิงกราน ทำให้คุณผู้หญิงมีปัญหามดลูกโต เกิดพังผืดในอุ้งเชิงกราน หรือบางคนก็ประจำเดือนมามากจนซีด ส่งผลให้ปวดท้องประจำเดือน รวมถึงปวดท้องน้อยเรื้อรัง  
    🔎 มะเร็งปากมดลูก สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) ที่เซลล์เยื่อบุปากมดลูก ส่งผลให้เซลล์เยื่อบุปากมดลูกเปลี่ยนแปลงผิดปกติ จนกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด  
 
ทำไมต้องตรวจภายใน ❓
     อย่างที่พี่หมอบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า การตรวจภายใน มีความสำคัญกับคุณผู้หญิงเป็นอย่างมาก เพราะอวัยวะภายในของผู้หญิงมีความซับซ้อนและเป็นระบบปิด ซึ่งอาจถูกรบกวนจากปัจจัยภายนอก และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์และการคลอด และยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและความผิดปกติต่างๆ ภายในอวัยวะสืบพันธุ์ได้อีกด้วย 
ใครบ้างที่ควรตรวจภายใน ❓
     · ผู้หญิงที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป
     · ผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดเอามดลูกออก
     · ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV  ยังคงต้องเข้ารับการตรวจภายในและคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสม่ำเสมอ  หรือตามแพทย์นัด  
     · ผู้ที่ตรวจพบโรคติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือความผิดปกติอื่นๆ 
     · ผู้หญิงที่มีบุตรยาก และผู้หญิงที่เริ่มตั้งครรภ์ รวมถึงผู้ที่จะเริ่มคุมกำเนิด
 
รวมถึงผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้ 👇
      · มีเลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน
      · ประจำเดือนมามากหรือน้อยผิดปกติ รอบเดือนนานกว่า 35 วันหรือสั้นกว่า 21 วัน รวมถึงประจำเดือนมาแบบกะปริดกะปรอย มีลิ่มเลือดปน หรือมีกลิ่นเหม็น
     · ตกขาวผิดปกติ เช่น มีปริมาณมาก มีสีและกลิ่นที่ผิดปกติ หรือมีตกขาวที่มีลักษณะเป็นมูกข้นคล้ายแป้ง มีสีเขียวหรือเหลือง และเริ่มส่งกลิ่นแรงขึ้น
     · ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย ทั้งในช่วงที่มีประจำเดือนและไม่มีประจำเดือน
     · มีผื่นคัน หรือติ่งเนื้อบริเวณอวัยวะเพศ
     · รู้สึกแสบขัดในช่องคลอด
     · สงสัยว่ามีก้อนหรือคลำพบก้อนที่ท้องน้อย 
 
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปตรวจภายใน 
     · งดมีเพศสัมพันธ์ ❌ รวมถึงการใช้ยาเหน็บในช่องคลอด หรือสวนล้างช่องคลอด ก่อนเข้ารับการตรวจประมาณ 24-48 ชั่วโมง
     · หลีกเลี่ยงการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือน ❌ และควรรอให้ประจำเดือนหมดสนิท 2-3 วัน หรือก่อนที่จะมีประจำเดือนในรอบถัดไปประมาณ 1 สัปดาห์จึงจะมาตรวจ เพราะการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือนจะทำได้ยาก และอาจทำให้ผลคลาดเคลื่อนได้ แต่หากมีเลือดออกทางช่องคลอดทุกวัน สามารถพบแพทย์เพื่อตรวจภายได้เลย ไม่ต้องรอเลือดหยุด 
     · ควรปัสสาวะออกให้หมด คุณหมอจะได้คลำขนาดมดลูกและปีกมดลูกได้
     · ไม่ปิดปังข้อมูลกับคุณหมอ เช่น เป็นโสดแต่อาจมีเพศสัมพันธ์ วิธีการที่ใช้ในการคุมกำเนิด การทำแท้ง หรืออาการผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ รวมถึงประวัติการแพ้ยา 
 
ขั้นตอนการตรวจภายใน
    ✅ เปลี่ยนไปใส่ชุดคลุมที่โรงพยาบาลเตรียมไว้ให้
    ✅ ขึ้นนอนบนขาหยั่ง และแยกขาออกให้กว้าง เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับการตรวจ 
    ✅ คุณหมอจะเริ่มตรวจดูอวัยวะเพศภายนอก เพื่อตรวจหาความผิดปกติต่างๆ
    ✅ จากนั้นคุณหมอจะใช้เครื่องมือแพทย์ที่มีลักษณะคล้ายปากเป็ดแบนๆ ขนาดเล็ก 2 อันสอดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อขยายออกให้เห็นปากมดลูก และอาจสอดลึกเข้าไปเพื่อเก็บเซลล์ที่ปากมดลูก เพื่อส่งตรวจหาความผิดปกติต่อไป
    ✅ สำหรับผู้ที่แต่งงานแล้ว แพทย์อาจใช้นิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอด และใช้อีกมือหนึ่งคลำที่บริเวณหน้าท้อง เพื่อตรวจว่ามดลูกโตหรือมีก้อนเนื้อที่ผิดปกติหรือไม่
    ✅ เมื่อตรวจเสร็จ คุณหมอจะสามารถแจ้งผลได้ทันที ยกเว้นการเก็บเซลล์ปากมดลูกเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อาจจะต้องรอผลจากห้องแล็บประมาณ 1 สัปดาห์
 
     สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยตรวจภายในมาก่อน ก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ เพราะแม้ว่าสิ่งที่พี่หมอเขียนมาจะดูหลายขั้นตอน แต่จริงๆ แล้วใช้เวลาตรวจเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ห้องตรวจก็เป็นห้องที่มิดชิดและมีพยาบาลคอยให้คำแนะนำตลอดเวลา หรือถ้ารู้สึกไม่สบายใจที่จะให้คุณหมอผู้ชายตรวจ ก็สามารถเลือกคุณหมอผู้หญิงได้นะครับ 👩‍⚕️
 
     สิ่งที่พี่หมออยากจะย้ำกับคุณผู้หญิงทุกคนก็คือ การตรวจภายในไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นสิ่งที่ควรจะทำทุกปีเช่นเดียวกับการตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องประจำเดือน เพราะหลายๆ คนมักจะมองข้ามและคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิง แต่ถ้าปล่อยไว้นานๆ ก็อาจนำไปสู่โรคร้ายได้เช่นกัน และสำหรับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว การตรวจภายในยังช่วยหาสาเหตุของการมีบุตรยาก รวมถึงการตรวจพบโรคติดเชื้อบางอย่างที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ด้วย 
              
     แล้วกลับมาพบกับเรื่องราวน่ารู้จากพี่หมอได้ใหม่ในสัปดาห์หน้า 
 
     ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับทุกคน ด้วยความปรารถนาดีจากพี่หมอ 😘😘😘
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ติดต่อสอบถาม ศูนย์สุขภาพสตรี