IZ*ONE ที่กำลังจะเริ่มต้นโปรโมต ‘Twelve’ ผลงานอัลบัมเต็มชุดแรกในญี่ปุ่น ได้สมาชิกอย่าง มิยาวากิ ซากุระ ร่วมสัมภาษณ์กับสื่อของญี่ปุ่น Oricon News กันแบบตัวต่อตัว
มิยาวากิ ซากุระ ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสมาชิกอันดับต้นๆ ของวงไอดอลญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในวงกว้างอย่าง AKB48 และ HKT48 ก่อนที่ใน 2 ปีก่อน เธอจะตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันใน ‘Produce 48’ รายการเซอร์ไววัลของเกาหลีและได้เดบิวต์ในเกิร์ลกรุปของเกาหลีอย่าง IZ*ONE โดยเธอก็ได้เปิดใจถึงการตัดสินใจของตัวเองที่กลับมาเป็นเด็กฝึกหัดในขณะนั้น ผ่านการสัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น Oricon News ว่า
“ในตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองจะสามารถสลับไปมาระหว่างการทำกิจกรรมในญี่ปุ่นกับเกาหลีได้ค่ะ ดังนั้นพอฉันได้รับแจ้งว่าจำเป็นจะต้องพักการทำกิจกรรมที่ญี่ปุ่นลงก็ทำให้ฉันรู้สึกตกใจ ในตอนนั้นฉันยังไม่รู้ภาษาเกาหลีเลยค่ะ ก็เลยเป็นกังวลมากว่าตัวเองจะสามารถปรับตัวได้ไหม
ระหว่างการถ่ายทำรายการ Produce 48 ก็ยังเป็นการใช้ภาษาเกาหลีทั้งหมด เลยเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเข้าใจตามได้ตอนช่วงแรกๆ จนในที่สุดฉันก็ได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกคนอื่นๆ ที่สามารถพูดภาษาเกาหลีได้และยังเรียนรู้ที่จะใช้พจนานุกรมด้วยค่ะ”
ซากุระ ยังได้พูดถึงสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่นด้วยว่า
“ถ้ายกตัวอย่าง ผู้คนในญี่ปุ่นจะข่มความรู้สึกที่มาจากความคิดจริงๆ ของพวกเขาเอาไว้ค่ะ แต่ในเกาหลีทุกคนจะเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมาโดยไม่มีการอ้อมค้อมเลยค่ะ จะแสดงความคิดเห็นออกมาแบบชัดเจนและหนักแน่นเลยว่า ‘ไม่’ หรือ ‘ฉันไม่ชอบ’ ซึ่งเป็นอะไรที่ฉันเองก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มากค่ะ
อย่างในระหว่างการสัมภาษณ์อื่นๆ พวกเราได้รับคำถามมาว่า ‘ถ้าได้เกิดใหม่อีกครั้ง คุณจะเลือกเกิดเป็นสมาชิกคนไหน’ และก็มีใครบางคนตอบขึ้นมาว่าเลือกตัวเอง ซึ่งก็ทำให้ฉันตกใจอีกค่ะ ในระหว่างการโปรโมทที่ญี่ปุ่นก็จะได้ยินคำถามแบบนี้มาบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้ยินใครที่จะตอบด้วยคำตอบอย่างนี้เลยค่ะ การที่มีความมั่นใจในตัวเองมันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากและเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้จากพวกเขาค่ะ”
นอกจากนี้ ซากุระ ยังได้เปรียบเทียบความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมในการเป็นไอดอลของญี่ปุ่น ที่มีไอดอลหลายๆ คนสามารถเดบิวต์ได้แล้วหลังจากได้รับการฝึกหัดเพียงไม่นานหรือไม่ได้ฝึกเลย ซึ่งแตกต่างจากการจะเป็นไอดอลในเกาหลีที่มีการฝึกฝนอย่างจริงจังและเข้มงวดมาก โดย ซากุระ ก็ได้สารภาพว่าระบบการฝึกของเกาหลีนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ
“ฉันเป็นไอดอลมา 7 ปี ทำไมฉันถึงทำอะไรไม่ได้เลย? ฉันเอาแต่คิดแบบนั้นค่ะ ก่อนการเดบิวต์ พวกเราจะต้องฝึกซ้อมเป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวัน แต่กับฉันที่ไม่เคยจะต้องใช้เวลาฝึกซ้อมนานขนาดนี้ จึงต้องใช้เวลานานในการปรับตัวค่ะ ฉันรู้สึกกังวลมากว่าตัวเองจะสามารถใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ แบบนี้ได้ไหม และในตอนระหว่างวันเดบิวต์ของพวกเรา ฉันก็จำได้ว่าตัวเองออกมาร้องไห้อยู่คนเดียวค่ะ”
