ถุงมือเรื่องสั้น เรื่องที่ 2 สั้นสมชื่อ "เรื่องสั้น" ครับ ^^
เรื่องราวของความรัก ที่มิอาจบังคับฝืนใจกันได้ของหญิงคนหนึ่ง กับชายผู้หมายปองเธอ หลงรักเธอ แต่ทำดีอย่างไรก็ตามก็ไม่อาจชนะใจเธอได้ แม้กระทั่งการเสี่ยงตายเข้าไปช่วยชีวิต! เพราะเธอมีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแล้ว
ความรัก มิอาจฝืนใจกันได้เช่นนี้แหละ!
เขาไม่ใช่นักดับเพลิง เขาไม่ใช่นักมวย และเขาก็ไม่ใช่นักวิ่ง แต่เขาอาจเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ที่ได้ติดกับดักรักเธอแน่น จนออกมาไม่ได้...
“ไฟไหม้...ไฟไหม้ !!!...”
เสียงผู้คนในหมู่บ้านต่างตะโกนร้องเอะอะโวยวาย เมื่อมีควันไฟสีดำก้อนใหญ่พร้อมด้วยเปลวเพลิงสูง พวยพุ่งออกมาจากบ้านตึกสามชั้นหลังใหญ่หลังหนึ่ง ในช่วงหัวค่ำของวันอาทิตย์
“ช่วยคำแพงด้วยจ้า...ช่วยด้วย...คำแพงยังไม่ได้ออกมา” เสียงผู้เป็นแม่ตะโกนเสียงดังให้เพื่อนบ้านหรือใครก็ได้มาช่วยลูกสาวของตนที่ยังติดอยู่ในบ้านที่มีไฟกำลังโหมไหม้อย่างหนัก หลังจากที่เธอสามารถวิ่งหนีออกมาจากเปลวนรกนั้นได้
“ชุมพล...ชุมพล...บ้านผู้ใหญ่ไฟไหม้ คำแพงติดอยู่ในบ้านด้วย” เสียงเจ้ายอด เด็กในหมู่บ้านเดียวกันรีบวิ่งมาตะโกนบอกชุมพลในขณะที่เขากำลังนั่งซ่อมพัดลมอยู่ภายในบ้าน
“หา! จริงเหรอ...” เขาตกใจมาก แต่ยังคงมีสติ รีบเอาผ้าห่มนวมชุบน้ำบิดหมาด ๆ แล้วรีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปบ้านของคำแพง...ผู้หญิงที่เขารัก
เมื่อเขาวิ่งไปถึง เขาได้เจอแม่ของคำแพง มีคนแจ้งรถดับเพลิงแล้ว แต่ยังมาไม่ถึง และยังไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยคำแพง แม่ของเธอจึงบอกกับชุมพล ให้ช่วยลูกสาวของเธอด้วย ซึ่งน่าจะติดอยู่ในห้องนอนชั้นสามริมด้านขวาของตึก
หลังจากรู้พิกัด ชุมพลเอาผ้าห่มนวมเปียกหมาดคลุมตัว แล้วใช้มุมหนึ่งของผ้ามาปิดจมูกของเขาเพื่อช่วยกรองควันไฟตอนหายใจ
ต้นเพลิงมาจากห้องครัวชั้นหนึ่ง ซึ่งผู้เป็นแม่เปิดเตาแก๊สต้มอาหารแล้วเผลอลืมทิ้งไว้ จนทำให้ไฟเกิดติดวัสดุอื่นไหม้ขยายพื้นที่ ไฟได้ลามขึ้นไปชั้นสองที่ซึ่งเป็นห้องของแม่ เมื่อแม่ซึ่งกำลังทำความสะอาดห้องอยู่ได้กลิ่นควันไฟ จึงรีบออกจากห้องมาดู เห็นเพลิงกำลังโหมกระพืออยู่ตรงทางขึ้นชั้นสาม ทำให้ไม่สามารถขึ้นไปช่วยลูกสาวที่อยู่ด้านบนได้ เธอจึงตะโกนเรียกขึ้นไปอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านบนแต่อย่างใด จึงตัดสินใจวิ่งลงมาด้านล่างก่อนเพื่อจะหาคนมาช่วย
ชุมพลยอมตายเพื่อผู้หญิงที่เขารัก เขาฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปในบ้าน เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสอง เขาได้ยินเสียงของคำแพงตะโกนร้องให้ช่วย จึงนำผ้าม่านหนามาชุบน้ำในห้องน้ำ แล้วรีบฝ่าความร้อนขึ้นไปชั้นสาม คำแพงซึ่งก่อนหน้านั้นไม่ได้ยินเสียงแม่เรียกเพราะกำลังฟังเพลงเสียงดังจากหูฟังอยู่ ออกมายืนหน้าห้องรอคนมาช่วยอย่างขวัญเสีย
เขาใช้ผ้าม่านเปียกคลุมร่างของเธอ แล้วรีบพาเธอออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยเธอโชคดีมีรอยโดนไฟลวกเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเขาโชคร้ายโดนไฟลวกลึกและมีบาดแผลที่ต้องเย็บซึ่งเกิดจากการปกป้องเธอนั่นเอง
