สวัสดีค่ะ พอดีมีเรื่องอยากจะมาแลกเปลี่ยน เรื่อง "มุมมอง" เรื่องความรัก ความตาย การจากลา และความสุขของชีวิตในแบบของเราค่ะ
พร้อมกับตั้งคำถามไปในตัวด้วยเลย555
ปล.ยาวหน่อยนะคะ แฮะๆ
เอาเรื่องความรักก่อนนะคะ
เรื่องของชีวิตคู่
เรารู้สึกว่า มันเป็นวัฏจักรที่ "น่าเบื่อ" วังวนที่ไม่รู้จบสิ้น
ที่รักกัน ดูแลกัน แต่ทะเลาะกัน เบื่อกัน งอนกัน บ้างก็จบลงที่ยังอยู่ด้วยกัน บ้างก็เลิกรากัน
ซึ่งประเด็นเรามองอยู่ที่ เวลาที่เราทะเลาะกัน ทำไมต่างฝ่ายต่างจะต้องพยายามเป็นไฟ
ต่อให้จะเจอคนดีแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ก็จะต้องพ่นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจกัน
ซึ่งเป็นอะไรที่เรามองว่ามันน่าเบื่อ
(ตัวเราเองเป็นคนที่ไม่ชอบการทะเลาะ ถ้าเริ่มมีการไม่พอใจ เราจะคุยด้วยเหตุผลตลอด
แต่ก็มักจะเจอกับคนที่ชอบประชด ใส่อารมณ์ทุกที แถมโดนว่า ว่าถามหาแต่เหตุผลไปอีก)
เราแค่ไม่เข้าใจว่า เราจะคุยกันดีๆไม่ได้หรอ ทำไมพอไม่พอใจจะต้อง วี้ดว้าด โวยวาย
มันทำให้เราไม่คิดที่อยากจะมีครอบครัว แต่ถามว่ามีแฟนมั้ย ?
มีค่ะ แต่ก็เจอปัญหาคือ น้ำคำที่ไม่รักษาน้ำใจกัน การนอกกายนอกใจ ทำเหมือนเราเป็นที่ระบายต่างๆ
ยิ่งทำให้ไปสนับสนุนความคิดเราไปใหญ่เลยค่ะ ว่าอยู่คนเดียวดีกว่า
ต่อมาคือความรักในแบบของพ่อแม่(ประเด็นนี้คาดว่าน่าจะเชื้อเพลิงต้นเหตุที่ทำให้เรามีมุมมองแบบนี้)
เราไม่ค่อยเข้าใจวิธีการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของครอบครัวเราเท่าไหร่
คือลูกต้องอยู่ในโอวาทพ่อแม่(อันนี้เข้าใจได้อยู่) แต่การลงไม้ลงมือตีลูก อันนี้เราตั้งคำถามมาก
เพราะเราเจอกับตัวเราเองมาตลอดตั้งแต่จำความได้
เราจะโดนแม่ตีตลอด ครั้งแรกที่โดนตีคือตอนนั้นน่าจะ 3-4 ขวบ เราทำการบ้าน แล้วยางลบมันลบไม่ออก (ยางลบตูดดินสอ)
เราเคยเห็นเพื่อนอมตูดยางลบ แล้วลบ ด้วยความเป็นเด็กอ่ะ ก็เลยลองทำตาม(บางคนอาจจะเคยทำ55)
แม่เราเห็น แม่เราเดินมาตบหน้าเราเลย บอกว่าใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้ เราร้องจ้ากเลยจ้า ไม่กล้าทำอีกเลย
หลังจากนั้นก็โดนมาตลอด ทั้งโดนตบเลือดกบปาก โดนถีบกลางหลังจากการที่เราตอบว่า เดี๋ยวไปพับผ้า
หนักสุดคือโดนสาปแช่งว่า ไม่มีวันเจริญหรอก หรือด่าว่าให้ไปขายX จากการที่เรานิ่งเฉยไม่ตอบโต้เขา
(มารู้ทีหลังว่า ยิ่งนิ่งยิ่งยั่วโมโห อันนี้แม่พูดจากปากเอง)
