ทำไมถึงเปลี่ยน?
เดิมใช้บัตรเครดิตของ First Choice เป็นหลัก เพราะมีคนเแนะนำว่าดี และน่าจะเป็นบัตรเครดิตใบแรกของหลายๆ คน โปรโมชั่นก็ใช้ได้ คอลเซ็นเตอร์ก็โทรติดง่าย ร้านค้าที่ร่วมผ่อนก็เยอะ
แต่สาเหตุที่มีความคิดจะเปลี่ยนคือ ตัวบัตรไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สักเท่าไร โดยส่วนตัวไม่ชอบสะสมแต้ม เพราะมองว่ามันเห็นผลช้า ไม่เหมือน Cashback ที่ได้แน่นอน และไม่ค่อยได้ผ่อนของเท่าไร ส่วนมากชอบจ่ายเต็มมากกว่า เพราะไม่อยากเป็นหนี้ 😂
เลยเริ่มที่จะมองหาบัตรเครดิตตัวใหม่ที่จะมาแทน
Recommend
*ข้อแรก การเลือกบัตรเครดิตให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง เพื่อใช้ประโยชน์จากมันให้เยอะที่สุด
*ข้อสอง การใช้บัตรเครดิตคือการใช้เงินล่วงหน้า เพราะฉะนั้นเราต้องมั่นใจว่า เราจะสามารถหาเงินมาชำระได้ ถ้าเดือนไหนที่เราไม่สามารถชำระขั้นต่ำได้ นั่นแสดงว่าเรามีปัญหาเรื่องวินัยในการใช้เงินแล้ว ให้กลับมาคิดทบทวนให้ดีว่า บัตรเครดิตมันจำเป็นจริงๆ กับเราหรือเปล่า?
TMRW คืออะไร?
TMRW คือโครงการย่อยของธนาคาร UOB เพราะฉะนั้นวางใจได้ในระดับหนึ่งเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ โดยวางโปรดักส์เป็นธนาคารที่ไม่มีสาขา จัดการทุกอย่างได้บนออนไลน์ (เหมือน ME by TMB, Kept by Krungsri) คือตั้งแต่เปิดบัญชี ยืนยันตัวตน จัดการบัญชี ทุกอย่างทำบนแอพพลิเคชันหมด ไม่มีขั้นตอนไหนเลยที่ต้องไปธนาคาร
ผลิตภัณฑ์มี 3 อย่างคือ บัญชีเงินฝาก, บัตรเดบิต และบัตรเครดิต
ข้อดี
บัญชีเงินฝาก
• มีฟีเจอร์พื้นฐานครบ โอน จ่ายบิล
• ทุกครั้งที่มีการทำรายการ ไม่ว่าจะเป็นรับเงินหรือชำระเงิน จะมี SMS เตือนทุกครั้ง
• มีบัญชีย่อย 2 แบบคือ บัญชีสำหรับใช้ (Everyday Account) เหมาะสำหรับใช้จ่ายทั่วไป และบัญชีสำหรับออม (Saving Account) ซึ่งได้ดอกเบี้ย 1.3% สามารถโอนเงินสลับ 2 บัญชีนี้ได้ตลอด
• ตัวแอพพลิเคชันสวยดี มีระบบแยกว่าในเดือนนี้เราใช้จ่ายไปเท่าไร ใช้จ่ายประเภทใดเยอะสุด เปรียบเทียบรายจ่ายกับเดือนก่อนหน้าได้ แสดงผลเป็นลักษณะ Newsfeed เหมือนโซเชียลมีเดีย
บัตรเดบิต
• ถอนเงินได้ทุกตู้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
บัตรเครดิต
• ได้ Cashback คืน 1% ในทุกการใช้จ่าย
• ได้ Cashback คืน 3% ในหมวดที่เลือก 3 หมวด ซึ่งสามารถเปลี่ยนหมวดได้ทุกเดือน
• ได้ Cashback คืน 15% ใน 15 ร้านค้าที่ร่วมรายการ เช่น Lazada, Shopee, TrueMoney Wallet
• สามารถใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ร่วมกับบัตรเครดิตของ UOB และ Mastercard ได้
ข้อเสีย
บัญชีเงินฝาก