พ่อของคำแพงซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านเพิ่งกลับจากธุระในเมืองมาถึงพอดี เข้าสวมกอดลูกและภรรยา และกล่าวขอบคุณชุมพลที่ช่วยลูกสาวของเขาไว้ได้ และยินดีที่จะช่วยออกค่ารักษาพยาบาลให้เขาทั้งหมด
“คำแพง...” ทันใดนั้นเสียงจาก วินัย ชายคนรักของคำแพงดังขึ้น
คำแพงหันไปหาแล้วรีบวิ่งไปสวมกอดเขาและร้องไห้ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วินัยเป็นผู้อำนวนการโรงเรียนประจำตำบล ส่วนคำแพงเป็นครูอยู่ที่นั่น ทั้งสองคนรักกันมาก เธอมอบทั้งใจและกายให้กับเขาไปหมด และวางแผนจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้
ชุมพลแอบรักคำแพงตั้งแต่เด็ก เขาคอยช่วยเหลือเธอเสมอเมื่อมีเรื่องเดือดร้อน เขาเคยชกต่อยกับนักเลงที่จะมาลวนลามเธอ จนตัวเองบาดเจ็บสาหัส แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้เธอรักเขาได้ เขารู้ว่าเขาไม่เหมาะสมกับเธอ คงเหมือนดอกฟ้ากับหมาวัด เพราะเขาเป็นเพียงช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจน ๆ เท่านั้น
เขาคิดว่า เธอคงรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ แต่เพราะเธอไม่เคยมีใจให้กับเขา เธอจึงทำตัวเหินห่างไม่เข้าใกล้เขา เขามักแอบมองเธอกับแฟนจากกระท่อมนาร้าง ไม่ไกลจากที่ ๆ ทั้งสองชอบไปนั่งคุยกัน
ชุมพลร้องไห้บางครั้งเมื่ออยู่ในห้องคนเดียวเพราะสงสารตัวเองที่ต้องมารักคนที่เขาไม่รักและมีเจ้าของแล้ว เขามักหยิบรูปเธอขึ้นมาดู แล้วพึมพำว่า
“รักเจ้ามากนะ...รอเจ้าอยู่นะ...ที่รัก”
/// จบ ///
แถมเพลงให้ฟังด้วยครับ
😂🎭👧🏽 THE GLOVES 2020 ถุงมือเรื่องสั้น#63 Week#17, 19 - 24 ตุลาคม/ "คำแพง" - ถุงมือ แซ่บ ชุมพล 😂🎭👧🏽
เรื่องราวของความรัก ที่มิอาจบังคับฝืนใจกันได้ของหญิงคนหนึ่ง กับชายผู้หมายปองเธอ หลงรักเธอ แต่ทำดีอย่างไรก็ตามก็ไม่อาจชนะใจเธอได้ แม้กระทั่งการเสี่ยงตายเข้าไปช่วยชีวิต! เพราะเธอมีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแล้ว
ความรัก มิอาจฝืนใจกันได้เช่นนี้แหละ!
“ไฟไหม้...ไฟไหม้ !!!...”
เสียงผู้คนในหมู่บ้านต่างตะโกนร้องเอะอะโวยวาย เมื่อมีควันไฟสีดำก้อนใหญ่พร้อมด้วยเปลวเพลิงสูง พวยพุ่งออกมาจากบ้านตึกสามชั้นหลังใหญ่หลังหนึ่ง ในช่วงหัวค่ำของวันอาทิตย์
“ช่วยคำแพงด้วยจ้า...ช่วยด้วย...คำแพงยังไม่ได้ออกมา” เสียงผู้เป็นแม่ตะโกนเสียงดังให้เพื่อนบ้านหรือใครก็ได้มาช่วยลูกสาวของตนที่ยังติดอยู่ในบ้านที่มีไฟกำลังโหมไหม้อย่างหนัก หลังจากที่เธอสามารถวิ่งหนีออกมาจากเปลวนรกนั้นได้
“ชุมพล...ชุมพล...บ้านผู้ใหญ่ไฟไหม้ คำแพงติดอยู่ในบ้านด้วย” เสียงเจ้ายอด เด็กในหมู่บ้านเดียวกันรีบวิ่งมาตะโกนบอกชุมพลในขณะที่เขากำลังนั่งซ่อมพัดลมอยู่ภายในบ้าน
“หา! จริงเหรอ...” เขาตกใจมาก แต่ยังคงมีสติ รีบเอาผ้าห่มนวมชุบน้ำบิดหมาด ๆ แล้วรีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปบ้านของคำแพง...ผู้หญิงที่เขารัก