และครั้งสุดท้ายที่มีเรื่องคือ เรากวาดบ้านช้า แล้วเขาก็โมโห ด่าว่าทำเXยไรไม่เคยได้ดั่งใจ
เราก็นิ่ง เขาด่า เขาอะไร เราก็นิ่งอย่างเดียว แล้วเขาก็บอกว่าเรายั่วประสาทเขา เขาเลยทุ่มพัดลมใส่เรา
เราก็เดินหนีเข้าห้อง เขาก็ตามมา เราก็เฉย นั่งทำการบ้านต่อ เขาก็ยิ่งโมโหแล้วกวาดของบนโต๊ะทำงานเราลงหมด
แล้วก็คว้าไม้กวาดมาจะฟาด
ฟางเส้นสุดท้ายเราขาดพอดีค่ะ เราไม่ยอมแล้วก็จ้องหน้าเขา ถามว่าจะตีด้วยเรื่องอะไร
แล้วเราก็พูดใส่เขา ถามเขาทุกเรื่องที่ผ่านมา ว่าไม่เห็นเราเป็นลูกหรอ ทำไมถึงต้องตบตีแล้วด่าว่าให้ไปขายX
เราก็ลูกผู้หญิงเหมือนกันไม่ใช่หรอ ทำไมถึงพูด เขาก็นิ่งเงียบ ไม่ตอบ ตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่เคยตีเราอีกเลย
ทุกๆคืน เราจะเห็นแต่ภาพที่เขาตบตีเราตลอด ที่ผ่านมาเรานิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้เขา
ไม่แม้แต่จะพูดอะไรสักคำ เพราะพอปริปาก เขาก็จะบอกว่า ริอ่านเถียงหรอ ปีกกล้าขาแข็งบ้าง ไล่ออกจากบ้านบ้าง
แต่ก็เราพยายามบอกตัวเองว่า เขาทำเพราะเขารักและหวังดี
ที่เขาขว้างถ้วยข้าวต้มใส่หาว่าสำออยจากการที่เราปวดท้องกระเพาะ เพราะเขาห่วง
ที่เขาขังเราในห้องให้อ่านหนังสือ เพราะเขาอยากให้เราได้ดี
ที่เขาตีเราทุกครั้งที่เกรดแย่ เพราะอยากให้ได้ดี
แต่มันก็ทำให้เราเหมือนคนโรคจิต คือทุกครั้งที่เขาตีเราเสร็จ
เราจะร้องไห้หน้ากระจก มองหน้าตัวเองแล้วหัวเราะ(ไม่รู้ด้วยว่าหัวเราะอะไร)
หรือบางทีก็เอาไม้แขวนเสื้อตีขาตัวเอง หรือขว้างของให้แตกแล้วทำร้ายตัวเอง
เรารู้ว่ามันแย่ และน่ากลัว เราเลยบอกกับตัวเองว่าเราจะไม่ร้องไห้อีกต่อไป
เราจะไม่อ่อนแอ ซึ่งเราก็ทำได้จริงๆ และมันก็ทำให้เราอึดอัดในใจ
เรารู้สึกเหมือนตายจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่รู้สึกรัก หรือผูกพันธ์กับใครทั้งสิ้น
ซึ่งมันทำให้ไปโยงกับมุมมองด้านความตายของเราว่า
ยังไงทุกคนก็ต้องตาย เราไม่เข้าใจ คนที่เขาเสียใจฟูมฟายจากคนที่รักตายจาก เขาเสียใจอะไร
เราไม่รู้สึกว่า เราผูกพันธ์กับใคร รู้สึกแค่ว่า เหมือนทุกอย่างมันคือหน้าที่
หมดหน้าที่ทุกคนก็ลืม
เราจากลากัน แล้วยังไงล่ะ ก็เริ่มต้นเดินทางใหม่ เจอคนใหม่
แล้วก็จบ แล้วก็เจอ แล้วก็จบ แบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ
เราไม่รู้สึกว่าความตายมันน่ากลัวอะไร เรากลับยินดีต้อนรับมันด้วยซ้ำ
อยากให้มันจบไวๆ
เคยมีคนถามเราว่า ทำไมถึงมีความคิดแบบนี้ ทำไมไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
ความงาม ความหมายของชีวิต มันยังรอให้ค้นหา ให้ออกไปเจอ
แต่เราพยายามทบทวน คิด ปรับมุมมองแล้ว
เราก็ยังรู้สึกว่า แล้วยังไงล่ะ เรามีทำไม
เพื่อมีความสุข เพื่อมีคำบอกเล่าถึงลูกหลาน
เพื่อเจอคู่ครอง มีครอบครัว แล้วให้กำเนิดเด็ก
มาเจอวัฏจักรแบบนี้หรอ แล้วสุดท้ายก็ตาย
แถมเรื่องราวก่อนจะเดินทางถึงความตาย
ไม่รู้ว่าจะต้องเหนื่อยเท่าไหร่
เรารู้สึกว่า อยากให้มันจบอยู่แค่ที่เรา แค่นั้น
แต่เราก็ถูกบอกว่า เราไม่รักใครเลยนอกจากตัวเอง
เรากลับเถียงเขาในใจว่า เพราะเรารักมามากแล้วต่างหาก
เราก็ไม่รู้ว่าเราตั้งกระทู้ทำไมนะเอาจริงๆ
เราแค่รู้สึกเหมือน เราคุยกับใครไม่รู้เรื่อง
แค่เราทำหน้าเศร้า ก็บอกว่าเรามีปัญหาเยอะ
ทำไมไม่คิดให้ได้แบบนี้ๆๆ บอกให้เราลืมมันซะ
เหมือนเขียนผิดแล้วเอายางลบ ลบออก
คือมันไม่ได้ง่ายๆ พอเรากลับมาเศร้า ก็ถูกทำหน้าเบื่อหนาย
ถูกผลักไส ว่าเราหน้าเครียด ไม่อยากคุยกับเรา
เราก็ไม่รู้ว่าที่เรามีความคิดแบบนี้
หรือเป็นแบบนี้ มันผิดหรือเปล่า
เราไม่อยากมีครอบครัว หรือมีลูก มันผิดหรอ
(เพราะพอบอกที่บ้านแบบนี้ก็ทะเลาะกันใหญ่โต)
สรุปแล้วมันผิดที่มุมมองของเราหรือเปล่า
เราไม่เคยรักใครเลยนอกจากตัวเอง ?
พร้อมกับตั้งคำถามไปในตัวด้วยเลย555
ปล.ยาวหน่อยนะคะ แฮะๆ
เอาเรื่องความรักก่อนนะคะ
เรื่องของชีวิตคู่
เรารู้สึกว่า มันเป็นวัฏจักรที่ "น่าเบื่อ" วังวนที่ไม่รู้จบสิ้น
ที่รักกัน ดูแลกัน แต่ทะเลาะกัน เบื่อกัน งอนกัน บ้างก็จบลงที่ยังอยู่ด้วยกัน บ้างก็เลิกรากัน
ซึ่งประเด็นเรามองอยู่ที่ เวลาที่เราทะเลาะกัน ทำไมต่างฝ่ายต่างจะต้องพยายามเป็นไฟ
ต่อให้จะเจอคนดีแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ก็จะต้องพ่นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจกัน
ซึ่งเป็นอะไรที่เรามองว่ามันน่าเบื่อ
(ตัวเราเองเป็นคนที่ไม่ชอบการทะเลาะ ถ้าเริ่มมีการไม่พอใจ เราจะคุยด้วยเหตุผลตลอด
แต่ก็มักจะเจอกับคนที่ชอบประชด ใส่อารมณ์ทุกที แถมโดนว่า ว่าถามหาแต่เหตุผลไปอีก)
เราแค่ไม่เข้าใจว่า เราจะคุยกันดีๆไม่ได้หรอ ทำไมพอไม่พอใจจะต้อง วี้ดว้าด โวยวาย
มันทำให้เราไม่คิดที่อยากจะมีครอบครัว แต่ถามว่ามีแฟนมั้ย ?