แต่ ซากุระ ก็ได้เปิดใจว่าในทุกวันนี้เธอเองสามารถปรับตัวเข้ากับการฝึกซ้อมของเกาหลีได้แล้ว และค้นพบว่าการซ้อมเป็นเวลานานก็ไม่ใช่เรื่องยากไปซะทั้งหมด รวมถึงยังแสดงความรักของเธอที่มีต่อวงการไอดอลทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีผ่านการสังเกตการณ์ด้วยว่า
“ในเกาหลี เป็นเรื่องจำเป็นมากที่จะแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ค่ะ ในคอนเสิร์ตเองก็จะประกอบไปด้วยการแสดงที่มีคุณภาพมากเหมือนกับการได้ดูโชว์ดีๆ โชว์นึง แต่ในญี่ปุ่น ไอดอลจะขึ้นไปบนสเตจด้วยประสบการณ์อันน้อยนิด แฟนๆ จึงสามารถเชียร์พวกเค้าได้จากระยะที่ใกล้มากกว่าและยังได้เห็นการเติบโตของไอดอลที่เรียนรู้มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และแฟนๆ ก็จะมาดูคอนเสิร์ตราวกับพวกเค้าเป็นครอบครัวที่คอยเฝ้ามองลูกๆเติบโตขึ้น
ซึ่งเป็นภาพคอนเสิร์ตที่มีความแตกต่างกันแต่ฉันก็ชอบทั้ง 2 แบบค่ะ แม้แต่ในเกาหลี แฟนๆจะคอยบอกว่า ‘การร้องของเธอพัฒนาขึ้นแล้ว’ ‘การเต้นของเธอก็พัฒนาขึ้น’ ทำให้ฉันรู้สึกว่าความเหมือนของแฟนๆทั้ง 2 คือการได้เห็นไอดอลค่อยๆ เติบโต”
ในขณะนี้ IZ*ONE กำลังจะปล่อยอัลบัมเต็มชุดแรกของญี่ปุ่น ‘Twelve’ ที่จะวางขายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ และได้ปล่อยมิวสิควิดีโอเพลงไตเติล Beware ออกมาให้ได้ชมกันเป็นที่เรียบร้อย และในอัลบัม ‘Twelve’ เรายังจะได้เห็นการเติบโตของ มิยาวากิ ซากุระ อีกขั้นกับผลงานเพลง Yummy Summer ที่เธอมีส่วนร่วมในการแต่งเพลงและเนื้อร้องในเพลงนี้ด้วย
เครดิต
http://www.hallyukstar.com/2020/10/20/sakura-talks-about-different-between-kpop-and-jpop-idols/
ต้นฉบัน
https://www.oricon.co.jp/special/55293/?utm_source=Twitter&utm_medium=social&ref_cd=tw
ซากุระ IZ*ONE กับมุมมองถึงความเหมือน-ต่างของการเป็นไอดอล K-POP และ J-POP
IZ*ONE ที่กำลังจะเริ่มต้นโปรโมต ‘Twelve’ ผลงานอัลบัมเต็มชุดแรกในญี่ปุ่น ได้สมาชิกอย่าง มิยาวากิ ซากุระ ร่วมสัมภาษณ์กับสื่อของญี่ปุ่น Oricon News กันแบบตัวต่อตัว
มิยาวากิ ซากุระ ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสมาชิกอันดับต้นๆ ของวงไอดอลญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในวงกว้างอย่าง AKB48 และ HKT48 ก่อนที่ใน 2 ปีก่อน เธอจะตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันใน ‘Produce 48’ รายการเซอร์ไววัลของเกาหลีและได้เดบิวต์ในเกิร์ลกรุปของเกาหลีอย่าง IZ*ONE โดยเธอก็ได้เปิดใจถึงการตัดสินใจของตัวเองที่กลับมาเป็นเด็กฝึกหัดในขณะนั้น ผ่านการสัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น Oricon News ว่า
“ในตอนแรกฉันคิดว่าตัวเองจะสามารถสลับไปมาระหว่างการทำกิจกรรมในญี่ปุ่นกับเกาหลีได้ค่ะ ดังนั้นพอฉันได้รับแจ้งว่าจำเป็นจะต้องพักการทำกิจกรรมที่ญี่ปุ่นลงก็ทำให้ฉันรู้สึกตกใจ ในตอนนั้นฉันยังไม่รู้ภาษาเกาหลีเลยค่ะ ก็เลยเป็นกังวลมากว่าตัวเองจะสามารถปรับตัวได้ไหม
ระหว่างการถ่ายทำรายการ Produce 48 ก็ยังเป็นการใช้ภาษาเกาหลีทั้งหมด เลยเป็นเรื่องยากที่จะสามารถเข้าใจตามได้ตอนช่วงแรกๆ จนในที่สุดฉันก็ได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกคนอื่นๆ ที่สามารถพูดภาษาเกาหลีได้และยังเรียนรู้ที่จะใช้พจนานุกรมด้วยค่ะ”
ซากุระ ยังได้พูดถึงสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่นด้วยว่า
