อีกไม่นานเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ของ Sony จะออกมาให้เราได้เล่นกันแล้วในปลายปี 2020 นี้ อีกเดือนนิดๆ เท่านั้น เชื่อว่าหลายคนอาจใช้โอกาสนี้ในการซื้อทีวีใหม่ ไปด้วยเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านที่มี TV 1080p ที่ใช้มาหลายปีแล้ว ซึ่ง ณ ปัจจุบันจะมีให้เลือกสองแบบก็คือ 60 HZ กับ 120 HZ ซึ่งราคาจะแตกต่างกันเท่าถึงสองเท่าเลยทีเดียว ทั้งๆ ที่ความละเอียดเป็น 4K เหมือนกัน และ รองรับ HDR เหมือนกัน วันนี้เลยอยากมาคุยว่าแบบไหนเป็นทางเลือกที่ดีกว่ากัน ถ้าเน้นการเล่นเกม PS5 เป็นหลัก
ถ้าเรามองในเชิงสเปค PS5 ถูกโฆษณาว่ารองรับความละเอียดสูงสุดที่ 8K และ 4K ที่ 120 FPS (โดยต้องผ่าน HDMI 2.1) HDR แต่ ณ ปัจจุบัน เกมที่เป็น Exclusives หรือเกมที่ทีลักษณะเป็น Next-Gen ที่มีกราฟิกเปิด Ray-Tracing ยังอยู่ที่ 30-60 FPS เท่านั้น ด้วยความละเอียด 4K ซึ่งใช้ทีวีที่ 4K HDR 60 HZ ก็เพียงพอ จะมีเพียงไม่กี่เกมเท่านั้นเช่น COD ภาคใหม่ และ Sony ได้ทำการประกาศว่า PS5 จะสามารถเล่นเกม PS4 ได้ทั้งแผ่นและดิจิตอล โดยจะได้ประโยชน์จาก Feature Game Boost ทำให้ความละเอียดสูงขึ้น เฟรมเรตดีขึ้น นิ่งขึ้น และในบางเกมกราฟิก อาจจะดีขึ้น แต่ก็ต้องพิจารณาเป็นเกมๆ ไป ซึ่งบางส่วนอาจจะทำให้เกมสามารถเล่นได้ที่ 120 FPS แต่ก็อาจจะมีจำนวนเกมไม่มากนัก
หรือถ้ามองในอีกแง่เราอาจจะมองว่าการซื้อ TV 120 HZ มาเล่นเกม PS5 ในตอนนี้ อาจจะเป็นการซื้ออนาคต 2-3 ปีกว่าที่ เกม PS5 จะสามารถเล่นที่ 120 FPS ได้เป็นมาตรฐาน หรือวันนั้นอาจจะมาไม่ถึง ต้องรอเครื่อง PS5 Pro ก็เป็นไปได้สูงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอาจไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ 4K HDR 60HZ อาจจะเพียงพอ และเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผล
แต่ในขณะเดียวกัน ผมคิดว่าทีวี Refresh Rate ต่างกัน 1 เท่าให้ประสบการณ์ที่ต่างกันแน่นอนทั้ง การดูหนังและการเล่นเกม ภาพจะมีความนิ่งกว่า และอาจทำให้รู้สึกได้ถึงความคมชัดลื่นไหลมากกว่า แน่นอนว่าถ้าซื้อมาก็จะมีความฟิน สนุกกว่า อินกว่า เพราะฉะนั้นคำถามจริงๆ คือ คุณยินดีจ่ายเงินที่แตกต่างกันหนึ่งถึงสองเท่าเพื่อลิ้มรส Refresh Rate ที่ต่างกันของ 60HZ กับ 120HZ มั้ย สำหรับหลายคนจะรู้สึกว่ารีเฟรชเรทต่างกัน สร้างความแตกต่างมากมาย แต่สำหรับหลายคนก็รู้สึกว่าแทบไม่แตกต่างกันเลย เพราะฉะนั้นผมอยากให้ลองไปดูที่ร้านเปรียบเทียบนานๆ ลองเปิด Gameplay ของ PS5 ที่มีความละเอียด 4K 60 FPS จาก Youtube ดู แล้วลองชั่งใจดูครับผมว่าคุ้มค่าน่าจ่ายมั้ย
ติดตามแมวนูน
ช่องแมวนูน
https://www.youtube.com/channel/UCr5L_gavyNJ2KXtVfZDe0Tg
ติดตามเพจ
https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/
Website :
https://www.maewnoon.com/
อยากซื้อทีวีสำหรับเล่นเกม PS5 เลือก 60 หรือ 120 HZ Refresh Rate ดี ?
