ที่จริงแล้ว เหตุผลสำหรับคนที่เลือกใช้ iphone ที่ไม่ใช่ค่ายเรือธงอื่น ที่ราคาสูงๆ นอกจากเรื่องของเหมือนสินค้า fashion แล้ว เหตุผลหลักๆเลยที่กลุ่มผู้ใช้ iphone เลือก เพราะเรื่องความสเถียรของระบบ iOS หรือ Software นั่นแหละที่ความสามารถมันเพิ่มขึ้นตลอด มีการแก้บัต และเรื่องความปลอดภัย ต่อเนื่อง มีโปรแกรมอำนวยความสะดวกต่างๆให้ใช้ที่ง่าย เร็ว สวย ทันสมัย และสเถียร
นี่แหละครับจึงเป็นที่มาของราคาเครื่อง เพราะถ้าเครื่องมือถือเปล่าๆ มันก็ทำอะไรไม่ได้เลย แต่เพราะพลังของ software ที่ทำให้มือถือ iphone ทรงอนุภาพขึ้นมา ดังนั้นตัวมือถือเอง จริงๆราคาขายอาจจะเพียง 7,000-10,000 บาท ก็เป็นได้ ที่เหลือคือค่า Software ซึ่งเขาก็คงคิดไว้แล้วว่าโดยเฉลี่ยคุณใช้กันกี่ปี สมมุติ 3 ปี เท่ากับว่า สมมุติราคาเครื่องอยู่ที่กลางๆคือ 26,000 บาท ส่วนต่างคือ 16,000-19,000 บาท สมมุติใช้ 3 ปี ก็เท่ากับว่าคุณเสียเงินค่าใช้ Software iOS อยู่ที่ ปีละ 5,333 - 6,333 บาท เห็นไหมครับว่าจริงๆ Software iOS นั้นไม่ได้ฟรี
แต่ถ้าเขาขายแบบ Model สมัยก่อน คือซื้อเครื่อง NOtebook และ แยกขาย Microsoft ผลคือ คุณก็ไป crack กัน (แม้สมัยนี้จะเริ่มลำบากละ เพราะโดนวางยาเยอะ) นั่นคือขายเลยอะ iphone 7000-10000 บาท จากนั้นคุณต้องซื้อ software iOS เรานะ โดยจ่ายรายเดือน รายปี ปีละ 5พันกว่าบาทเอง ผลคือ คนมักจะมองว่า Software มันจับต้องไม่ได้ ผิดกับ Hardware ที่สัมผัสมันได้ เลยไม่ให้ราคากับมัน ทั้งๆที่ตัวที่ทำให้มือถือมันมีศักยภาพได้คือ Software เลยเป็นหลัก รองมาถึง Hardware ดังนั้นทุนที่แพงคือทุนพัฒนา Software iOS ทุกๆเดือน ทุกๆปียังไงเล่า
ดังนั้นเขาเลยตั้งราคา iphone ที่รวม Software ไปด้วยเลยแล้วกัน เครื่อง Macbook ที่ราคาสูงๆนั่นก็เช่นกัน ใช้หลักการนี้
สุดท้ายคือ ตอนนี้ผู้บริโภคจะต้องลบความคิดเดิมๆว่า Software มันฟรี นึกถึง pantip สมัยก่อน เพราะผู้พัฒนาเราก็กันเรียบร้อย ยิ่งการซื้อ Software ขาด ยิ่งไม่ดี เพราะว่านั่นแปลว่าเราจะไม่ได้ Version ที่เขาปรับปรุง ไม่ว่าจะเรื่องความปลอดภัยที่มันต้องปรับปรุงเรื่อยๆ และต่อให้ไม่เพิ่ม function เลย ตัว function เดิมมันจะต้องมีการปรับให้ประสิทธิภาพมันดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น Software เป็นเหมือนพลังที่เพิ่มประสิทธิภาพมากมาย