“ถ้ายกตัวอย่าง ผู้คนในญี่ปุ่นจะข่มความรู้สึกที่มาจากความคิดจริงๆ ของพวกเขาเอาไว้ค่ะ แต่ในเกาหลีทุกคนจะเป็นคนที่พูดตรงไปตรงมาโดยไม่มีการอ้อมค้อมเลยค่ะ จะแสดงความคิดเห็นออกมาแบบชัดเจนและหนักแน่นเลยว่า ‘ไม่’ หรือ ‘ฉันไม่ชอบ’ ซึ่งเป็นอะไรที่ฉันเองก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มากค่ะ
อย่างในระหว่างการสัมภาษณ์อื่นๆ พวกเราได้รับคำถามมาว่า ‘ถ้าได้เกิดใหม่อีกครั้ง คุณจะเลือกเกิดเป็นสมาชิกคนไหน’ และก็มีใครบางคนตอบขึ้นมาว่าเลือกตัวเอง ซึ่งก็ทำให้ฉันตกใจอีกค่ะ ในระหว่างการโปรโมทที่ญี่ปุ่นก็จะได้ยินคำถามแบบนี้มาบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้ยินใครที่จะตอบด้วยคำตอบอย่างนี้เลยค่ะ การที่มีความมั่นใจในตัวเองมันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากและเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้จากพวกเขาค่ะ”
นอกจากนี้ ซากุระ ยังได้เปรียบเทียบความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมในการเป็นไอดอลของญี่ปุ่น ที่มีไอดอลหลายๆ คนสามารถเดบิวต์ได้แล้วหลังจากได้รับการฝึกหัดเพียงไม่นานหรือไม่ได้ฝึกเลย ซึ่งแตกต่างจากการจะเป็นไอดอลในเกาหลีที่มีการฝึกฝนอย่างจริงจังและเข้มงวดมาก โดย ซากุระ ก็ได้สารภาพว่าระบบการฝึกของเกาหลีนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ
“ฉันเป็นไอดอลมา 7 ปี ทำไมฉันถึงทำอะไรไม่ได้เลย? ฉันเอาแต่คิดแบบนั้นค่ะ ก่อนการเดบิวต์ พวกเราจะต้องฝึกซ้อมเป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวัน แต่กับฉันที่ไม่เคยจะต้องใช้เวลาฝึกซ้อมนานขนาดนี้ จึงต้องใช้เวลานานในการปรับตัวค่ะ ฉันรู้สึกกังวลมากว่าตัวเองจะสามารถใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ แบบนี้ได้ไหม และในตอนระหว่างวันเดบิวต์ของพวกเรา ฉันก็จำได้ว่าตัวเองออกมาร้องไห้อยู่คนเดียวค่ะ”
แต่ ซากุระ ก็ได้เปิดใจว่าในทุกวันนี้เธอเองสามารถปรับตัวเข้ากับการฝึกซ้อมของเกาหลีได้แล้ว และค้นพบว่าการซ้อมเป็นเวลานานก็ไม่ใช่เรื่องยากไปซะทั้งหมด รวมถึงยังแสดงความรักของเธอที่มีต่อวงการไอดอลทั้งในญี่ปุ่นและเกาหลีผ่านการสังเกตการณ์ด้วยว่า
“ในเกาหลี เป็นเรื่องจำเป็นมากที่จะแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ค่ะ ในคอนเสิร์ตเองก็จะประกอบไปด้วยการแสดงที่มีคุณภาพมากเหมือนกับการได้ดูโชว์ดีๆ โชว์นึง แต่ในญี่ปุ่น ไอดอลจะขึ้นไปบนสเตจด้วยประสบการณ์อันน้อยนิด แฟนๆ จึงสามารถเชียร์พวกเค้าได้จากระยะที่ใกล้มากกว่าและยังได้เห็นการเติบโตของไอดอลที่เรียนรู้มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และแฟนๆ ก็จะมาดูคอนเสิร์ตราวกับพวกเค้าเป็นครอบครัวที่คอยเฝ้ามองลูกๆเติบโตขึ้น
ซึ่งเป็นภาพคอนเสิร์ตที่มีความแตกต่างกันแต่ฉันก็ชอบทั้ง 2 แบบค่ะ แม้แต่ในเกาหลี แฟนๆจะคอยบอกว่า ‘การร้องของเธอพัฒนาขึ้นแล้ว’ ‘การเต้นของเธอก็พัฒนาขึ้น’ ทำให้ฉันรู้สึกว่าความเหมือนของแฟนๆทั้ง 2 คือการได้เห็นไอดอลค่อยๆ เติบโต”
ในขณะนี้ IZ*ONE กำลังจะปล่อยอัลบัมเต็มชุดแรกของญี่ปุ่น ‘Twelve’ ที่จะวางขายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ และได้ปล่อยมิวสิควิดีโอเพลงไตเติล Beware ออกมาให้ได้ชมกันเป็นที่เรียบร้อย และในอัลบัม ‘Twelve’ เรายังจะได้เห็นการเติบโตของ มิยาวากิ ซากุระ อีกขั้นกับผลงานเพลง Yummy Summer ที่เธอมีส่วนร่วมในการแต่งเพลงและเนื้อร้องในเพลงนี้ด้วย
เครดิต
http://www.hallyukstar.com/2020/10/20/sakura-talks-about-different-between-kpop-and-jpop-idols/
ต้นฉบัน
https://www.oricon.co.jp/special/55293/?utm_source=Twitter&utm_medium=social&ref_cd=tw