• บัญชี Saving Account ให้ดอกเบี้ย 1.3% แค่ 1 ล้านบาทแรก จากนั้นให้ 0.25%
Recommend
• ข้อสาม บัญชี Kept by Krungsri ให้ดอกเบี้ยที่มากกว่าคือ 1.8% ต่อปี
• ข้อสี่ เงินที่เหมาะสำหรับบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงแบบนี้คือ เงินสำรองฉุกเฉิน ที่ต้องการความคล่องตัวสูง สามารถนำมาใช้ได้ในทันที ซึ่งทุกคนควรมีเงินกองนี้ไว้ ในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยทั่วไปควรจะมีอย่างน้อย 6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน (ยกตัวอย่าง ผมมีค่าใช้จ่ายเฉลียต่อเดือน 12,500 บาทก็ควรจะมีเงินกองนี้ 75,000 บาท)
บัตรเดบิต
• บังคับสมัครพร้อมบัญชีเงินฝาก แต่งดเว้นค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก และสามารถยกเลิกได้
Recommend
• ข้อห้า ในยุคสมัยสังคมไร้เงินสด ที่คนโอนเงินได้ผ่านพร้อมเพย์ ยิ่งธนาคารไหนที่มีระบบถอนเงินไม่ใช้บัตร บอกเลยว่าบัตรเดบิตแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
• ข้อหก แนะนำสำหรับใครที่มีนิสัยใช้จ่ายแบบผมคือ ใช้จ่ายผ่านการโอนเงินเป็นหลัก ก็ควรมีเงินติดตัวในกระเป๋าเงินบ้างนะครับ (เพราะไม่ใช่ทุกร้านที่จะรับชำระแบบนี้) แล้วไปยกเลิกบัตรเดบิตได้แล้วครับ เพราะนอกจากจะไม่ได้ใช้แล้ว คุณยังต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีที่ไม่จำเป็นเลย
• ข้อเจ็ด หลายคนคงสงสัย ไปยกเลิกบัตรแล้วจะกดเงินยังไง คำตอบคือ ใช้ระบบถอนเงินไม่ใช้บัตร ครับ ซึ่งตอนนี้ก็มีเกือบทุกธนาคารแล้ว แต่หากผมแนะนำให้เป็น KBANK, KTB หรือ SCB ซึ่งให้ดูจากจำนวนตู้ ATM หรือหากธนาคารไหนอยู่ใกล้บ้านหรือสถานที่ทำงาน ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ควรพิจารณาครับ
บัตรเครดิต
• การเปลี่ยนหมวด Cashback 3% ต้องจ่ายบิล 2 ครั้ง/เดือน และโอนเงิน 2 ครั้ง/เดือน
• การได้รับ Cashback 15% จากร้านค้าที่ร่วมรายการต้องมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า 6,000 บาท/เดือน และได้คืนไม่เกิน 500 บาท/เดือน
วิธีสมัคร
• ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน มีทั้ง iOS และ Android
• ลงทะเบียนกรอกข้อมูล
• ยืนยันตัวตนที่ตู้ Kiosk ซึ่งมีตาม BTS หรือ MRT ยังไม่มีในต่างจังหวัดนะครับ เนื่องจากเป็นโครงการ Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำกัดพื้นที่การใช้งานในช่วงแรก และน่าจะมีการขยายพื้นที่การใช้งานในอนาคตครับ
• เริ่มใช้งานได้ครับ
โดยรวมถือว่าดีครับ ตอนนี้ใช้เป็นบัตรหลักแล้ว อาจจะต้องพิจารณาโปรโมชั่นเป็นปีต่อปี ถ้ายังดีอยู่ก็จะใช้ต่อไป
[CR] รีวิวบัตรเครดิต TMRW หลังจากใช้มาประมาณ 2 เดือน