มีค่ะ แต่ก็เจอปัญหาคือ น้ำคำที่ไม่รักษาน้ำใจกัน การนอกกายนอกใจ ทำเหมือนเราเป็นที่ระบายต่างๆ
ยิ่งทำให้ไปสนับสนุนความคิดเราไปใหญ่เลยค่ะ ว่าอยู่คนเดียวดีกว่า
ต่อมาคือความรักในแบบของพ่อแม่(ประเด็นนี้คาดว่าน่าจะเชื้อเพลิงต้นเหตุที่ทำให้เรามีมุมมองแบบนี้)
เราไม่ค่อยเข้าใจวิธีการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของครอบครัวเราเท่าไหร่
คือลูกต้องอยู่ในโอวาทพ่อแม่(อันนี้เข้าใจได้อยู่) แต่การลงไม้ลงมือตีลูก อันนี้เราตั้งคำถามมาก
เพราะเราเจอกับตัวเราเองมาตลอดตั้งแต่จำความได้
เราจะโดนแม่ตีตลอด ครั้งแรกที่โดนตีคือตอนนั้นน่าจะ 3-4 ขวบ เราทำการบ้าน แล้วยางลบมันลบไม่ออก (ยางลบตูดดินสอ)
เราเคยเห็นเพื่อนอมตูดยางลบ แล้วลบ ด้วยความเป็นเด็กอ่ะ ก็เลยลองทำตาม(บางคนอาจจะเคยทำ55)
แม่เราเห็น แม่เราเดินมาตบหน้าเราเลย บอกว่าใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้ เราร้องจ้ากเลยจ้า ไม่กล้าทำอีกเลย
หลังจากนั้นก็โดนมาตลอด ทั้งโดนตบเลือดกบปาก โดนถีบกลางหลังจากการที่เราตอบว่า เดี๋ยวไปพับผ้า
หนักสุดคือโดนสาปแช่งว่า ไม่มีวันเจริญหรอก หรือด่าว่าให้ไปขายX จากการที่เรานิ่งเฉยไม่ตอบโต้เขา
(มารู้ทีหลังว่า ยิ่งนิ่งยิ่งยั่วโมโห อันนี้แม่พูดจากปากเอง)
และครั้งสุดท้ายที่มีเรื่องคือ เรากวาดบ้านช้า แล้วเขาก็โมโห ด่าว่าทำเXยไรไม่เคยได้ดั่งใจ
เราก็นิ่ง เขาด่า เขาอะไร เราก็นิ่งอย่างเดียว แล้วเขาก็บอกว่าเรายั่วประสาทเขา เขาเลยทุ่มพัดลมใส่เรา
เราก็เดินหนีเข้าห้อง เขาก็ตามมา เราก็เฉย นั่งทำการบ้านต่อ เขาก็ยิ่งโมโหแล้วกวาดของบนโต๊ะทำงานเราลงหมด
แล้วก็คว้าไม้กวาดมาจะฟาด
ฟางเส้นสุดท้ายเราขาดพอดีค่ะ เราไม่ยอมแล้วก็จ้องหน้าเขา ถามว่าจะตีด้วยเรื่องอะไร
แล้วเราก็พูดใส่เขา ถามเขาทุกเรื่องที่ผ่านมา ว่าไม่เห็นเราเป็นลูกหรอ ทำไมถึงต้องตบตีแล้วด่าว่าให้ไปขายX
เราก็ลูกผู้หญิงเหมือนกันไม่ใช่หรอ ทำไมถึงพูด เขาก็นิ่งเงียบ ไม่ตอบ ตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่เคยตีเราอีกเลย
ทุกๆคืน เราจะเห็นแต่ภาพที่เขาตบตีเราตลอด ที่ผ่านมาเรานิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้เขา
ไม่แม้แต่จะพูดอะไรสักคำ เพราะพอปริปาก เขาก็จะบอกว่า ริอ่านเถียงหรอ ปีกกล้าขาแข็งบ้าง ไล่ออกจากบ้านบ้าง
แต่ก็เราพยายามบอกตัวเองว่า เขาทำเพราะเขารักและหวังดี
ที่เขาขว้างถ้วยข้าวต้มใส่หาว่าสำออยจากการที่เราปวดท้องกระเพาะ เพราะเขาห่วง
