คือเราขายอุปกรณ์ทำขนมให้กับครอบครัวหนึ่ง2ผัวเมีย ไปซึ่งเขาเปิดร้านขายของซำในหมู่บ้านแต่เขางบน้อย เขาขอผ่อนได้ไหม ด้วยเราอยากหาลูกค้าก็เลยตกลงกันเป็นเงินไม่เยอะ 9000 บาท ทำสัญญากู้ยืมเงินกันเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน เพราะเขารับปากว่าจะใช้คืน3ครั้งก็หมด หลังจากนั้นก็เขาผ่อนมางวดที่1 1000
งวดที่ 2 ถัดมา1อาทิตย์(อันนี้เริ่มให้ทวงแล้ว)
งวดที่3 ถัดมา 2อาทิตย์(อันนี้เริ่มมีปากเสียงกันเกี่ยวกับการจ่าย)และเขาบอกว่าต่อไปไม่ต้องทวงถึงเวลาจะโอนให้
พอถึงครบที่ต้องจ่าย เขาเงียบ ทางเราเลยทักไป
ลูกหนี้: เขาพูดว่า เขางานเยอะ ยุ่ง (งานขายของ)ถ้าอยากได้เงินมากก็มาเอาของคุณคืนไป เขาจะขายคืนให้ ไม่ราคาเดิมนะแต่แพงกว่า2เท่า คือ20000บาท
เจ้าหนี้: เอาจริงดิ เขาบอกจริงจะขายราคานี้ เราเลยบอกจะซื้อกลับทำไมในเมื่อไปซื้อใหม่ก็ได้ พอเราพูดไปแบบนั้นเขาเปลี่ยนใหม่คือ
ลูกหนี้:ผมจะทุบของ(อุปกรณ์ทำขนม ใช้คำว่าทุบ )ไปขายคืนให้คุณ
เจ้าหนี้งงเลยค่ะทีนี้ เขาโทษว่าเราไม่เห็นใจเขาเลย เขาต้องหาเงินมาใช้ให้เรา เขาลำบาก แต่เขาบอกว่าเขายุ่งขายของที่บ้านเลยไม่มีเวลาไปไหน
คือทำสัญญากู้ยืมเป็น2ผัวเมียกู้ร่วม มีพยาน คือมันเลยเวลาชำระมาเกือบ1เดือนแล้ว คือจะเข้าเดือนที่2เพราะตกลงกันไว้1เดือน แต่การชำระยังไม่ไปไหน คือเขาจะอ้างตลอด และพูดในเชิงข่มขู่ตลอด อย่างเช่นที่บอก จะทุบของ จะฆ่าตัวตาย มาเอาคืนไปอะไรแบบนี้
เนื้อหาในสัญาคือ มีการตกลงกู้ยืม มีพยาน มีจำนวนที่ต้องจ่าย มีเอกสารประกอบแนบ คือในสัญญาผู้กู้ถ้าผิดสัญญาก็จะต้องนำทรัพย?สินภายในร้านไปขายเพื่อที่จะนำเงินมาใช้คืนแก่ผู้ให้กู้ตามจำนวน อะไรประมานนี้ คือตอนนี้คือยังอนุโลมให้เขา ประมานว่า ผลัดได้แต่การพูดของเขาคือเป็นคนไม่น่าเชื่อถือแล้วเพราะเขาเริ่มที่จะพูดในเชิงไม่สนอะไร แต่เราพูดกับเขานะว่าคุณไหวไหม เราจะช่วยแนะนำ เขาบอกว่าเขาอยากทำขอร้อง เราก็เห็นใจ พอถัดมาอีก5วันเอาอีกแหละแบบหน้ามือหลังเท้าเลย
คือเราปวดหัวมากเพราะเริ่มโดนพูดไม่ดี พูดแบบโทษเราหนักมากว่าไม่เห็นใจคนหาเงิน เอาง่ายนะเราไปบ้านเขารอบที่2เขาเป็นตนจี้โม้ค่อนข้างหนัก ตอนนี้เขานัดวันอาทิตย์ เราถามว่าแน่นะ เขาบอกว่าอาจช้าอยู่นะ คือคำพูดแบบกวนตีนะเอาง่ายๆ