เดิมใช้บัตรเครดิตของ First Choice เป็นหลัก เพราะมีคนเแนะนำว่าดี และน่าจะเป็นบัตรเครดิตใบแรกของหลายๆ คน โปรโมชั่นก็ใช้ได้ คอลเซ็นเตอร์ก็โทรติดง่าย ร้านค้าที่ร่วมผ่อนก็เยอะ
แต่สาเหตุที่มีความคิดจะเปลี่ยนคือ ตัวบัตรไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สักเท่าไร โดยส่วนตัวไม่ชอบสะสมแต้ม เพราะมองว่ามันเห็นผลช้า ไม่เหมือน Cashback ที่ได้แน่นอน และไม่ค่อยได้ผ่อนของเท่าไร ส่วนมากชอบจ่ายเต็มมากกว่า เพราะไม่อยากเป็นหนี้ 😂
เลยเริ่มที่จะมองหาบัตรเครดิตตัวใหม่ที่จะมาแทน
Recommend
*ข้อแรก การเลือกบัตรเครดิตให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเอง เพื่อใช้ประโยชน์จากมันให้เยอะที่สุด
*ข้อสอง การใช้บัตรเครดิตคือการใช้เงินล่วงหน้า เพราะฉะนั้นเราต้องมั่นใจว่า เราจะสามารถหาเงินมาชำระได้ ถ้าเดือนไหนที่เราไม่สามารถชำระขั้นต่ำได้ นั่นแสดงว่าเรามีปัญหาเรื่องวินัยในการใช้เงินแล้ว ให้กลับมาคิดทบทวนให้ดีว่า บัตรเครดิตมันจำเป็นจริงๆ กับเราหรือเปล่า?
TMRW คืออะไร?
TMRW คือโครงการย่อยของธนาคาร UOB เพราะฉะนั้นวางใจได้ในระดับหนึ่งเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ โดยวางโปรดักส์เป็นธนาคารที่ไม่มีสาขา จัดการทุกอย่างได้บนออนไลน์ (เหมือน ME by TMB, Kept by Krungsri) คือตั้งแต่เปิดบัญชี ยืนยันตัวตน จัดการบัญชี ทุกอย่างทำบนแอพพลิเคชันหมด ไม่มีขั้นตอนไหนเลยที่ต้องไปธนาคาร
ผลิตภัณฑ์มี 3 อย่างคือ บัญชีเงินฝาก, บัตรเดบิต และบัตรเครดิต
ข้อดี
บัญชีเงินฝาก
• มีฟีเจอร์พื้นฐานครบ โอน จ่ายบิล
• ทุกครั้งที่มีการทำรายการ ไม่ว่าจะเป็นรับเงินหรือชำระเงิน จะมี SMS เตือนทุกครั้ง
• มีบัญชีย่อย 2 แบบคือ บัญชีสำหรับใช้ (Everyday Account) เหมาะสำหรับใช้จ่ายทั่วไป และบัญชีสำหรับออม (Saving Account) ซึ่งได้ดอกเบี้ย 1.3% สามารถโอนเงินสลับ 2 บัญชีนี้ได้ตลอด
• ตัวแอพพลิเคชันสวยดี มีระบบแยกว่าในเดือนนี้เราใช้จ่ายไปเท่าไร ใช้จ่ายประเภทใดเยอะสุด เปรียบเทียบรายจ่ายกับเดือนก่อนหน้าได้ แสดงผลเป็นลักษณะ Newsfeed เหมือนโซเชียลมีเดีย
บัตรเดบิต
• ถอนเงินได้ทุกตู้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
บัตรเครดิต
• ได้ Cashback คืน 1% ในทุกการใช้จ่าย
• ได้ Cashback คืน 3% ในหมวดที่เลือก 3 หมวด ซึ่งสามารถเปลี่ยนหมวดได้ทุกเดือน
• ได้ Cashback คืน 15% ใน 15 ร้านค้าที่ร่วมรายการ เช่น Lazada, Shopee, TrueMoney Wallet
• สามารถใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ร่วมกับบัตรเครดิตของ UOB และ Mastercard ได้
ข้อเสีย
บัญชีเงินฝาก
• บัญชี Saving Account ให้ดอกเบี้ย 1.3% แค่ 1 ล้านบาทแรก จากนั้นให้ 0.25%