ที่เขาขังเราในห้องให้อ่านหนังสือ เพราะเขาอยากให้เราได้ดี
ที่เขาตีเราทุกครั้งที่เกรดแย่ เพราะอยากให้ได้ดี
แต่มันก็ทำให้เราเหมือนคนโรคจิต คือทุกครั้งที่เขาตีเราเสร็จ
เราจะร้องไห้หน้ากระจก มองหน้าตัวเองแล้วหัวเราะ(ไม่รู้ด้วยว่าหัวเราะอะไร)
หรือบางทีก็เอาไม้แขวนเสื้อตีขาตัวเอง หรือขว้างของให้แตกแล้วทำร้ายตัวเอง
เรารู้ว่ามันแย่ และน่ากลัว เราเลยบอกกับตัวเองว่าเราจะไม่ร้องไห้อีกต่อไป
เราจะไม่อ่อนแอ ซึ่งเราก็ทำได้จริงๆ และมันก็ทำให้เราอึดอัดในใจ
เรารู้สึกเหมือนตายจากโลกนี้ไปแล้ว ไม่รู้สึกรัก หรือผูกพันธ์กับใครทั้งสิ้น
ซึ่งมันทำให้ไปโยงกับมุมมองด้านความตายของเราว่า
ยังไงทุกคนก็ต้องตาย เราไม่เข้าใจ คนที่เขาเสียใจฟูมฟายจากคนที่รักตายจาก เขาเสียใจอะไร
เราไม่รู้สึกว่า เราผูกพันธ์กับใคร รู้สึกแค่ว่า เหมือนทุกอย่างมันคือหน้าที่
หมดหน้าที่ทุกคนก็ลืม
เราจากลากัน แล้วยังไงล่ะ ก็เริ่มต้นเดินทางใหม่ เจอคนใหม่
แล้วก็จบ แล้วก็เจอ แล้วก็จบ แบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ
เราไม่รู้สึกว่าความตายมันน่ากลัวอะไร เรากลับยินดีต้อนรับมันด้วยซ้ำ
อยากให้มันจบไวๆ
เคยมีคนถามเราว่า ทำไมถึงมีความคิดแบบนี้ ทำไมไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
ความงาม ความหมายของชีวิต มันยังรอให้ค้นหา ให้ออกไปเจอ
แต่เราพยายามทบทวน คิด ปรับมุมมองแล้ว
เราก็ยังรู้สึกว่า แล้วยังไงล่ะ เรามีทำไม
เพื่อมีความสุข เพื่อมีคำบอกเล่าถึงลูกหลาน
เพื่อเจอคู่ครอง มีครอบครัว แล้วให้กำเนิดเด็ก
มาเจอวัฏจักรแบบนี้หรอ แล้วสุดท้ายก็ตาย
แถมเรื่องราวก่อนจะเดินทางถึงความตาย
ไม่รู้ว่าจะต้องเหนื่อยเท่าไหร่
เรารู้สึกว่า อยากให้มันจบอยู่แค่ที่เรา แค่นั้น
แต่เราก็ถูกบอกว่า เราไม่รักใครเลยนอกจากตัวเอง
เรากลับเถียงเขาในใจว่า เพราะเรารักมามากแล้วต่างหาก
เราก็ไม่รู้ว่าเราตั้งกระทู้ทำไมนะเอาจริงๆ
เราแค่รู้สึกเหมือน เราคุยกับใครไม่รู้เรื่อง
แค่เราทำหน้าเศร้า ก็บอกว่าเรามีปัญหาเยอะ
ทำไมไม่คิดให้ได้แบบนี้ๆๆ บอกให้เราลืมมันซะ
เหมือนเขียนผิดแล้วเอายางลบ ลบออก
คือมันไม่ได้ง่ายๆ พอเรากลับมาเศร้า ก็ถูกทำหน้าเบื่อหนาย
ถูกผลักไส ว่าเราหน้าเครียด ไม่อยากคุยกับเรา
เราก็ไม่รู้ว่าที่เรามีความคิดแบบนี้
หรือเป็นแบบนี้ มันผิดหรือเปล่า
เราไม่อยากมีครอบครัว หรือมีลูก มันผิดหรอ
(เพราะพอบอกที่บ้านแบบนี้ก็ทะเลาะกันใหญ่โต)
สรุปแล้วมันผิดที่มุมมองของเราหรือเปล่า