สถานการณ์ปัจจุบัน หลายๆทีมในไทยลีกมีการขยับเปลี่ยนแปลงโค้ชหลายทีม ฟุตบอลสมัยใหม่สไตล์ซามูไรกำลังฮิตฮอตอยู่ในปัจจุบัน ถ้าทีมในไทยลีกอยากเปลี่ยนแปลง อยากได้โค้ชระดับท็อปเพื่อเข้ามายกระดับทีม ของแบบนี้ต้องลงทุน
ในช่วง 2-3 ปีหลังจากหน้าข่าวที่เราพบเห็นความสัมพันธ์ระหว่างลูกหนังไทยและญี่ปุ่นที่เน้นแฟ้น ทั้งการจับมือเป็นพันธมิตรฟุตบอลลีก หรือการที่พ่อค้าแข้งจากแดนอาทิตย์อุทัยหอบหิ้วรองเท้ามาล่าเงินบาทมากมาย
ขอนำเสนอ กุนซือเลือดซามูไร โปรไฟล์ระดับท็อปของเจลีก

1. ทากาชิ โอคาดะ
กุนซือผู้ที่จารึกชื่อว่าคือชายคนแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังอาทิตย์อุทัยที่คุมทีมไปโลดแล่นฟุตบอลโลกในปี 1998 เขาคือคนที่กล้าเขี่ย คาซูโยชิ มิอูระ ออกจากทัพบูชิโดในชุดนั้นหลังไปมีปัญหาทะเลาะกันรุนแรงในแคมป์เก็บตัวทีมชาติ ที่สวิตเซอร์แลนด์
โอคาดะ จัดว่าเป็นกุนซือจอมเฮียบเขาไม่สนใจชื่อเสียงนักเตะจะโด่งดังแค่ไหน เขาสนแค่ว่าเมื่อนักเตะมารวมตัวกันทีมต้องเล่นเป็นทีมเวิร์คเท่านั้น
โอคาดะ ประสบความสำเร็จในชีวิตการเป็นกุนซือพาโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส เป็นแชมป์เจลีก 2 สมัย และโดนดึงตัวกลับไปทำทีมชาติญี่ปุ่นเป็นคำรบที่ 2 แทนที่อิวิก้า โอซิม ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพเมื่อปี 2007 และนำทีมไปลุยบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ เวทีดังกล่าวเขาผลักดัน เคซึเกะ ฮอนดะ ขึ้นมาเป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวหลักแทนชุนซูเกะ นางามูระ จนทีมไปถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนไปตกม้าตายแพ้จุดโทษปารากวัย
ฟุตบอลบอลโลก 2010 นอกเหนือจาก 23 นักเตะตัวจริงที่เขาตัดสินใจเลือกไปลุยศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่แอฟริกาใต้แล้ว เขายังจะให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งอีก 4 คน เดินทางไปยังแอฟริกาใต้พร้อมกับผู้เล่นทีมชุดใหญ่ด้วย โดยนักเตะผู้โชคดีทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย โกโตกุ ซากาอิ วิงแบ็ก วัย 19 ปี จากสโมสรอัลบิเรกซ์ นิอิงาตะ, ชินจิ คากาวะ มิดฟิลด์จากสโมสรเซเรโซ โอซากา, คาสึยะ ยามามูระ กองกลางจากทีมมหาวิทยาลัยเกอิไซ รวมถึงเคนสึเกะ นากาอิ  หัวหอกอนาคตไกลจากทีมมหาวิทยาลัยฟูกูโอกะ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเตะทั้ง 4 ราย ซึ่งถือเป็นดาวรุ่งที่ดีที่สุดของประเทศในเวลานี้ ได้รับประสบการณ์อันมีค่า นับว่าเป็นกุนซือที่ให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งอย่างเต็มที่
หลังก้าวลงจากตำแหน่งโอคาดะ ย้ายไปรับงานในเมืองจีนกับหางโจว กรีนทาวน์ ปลายปี 2013 เขาได้รับข้อเสนอจากเมืองทอง ยูไนเต็ด รวมถึงการปรากฏตัวที่สนามชลบุรี เอฟซี แต่สุดท้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น 
ในปี 2014 ได้ซื้อหุ้นในสโมสรเอฟซี อิมาบาริ ในศึกเจลีก 5 หลังจากนั้นได้ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองนายกสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น(JFA) และพึ่งหมดวาระลงจากตำแหน่งปี 2019
ปัจจุบัน โอคาดะ เป็นเจ้าของสโมสรเอฟซี อิมาบาริ ทีมในระดับ J.LEAGUE 3 ของประเทศ 
ผลงานการทำทีม
แชมป์ J.League 1  :  2003, 2004
โค้ชยอดเยี่ยม AFC Coach of the Month : November 1997
โค้ชยอดเยี่ยม J.League Manager of the Year : 2003, 2004
โค้ชยอดเยี่ยม AFC Coach of the Year : 2010

2.ทาคาชิ เซกิซูกะ

กุนซือผู้วางรากฐานให้คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จนพัฒนาจากทีมระดับเจลีก 2 ขึ้นมาเป็นทีมแถวหน้าฟุตบอลญี่ปุ่น จากนั้นโยกไปรับจ็อบทำซามูไรบลูส์ ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี แบกอายุจนก้าวไปคว้าเหรียญทองฟุตบอลชายเอเชียน เกมส์ 2010 ที่เมืองกวางโจว โดยที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายผ่านไทยมาได้ไม่ยากเย็น
เซกิซูกะ ฟูมฝักทีมชุดดังกล่าว 2 ปีเต็มพาทีมไปลุยบอลชายโอลิมปิก เกมส์ 2012 ที่ลอนดอน  และจัดการหักปากกาเซียนล้มสเปน 1-0 ในนัดแรกบอลชายโอลิมปิก เกมส์ 2012 ที่ลอนดอน ก่อนจะก้าวไปจบอันดับ 4 แบบเหนือความคาดหมาย
แม้ว่าเวลาต่อมาการทีมจูบิโล่ อิวาตะ จะล้มเหลวไม่สามารถนำทีมอยู่รอดในเจลีกปี2013 รวมถึงเจฟ ยูไนเต็ด ที่ไร้วี่แววเลื่อนชั้น 3 ฤดูกาลติด
ปลายปี 2017 เซกิซูกะ เดินทางมาที่แดนสยามเพื่อพูดคุยกับสโมสรชลบุรี ถึงความเป็นไปได้ในการรับงานทำทีมในเมืองไทย ทุกอย่างกำลังลงเอยด้วยดี ทีมดังแดนบูรพาพร้อมทุ่มเงิน1ล้านบาทต่อเดือน ทว่ากุนซือชาวเมืองชิบะ ดันเกิดเปลี่ยนใจไม่ทำทีมซะอย่างนั้น เรียกว่าทำบอร์ดบริหารทีมฉลามและโค้ชเฮงเซ็งไปตามๆกัน 
“โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคของสโมสร ชลบุรี เอฟซี  ออกมาเผยว่าเวลานี้สโมสรนั้นจำเป็นต้องค้นหากุนซือคนใหม่อีกคำรบ หลังจากที่  ทาเคชิ เซคิซูกะ ดีกรีกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นชุดคว้าอันดับ 4 กีฬาโอลิมปิก เมื่อปี 2012 นั้นไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้สำเร็จ
ปัจจุบันทาคาชิ เซกิซูกะ ไปรับตำแหน่งเป็นประธานพัฒนาเทคนิคให้สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น