ผู้ว่าการและคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ลงพื้นที่ดูแลผู้บาดเจ็บ จากเหตุขบวนรถสินค้าคอนเทนเนอร์ชนกับรถบัสโดยสารที่สถานีคลองบางพระ
.........................
วันนี้ (11 ตุลาคม 2563) เวลา 08.05 น. เกิดเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 852 ดีเซลเลขที่ 5102 มีต้นทางสถานีแหลมฉบัง และสถานีปลายทางลาดกระบัง(ไอซีดี.) ขณะที่ขบวนผ่านสถานีคลองบางพระ ถึง สทล.51/1 บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น เป็นทางผ่านที่ยังไม่ได้รับอนุญาต (ซึ่งการรถไฟฯ ได้ติดตั้งป้าย และสัญญาณไฟเตือนเพื่อช่วยในด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่) ได้มีรถบัสโดยสารขับผ่านจุดตัดบริเวณดังกล่าว แม้ว่าพนักงานขับรถไฟได้ปฏิบัติตามข้อบังคับโดยการเปิดหวูดเตือนก่อนจะถึงจุดตัดเสมอระดับทาง แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดทำให้ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน จนทำให้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ
44 ราย (กลับบ้านแล้ว 31 ราย) โดยรักษาตัวที่ รพ.พุทธโสธร 22 ราย (ออกจาก รพ.พุทธโสธรแล้ว 9 ราย) รพ.เกษมราษฎร์ 7 ราย รพ.คลองเขื่อน 6 ราย และ รพ.บ้านโพ 9 ราย (ออกจาก รพ.แล้วทั้งหมด)
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือ และดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังได้สั่งการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุโดยมีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ เป็นหัวหน้าศูนย์ในการประสานงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ และทำหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก จังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทประกันภัย และโรงพยาบาลต่าง ๆ
ทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ทุกฝ่ายให้ดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะรายงานความคืบหน้าต่อไป
.........................
เส้นทางนี้ ส่วนมากเป็น รถขนสินค้าจาก แหลมฉบัง เข้าออก
และอนาคต เส้นนี้ มีการลงทุน คือรถไฟความเร็วสูง จะก่อสร้าง
ไป อู่ตาเภา
และ EEC
และ
คิดว่า ถ้า รฟ ครส ทำทางวิ่งบนดิน
ไม่ยกระดับ หนีรถ คนที่ขับขี่แบบไม่ระวังทางรถไฟ
เจอคนไทย ขับรถแบบไม่ทำตามกฏ
คนขับรถ
มาขับผ่า หรือไม่หยุดเมื่อมีไม้กั้น
จะเป็นอย่างไร
ความสูญเสีย ต่อชีวิต และ ทรัพย์สิน
ทางรถไฟสาย ตะวันออก วันหยุด รถไฟก็ไม่มาก แต่วันนี้เกิดเหตุรถไฟสินค้า ถูกรถบัสทอดกฐินวิ่งตัดหน้า เสียชีวิตกว่าสิบคน
.........................
วันนี้ (11 ตุลาคม 2563) เวลา 08.05 น. เกิดเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์ ที่ 852 ดีเซลเลขที่ 5102 มีต้นทางสถานีแหลมฉบัง และสถานีปลายทางลาดกระบัง(ไอซีดี.) ขณะที่ขบวนผ่านสถานีคลองบางพระ ถึง สทล.51/1 บริเวณป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น เป็นทางผ่านที่ยังไม่ได้รับอนุญาต (ซึ่งการรถไฟฯ ได้ติดตั้งป้าย และสัญญาณไฟเตือนเพื่อช่วยในด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่) ได้มีรถบัสโดยสารขับผ่านจุดตัดบริเวณดังกล่าว แม้ว่าพนักงานขับรถไฟได้ปฏิบัติตามข้อบังคับโดยการเปิดหวูดเตือนก่อนจะถึงจุดตัดเสมอระดับทาง แต่ด้วยระยะที่กระชั้นชิดทำให้ไม่สามารถหยุดขบวนรถได้ทัน จนทำให้เกิดเหตุเฉี่ยวชนรถบัสโดยสารหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และได้รับบาดเจ็บ
44 ราย (กลับบ้านแล้ว 31 ราย) โดยรักษาตัวที่ รพ.พุทธโสธร 22 ราย (ออกจาก รพ.พุทธโสธรแล้ว 9 ราย) รพ.เกษมราษฎร์ 7 ราย รพ.คลองเขื่อน 6 ราย และ รพ.บ้านโพ 9 ราย (ออกจาก รพ.แล้วทั้งหมด)
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องของการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้ความช่วยเหลือ และดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังได้สั่งการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุโดยมีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ เป็นหัวหน้าศูนย์ในการประสานงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ และทำหน้าที่ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการขนส่งทางบก จังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทประกันภัย และโรงพยาบาลต่าง ๆ
ทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ทุกฝ่ายให้ดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะรายงานความคืบหน้าต่อไป
.........................
เส้นทางนี้ ส่วนมากเป็น รถขนสินค้าจาก แหลมฉบัง เข้าออก
และอนาคต เส้นนี้ มีการลงทุน คือรถไฟความเร็วสูง จะก่อสร้าง
ไป อู่ตาเภา
และ EEC
และ
คิดว่า ถ้า รฟ ครส ทำทางวิ่งบนดิน
ไม่ยกระดับ หนีรถ คนที่ขับขี่แบบไม่ระวังทางรถไฟ
เจอคนไทย ขับรถแบบไม่ทำตามกฏ
คนขับรถ
มาขับผ่า หรือไม่หยุดเมื่อมีไม้กั้น
จะเป็นอย่างไร
ความสูญเสีย ต่อชีวิต และ ทรัพย์สิน