เวียดนามมั่นใจจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุน FDI โลกปี 64 ชูจุดเด่นคุมโควิดอยู่ การเมืองมั่นคง แรงงานวัยหนุ่มสาวมาก ปูพรมสร้างนิคมฯรองรับแล้ว 366 แห่ง ต่างชาติแห่ลงทุนกว่า 2 แสนล้านดอลล์
 
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต. / ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลสื่อของเวียดนามว่า ผู้กำหนดนโยบายของเวียดนามระบุว่า ในปี 2564 เวียดนามจะเป็นหนึ่งในจุดหมายที่น่าสนใจของโลกสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เนื่องจากความสำเร็จของเวียดนามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
 
นาย Tran Quoc Phuong รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุน กล่าวว่า  แรงงานที่มีทักษะ เสถียรภาพทางการเมือง และเศรษฐกิจถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของประเทศในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจโลกกำลังประสบความยากลำบากและรอการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
 
การหารือระหว่างกระทรวงวางแผนและการลงทุน (MPI) กับนักลงทุนได้ผลตอบรับที่ดีโดยบริษัทจากญี่ปุ่น สิงคโปร์และสหภาพยุโรป แสดงความสนใจอย่างมากในการจัดตั้งโรงงานในเวียดนาม บริษัทระหว่างประเทศได้แก่ Apple, Foxconn และ Luxshare ได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเวียดนามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
 
ขณะเดียวกัน เวียดนามได้ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยการเพิ่มการก่อสร้างเขตอุตสาหกรรม และเขตเศรษฐกิจ ภายในสิ้นเดือนกันยายน 2563 มีนิคมอุตสาหกรรม 366 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีโครงการลงทุนกว่า 10,000 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 6.2 ล้านล้านบาท คำนวณที่ 31 บาทต่อดอลลาร์)
 
กระทรวงการวางแผนและการลงทุนระบุว่า โครงการลงทุนใหม่กว่า 500 โครงการ มีมูลค่า 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯได้รับการจดทะเบียนตั้งแต่ต้นปี รายได้ของภาคอุตสาหกรรมมีมูลค่า 136,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปี 2562 และมีการจ้างงานมากกว่า 3.8 ล้านคน
 
นาย Do Nhat Hoang อธิบดีกรมการลงทุนต่างประเทศของกระทรวงวางแผนและการลงทุน กล่าวว่า กระทรวงฯ คาดจะมีกระแสการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในเวียดนามในปีหน้า โดยเฉพาะความพยายามของรัฐบาลเวียดนามในการเปิดประเทศให้กับนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศสามารถเดินทางมาเวียดนาม
 
นอกจากนี้การจัดตั้งของเขตเศรษฐกิจชายฝั่ง 19 แห่งที่มีพื้นที่มากกว่า 100,000 เฮกตาร์ (625,000 ไร่) สำหรับการพัฒนา เศรษฐกิจจะนำมาซึ่งโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มีศักยภาพ ขณะเดียวกันเวียดนามมีแผนที่จะลงทุนในด้านกำลังแรงงาน พัฒนาอุตสาหกรรมสนับสนุนและปรับปรุงกฎหมายและ กฎระเบียบทางธุรกิจ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
 
สคต. ณ กรุงฮานอย ให้ความเห็นว่า แม้เศรษฐกิจเวียดนามจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 เวียดนามก็ยังคงมีโครงการลงทุนจากต่างประเทศรวม 1,947 โครงการ มีมูลค่า 10,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเวียดนามมีข้อได้เปรียบเหนือกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค เนื่องจากมีการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งรัฐบาลเวียดนามส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ มีประชากรวัยหนุ่มสาว การเมืองที่มั่นคง และตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ดี ทำให้เวียดนามยังคงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 และปี 2564 จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายการค้าและการลงทุนมายังเวียดนาม