จดทะเบียนหย่ากับสามีด้วยเหตุผลธุรกิจ แต่ยังอยู่บ้านเดียวด้วยกัน มีบุตร 3 คนอายุ 10-14 ปี สามีเพิ่งเสียชีวิต
สามี( เป็นลูกคนสุดท้อง ได้รับเงินก้อนนึงจากพ่อสามี โดยมีข้อตกลงระหว่างพี่น้องสามีว่า ให้สามีเลี้ยง-ส่งเสีย-ดูแลพ่อ จนกว่าเสียชีวิต ) 
 เมื่อได้เงินก้อนนั้นมาเราและสามีนำมาลงทุนทำร้านอาหาร และทำเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

ครอบครัวสามีไม่ค่อยรักกัน จะเอาแต่เงิน เช่นงานศพพ่อ.   สามีเราออกค่าใช้จ่ายคนเดียว แต่พี่ๆ ต่างเก็บซองช่วยงานไปหมด
บางครั้งแม่สามีป่วย. พี่ๆ ก็ให้สามีออกค่ารักษาพยาบาลคนเดียว  ซึ่งบางเดือนก็ช๊อตเงินหมุนไม่ทัน  ถึงไม่มีอย่างไรเราก็ต้องหามารักษา
สามีให้เงินเดือนแม่ เป็นรายเดือน โดยเราโอนให้ทุกเดือน

เพิ่งเสร็จงานศพสามียังไม่ถึง 5 วัน ( เราก็ยังให้เงินเดือนแม่สามีตามปกติ )  พี่สาวและแม่บอกรู้ว่าเราหย่ากับสามี  จะมาทวงทรัพย์สินของสามี
 ซึ่งเราก็อธิบายเพื่อให้เขาเห็นใจว่าเราต้องเลี้ยงดูลูกที่ยังเล็ก.  ซึ่งเรายินดีที่จะดูแลแม่สามีเหมือนที่สามีเราดูแล
 แต่พี่สาวและแม่สามีบอกว่าเขาเป็นแม่เขาต้องได้ในส่วนของแม่

ทุกวันนี้พี่สาวให้แม่สามีมาเฝ้าที่ร้านอาหารเราทุกวัน บางวันเก็บเงินไปเอง ( บางวันพี่สาวพาแม่มาทิ้งไว้ แม่สามีก็บอกว่าเขาไม่อยากได้เงินส่วนนี้แต่ทนพี่สาวแฟนบังคับให้มาไม่ได้ ) 
ตอนนี้เราเริ่มรับไม่ได้เพราะเขาพาคนมาขู่บังคับเรา  นอกจากมาเก็บเงินที่ขายในแต่ล่ะวันแล้ว ยังจะมาขอถอนเงินในบัญชีเงินฝากที่เราเก็บเป็นค่าศึกษาของลูกอีก  พูดย้ำว่ามาทวงสิทธิ์ในฐานะแม่

สามีรู้ว่าครอบครัวเขาเป็นอย่างไร. สามีทำกึ่งพินัยกรรมให้เรานานมากแล้วโดยลงลายมือชื่อไว้บอกว่าถ้าเขาเป็นอะไรไปเทอเขียนว่าชั้นยกทรัพย์สินทั้งหมดให้ลูกๆ แต่เพียงผู้เดียว พร้อมเซ็นชื่อกำกับไว้  แต่เรายังไม่ได้บอกให้ครอบครัวสามีทราบตรงนี้

คำถาม
จริงๆ เราต้องการดูแลแม่แทนสามี. แต่พอเจอแบบนี้ทำให้เราต้องหยุดคิดทบทวนเข่นกัน
อีกทั้งถ้าเรานำเอกสารที่สามีทำไว้ที่มอบทรัพย์สินให้ลูกมายืนยันได้ไหม
ขอคำแนะนำควรทำอย่างไร  หรือแนะนำทนายด้วย   
เพราะทางนั้นจะคุยกับทนายเช่นกัน