Recommend
• ข้อสาม บัญชี Kept by Krungsri ให้ดอกเบี้ยที่มากกว่าคือ 1.8% ต่อปี
• ข้อสี่ เงินที่เหมาะสำหรับบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงแบบนี้คือ เงินสำรองฉุกเฉิน ที่ต้องการความคล่องตัวสูง สามารถนำมาใช้ได้ในทันที ซึ่งทุกคนควรมีเงินกองนี้ไว้ ในกรณีฉุกเฉิน เช่น ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยทั่วไปควรจะมีอย่างน้อย 6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน (ยกตัวอย่าง ผมมีค่าใช้จ่ายเฉลียต่อเดือน 12,500 บาทก็ควรจะมีเงินกองนี้ 75,000 บาท)
บัตรเดบิต
• บังคับสมัครพร้อมบัญชีเงินฝาก แต่งดเว้นค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก และสามารถยกเลิกได้
Recommend
• ข้อห้า ในยุคสมัยสังคมไร้เงินสด ที่คนโอนเงินได้ผ่านพร้อมเพย์ ยิ่งธนาคารไหนที่มีระบบถอนเงินไม่ใช้บัตร บอกเลยว่าบัตรเดบิตแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
• ข้อหก แนะนำสำหรับใครที่มีนิสัยใช้จ่ายแบบผมคือ ใช้จ่ายผ่านการโอนเงินเป็นหลัก ก็ควรมีเงินติดตัวในกระเป๋าเงินบ้างนะครับ (เพราะไม่ใช่ทุกร้านที่จะรับชำระแบบนี้) แล้วไปยกเลิกบัตรเดบิตได้แล้วครับ เพราะนอกจากจะไม่ได้ใช้แล้ว คุณยังต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีที่ไม่จำเป็นเลย
• ข้อเจ็ด หลายคนคงสงสัย ไปยกเลิกบัตรแล้วจะกดเงินยังไง คำตอบคือ ใช้ระบบถอนเงินไม่ใช้บัตร ครับ ซึ่งตอนนี้ก็มีเกือบทุกธนาคารแล้ว แต่หากผมแนะนำให้เป็น KBANK, KTB หรือ SCB ซึ่งให้ดูจากจำนวนตู้ ATM หรือหากธนาคารไหนอยู่ใกล้บ้านหรือสถานที่ทำงาน ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ควรพิจารณาครับ
บัตรเครดิต
• การเปลี่ยนหมวด Cashback 3% ต้องจ่ายบิล 2 ครั้ง/เดือน และโอนเงิน 2 ครั้ง/เดือน
• การได้รับ Cashback 15% จากร้านค้าที่ร่วมรายการต้องมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรมากกว่า 6,000 บาท/เดือน และได้คืนไม่เกิน 500 บาท/เดือน
วิธีสมัคร
• ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน มีทั้ง iOS และ Android
• ลงทะเบียนกรอกข้อมูล
• ยืนยันตัวตนที่ตู้ Kiosk ซึ่งมีตาม BTS หรือ MRT ยังไม่มีในต่างจังหวัดนะครับ เนื่องจากเป็นโครงการ Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำกัดพื้นที่การใช้งานในช่วงแรก และน่าจะมีการขยายพื้นที่การใช้งานในอนาคตครับ
• เริ่มใช้งานได้ครับ
โดยรวมถือว่าดีครับ ตอนนี้ใช้เป็นบัตรหลักแล้ว อาจจะต้องพิจารณาโปรโมชั่นเป็นปีต่อปี ถ้ายังดีอยู่ก็จะใช้ต่อไป
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้