เกมส์บาสนัดชิง NBA เกมส์ 3 ระหว่างทีม Lakers เเละทีม Heat มีคนดูเเค่ 5.9 ล้านคนซึ่งถือว่าเป็น rating ตํ่าสุดตั้งเเต่ปี 1984 ซึ่งปีนั้นเป็นปีเเรกที่มีการเริ่มเก็บประวัติเรทติ้งทางทีวี ส่วนเกมส์ที่มีเรทติ้งห่วยที่สุดรองลงมาคือเกมส์ 2 ของ series นี้

สื่อ NY Post ได้ลง tweet ว่า:

“Adam Silver ประมุขลีก NBA รู้สึกเเปลกใจมากที่นัดชิง NBA ปีนี้มีคนดูน้อยทั้งๆ ที่ LeBron James ได้สร้างประวัติศาสตร์ถือไม้เท้าพาทีม Lakers เข้าถึงนัดชิงครั้งที่ 10 ในวัย 35 ปี Silver ไม่อยากให้ลีก NBA ต้องจัดเเข่งบาสนัดชิงในเดือนตุลาปีหน้าอีกเพราะลีกกีฬาอื่นๆ ได้มีการเเข่งรอบเพลยออฟเเละนัดชิงในช่วงนี้เช่นกัน มันทําให้มีการเเย่งเรทติ้งคนดูกันเอง หลายๆ ฝ่ายเชื่อว่าเเคมเปญ Black Lives Matter ที่ลีกพยายามโปรโมทมันทําให้หลายๆ คนเบื่อเเละหมดอารมณ์ไม่อยากดูบาสที่มีธีมการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

นอกจากลีก NBA ที่มีเรทติ้งตกในปีนี้เเล้ว รายการ Stanley Cup Finals, Kentucky Derby, กอลฟ์ US Open ก็มีคนดูลดลงมากเข่นกัน เเม้เเต่กีฬายอดฮิตอย่างลีก NFL ก็โดนไปด้วยเมื่อเรทติ้งคนดูฟุตบอลในวันคืนวันพฤหัสตกลงไปมาก คนดูบางคนไม่ชอบดูบาสทางทีวีที่มีสนามเปล่าๆ บางคนก็สนใจอยากดู debate เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐมากกว่า อีกทั้งวิกฤตการณ์ Covid-19 อาจทําให้คนไม่มีกระจิตกระใจอยากดูกีฬาสักเท่าไหร่ ดังนั้นการที่เรทติ้งตกปีนี้เลยไม่ใช่เรื่องเเปลก

ที่น่าห่วงคือสถานการณ์รอบตัวในเวลานี้ก็ยังดูไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ดังนั้นคงจะอีกนานหลายปีกว่าลีก NBA จะกลับมามีเรทติ้งคนดูที่ดีได้อีกครั้ง (Credit: NBC Sports)