เมื่อเขาวิ่งไปถึง เขาได้เจอแม่ของคำแพง มีคนแจ้งรถดับเพลิงแล้ว แต่ยังมาไม่ถึง และยังไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยคำแพง แม่ของเธอจึงบอกกับชุมพล ให้ช่วยลูกสาวของเธอด้วย ซึ่งน่าจะติดอยู่ในห้องนอนชั้นสามริมด้านขวาของตึก
หลังจากรู้พิกัด ชุมพลเอาผ้าห่มนวมเปียกหมาดคลุมตัว แล้วใช้มุมหนึ่งของผ้ามาปิดจมูกของเขาเพื่อช่วยกรองควันไฟตอนหายใจ
ต้นเพลิงมาจากห้องครัวชั้นหนึ่ง ซึ่งผู้เป็นแม่เปิดเตาแก๊สต้มอาหารแล้วเผลอลืมทิ้งไว้ จนทำให้ไฟเกิดติดวัสดุอื่นไหม้ขยายพื้นที่ ไฟได้ลามขึ้นไปชั้นสองที่ซึ่งเป็นห้องของแม่ เมื่อแม่ซึ่งกำลังทำความสะอาดห้องอยู่ได้กลิ่นควันไฟ จึงรีบออกจากห้องมาดู เห็นเพลิงกำลังโหมกระพืออยู่ตรงทางขึ้นชั้นสาม ทำให้ไม่สามารถขึ้นไปช่วยลูกสาวที่อยู่ด้านบนได้ เธอจึงตะโกนเรียกขึ้นไปอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากคนด้านบนแต่อย่างใด จึงตัดสินใจวิ่งลงมาด้านล่างก่อนเพื่อจะหาคนมาช่วย
ชุมพลยอมตายเพื่อผู้หญิงที่เขารัก เขาฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปในบ้าน เมื่อขึ้นไปถึงชั้นสอง เขาได้ยินเสียงของคำแพงตะโกนร้องให้ช่วย จึงนำผ้าม่านหนามาชุบน้ำในห้องน้ำ แล้วรีบฝ่าความร้อนขึ้นไปชั้นสาม คำแพงซึ่งก่อนหน้านั้นไม่ได้ยินเสียงแม่เรียกเพราะกำลังฟังเพลงเสียงดังจากหูฟังอยู่ ออกมายืนหน้าห้องรอคนมาช่วยอย่างขวัญเสีย
เขาใช้ผ้าม่านเปียกคลุมร่างของเธอ แล้วรีบพาเธอออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยเธอโชคดีมีรอยโดนไฟลวกเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนเขาโชคร้ายโดนไฟลวกลึกและมีบาดแผลที่ต้องเย็บซึ่งเกิดจากการปกป้องเธอนั่นเอง
พ่อของคำแพงซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านเพิ่งกลับจากธุระในเมืองมาถึงพอดี เข้าสวมกอดลูกและภรรยา และกล่าวขอบคุณชุมพลที่ช่วยลูกสาวของเขาไว้ได้ และยินดีที่จะช่วยออกค่ารักษาพยาบาลให้เขาทั้งหมด
“คำแพง...” ทันใดนั้นเสียงจาก วินัย ชายคนรักของคำแพงดังขึ้น
คำแพงหันไปหาแล้วรีบวิ่งไปสวมกอดเขาและร้องไห้ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วินัยเป็นผู้อำนวนการโรงเรียนประจำตำบล ส่วนคำแพงเป็นครูอยู่ที่นั่น ทั้งสองคนรักกันมาก เธอมอบทั้งใจและกายให้กับเขาไปหมด และวางแผนจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้
ชุมพลแอบรักคำแพงตั้งแต่เด็ก เขาคอยช่วยเหลือเธอเสมอเมื่อมีเรื่องเดือดร้อน เขาเคยชกต่อยกับนักเลงที่จะมาลวนลามเธอ จนตัวเองบาดเจ็บสาหัส แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้เธอรักเขาได้ เขารู้ว่าเขาไม่เหมาะสมกับเธอ คงเหมือนดอกฟ้ากับหมาวัด เพราะเขาเป็นเพียงช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจน ๆ เท่านั้น
เขาคิดว่า เธอคงรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ แต่เพราะเธอไม่เคยมีใจให้กับเขา เธอจึงทำตัวเหินห่างไม่เข้าใกล้เขา เขามักแอบมองเธอกับแฟนจากกระท่อมนาร้าง ไม่ไกลจากที่ ๆ ทั้งสองชอบไปนั่งคุยกัน
ชุมพลร้องไห้บางครั้งเมื่ออยู่ในห้องคนเดียวเพราะสงสารตัวเองที่ต้องมารักคนที่เขาไม่รักและมีเจ้าของแล้ว เขามักหยิบรูปเธอขึ้นมาดู แล้วพึมพำว่า
“รักเจ้ามากนะ...รอเจ้าอยู่นะ...ที่รัก”