ถ้าเรามองในเชิงสเปค PS5 ถูกโฆษณาว่ารองรับความละเอียดสูงสุดที่ 8K และ 4K ที่ 120 FPS (โดยต้องผ่าน HDMI 2.1) HDR แต่ ณ ปัจจุบัน เกมที่เป็น Exclusives หรือเกมที่ทีลักษณะเป็น Next-Gen ที่มีกราฟิกเปิด Ray-Tracing ยังอยู่ที่ 30-60 FPS เท่านั้น ด้วยความละเอียด 4K ซึ่งใช้ทีวีที่ 4K HDR 60 HZ ก็เพียงพอ จะมีเพียงไม่กี่เกมเท่านั้นเช่น COD ภาคใหม่ และ Sony ได้ทำการประกาศว่า PS5 จะสามารถเล่นเกม PS4 ได้ทั้งแผ่นและดิจิตอล โดยจะได้ประโยชน์จาก Feature Game Boost ทำให้ความละเอียดสูงขึ้น เฟรมเรตดีขึ้น นิ่งขึ้น และในบางเกมกราฟิก อาจจะดีขึ้น แต่ก็ต้องพิจารณาเป็นเกมๆ ไป ซึ่งบางส่วนอาจจะทำให้เกมสามารถเล่นได้ที่ 120 FPS แต่ก็อาจจะมีจำนวนเกมไม่มากนัก
หรือถ้ามองในอีกแง่เราอาจจะมองว่าการซื้อ TV 120 HZ มาเล่นเกม PS5 ในตอนนี้ อาจจะเป็นการซื้ออนาคต 2-3 ปีกว่าที่ เกม PS5 จะสามารถเล่นที่ 120 FPS ได้เป็นมาตรฐาน หรือวันนั้นอาจจะมาไม่ถึง ต้องรอเครื่อง PS5 Pro ก็เป็นไปได้สูงเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอาจไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ 4K HDR 60HZ อาจจะเพียงพอ และเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผล
แต่ในขณะเดียวกัน ผมคิดว่าทีวี Refresh Rate ต่างกัน 1 เท่าให้ประสบการณ์ที่ต่างกันแน่นอนทั้ง การดูหนังและการเล่นเกม ภาพจะมีความนิ่งกว่า และอาจทำให้รู้สึกได้ถึงความคมชัดลื่นไหลมากกว่า แน่นอนว่าถ้าซื้อมาก็จะมีความฟิน สนุกกว่า อินกว่า เพราะฉะนั้นคำถามจริงๆ คือ คุณยินดีจ่ายเงินที่แตกต่างกันหนึ่งถึงสองเท่าเพื่อลิ้มรส Refresh Rate ที่ต่างกันของ 60HZ กับ 120HZ มั้ย สำหรับหลายคนจะรู้สึกว่ารีเฟรชเรทต่างกัน สร้างความแตกต่างมากมาย แต่สำหรับหลายคนก็รู้สึกว่าแทบไม่แตกต่างกันเลย เพราะฉะนั้นผมอยากให้ลองไปดูที่ร้านเปรียบเทียบนานๆ ลองเปิด Gameplay ของ PS5 ที่มีความละเอียด 4K 60 FPS จาก Youtube ดู แล้วลองชั่งใจดูครับผมว่าคุ้มค่าน่าจ่ายมั้ย
ติดตามแมวนูน
ช่องแมวนูน https://www.youtube.com/channel/UCr5L_gavyNJ2KXtVfZDe0Tg
ติดตามเพจ https://www.facebook.com/maewnoonyoutuber/
Website : https://www.maewnoon.com/