อย่าง Microsoft Office เนี่ย จ่ายเถอะครับ ปีแค่ 3 ร้อยกว่า ถ้าแชร์กัน 5 คน มันดี เสถียร และมีเวอชั่นอัพเดทปรับปรุงเรื่อยๆ ดีกว่าใช้เวอร์ชั่นที่ crack กันอยู่เยอะ
หลายคนสงสัยกันว่าทำไม Iphone ราคาถึงสูง ทั้งที่ต้นทุนจริงๆที่เรารู้ๆกันก็แค่ 5,000 ถึง 10,000 กระทู้นี้มีคำตอบ
นี่แหละครับจึงเป็นที่มาของราคาเครื่อง เพราะถ้าเครื่องมือถือเปล่าๆ มันก็ทำอะไรไม่ได้เลย แต่เพราะพลังของ software ที่ทำให้มือถือ iphone ทรงอนุภาพขึ้นมา ดังนั้นตัวมือถือเอง จริงๆราคาขายอาจจะเพียง 7,000-10,000 บาท ก็เป็นได้ ที่เหลือคือค่า Software ซึ่งเขาก็คงคิดไว้แล้วว่าโดยเฉลี่ยคุณใช้กันกี่ปี สมมุติ 3 ปี เท่ากับว่า สมมุติราคาเครื่องอยู่ที่กลางๆคือ 26,000 บาท ส่วนต่างคือ 16,000-19,000 บาท สมมุติใช้ 3 ปี ก็เท่ากับว่าคุณเสียเงินค่าใช้ Software iOS อยู่ที่ ปีละ 5,333 - 6,333 บาท เห็นไหมครับว่าจริงๆ Software iOS นั้นไม่ได้ฟรี
แต่ถ้าเขาขายแบบ Model สมัยก่อน คือซื้อเครื่อง NOtebook และ แยกขาย Microsoft ผลคือ คุณก็ไป crack กัน (แม้สมัยนี้จะเริ่มลำบากละ เพราะโดนวางยาเยอะ) นั่นคือขายเลยอะ iphone 7000-10000 บาท จากนั้นคุณต้องซื้อ software iOS เรานะ โดยจ่ายรายเดือน รายปี ปีละ 5พันกว่าบาทเอง ผลคือ คนมักจะมองว่า Software มันจับต้องไม่ได้ ผิดกับ Hardware ที่สัมผัสมันได้ เลยไม่ให้ราคากับมัน ทั้งๆที่ตัวที่ทำให้มือถือมันมีศักยภาพได้คือ Software เลยเป็นหลัก รองมาถึง Hardware ดังนั้นทุนที่แพงคือทุนพัฒนา Software iOS ทุกๆเดือน ทุกๆปียังไงเล่า
ดังนั้นเขาเลยตั้งราคา iphone ที่รวม Software ไปด้วยเลยแล้วกัน เครื่อง Macbook ที่ราคาสูงๆนั่นก็เช่นกัน ใช้หลักการนี้
สุดท้ายคือ ตอนนี้ผู้บริโภคจะต้องลบความคิดเดิมๆว่า Software มันฟรี นึกถึง pantip สมัยก่อน เพราะผู้พัฒนาเราก็กันเรียบร้อย ยิ่งการซื้อ Software ขาด ยิ่งไม่ดี เพราะว่านั่นแปลว่าเราจะไม่ได้ Version ที่เขาปรับปรุง ไม่ว่าจะเรื่องความปลอดภัยที่มันต้องปรับปรุงเรื่อยๆ และต่อให้ไม่เพิ่ม function เลย ตัว function เดิมมันจะต้องมีการปรับให้ประสิทธิภาพมันดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น Software เป็นเหมือนพลังที่เพิ่มประสิทธิภาพมากมาย
อย่าง Microsoft Office เนี่ย จ่ายเถอะครับ ปีแค่ 3 ร้อยกว่า ถ้าแชร์กัน 5 คน มันดี เสถียร และมีเวอชั่นอัพเดทปรับปรุงเรื่อยๆ ดีกว่าใช้เวอร์ชั่นที่ crack กันอยู่เยอะ