วันนี้เราจะพาทุกคนมารีวิวร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ระดับตำนานเนื้อสไลด์บางเฉียบจนเห็นถาด อยู่ภายใน Coco Walk ติดกับสถานี BTS ราชเทวีมายาวนานกว่า 11 ปีนั่นก็คือร้าน"Shuba Shabu"ส่วนตัวแล้วเคยทานร้านนี้ตั้งแต่สมัยราคาหัวละ 199+ บาทจำได้ว่าเมื่อก่อนเป็นร้านที่ได้รับความนิยมของเหล่านักศึกษานั่งรอคิวกันเต็มหน้าร้าน รสชาติน้ำซุป-น้ำจิ้มอร่อยเด็ดแถมยังขายราคาถูกมากๆ ถึงแม้ว่าเนื้อชาบูของที่นี่จะสไลด์มาบางเฉียบจนเห็นสีของถาดที่ใส่มากลายเป็นตำนานที่ใครก็เคยนำไปล้อเลียนบนโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยเหตุนี้เนื้อชาบูของที่ร้านจึงบางนุ่มและสามารถดูดซึมซับรสชาติของน้ำซุปกับน้ำจิ้มเอาไว้อย่างได้เต็มเปี่ยมในทุกๆคำ เว้นช่วงหายไปนานหลายปีได้ข่าวว่าร้านมีการปรับปรุงราคาใหม่-เพิ่มเมนูมาอีกเพียบ ร้านยังคงอยู่สถานที่เดิมวิธีการเดินทางมาก็ง่ายมาก หากมาด้วยบีทีเอสก็ให้ลงสถานีราชเทวีทางออก 4 จะลงมาที่หน้าโครงการมองเห็นที่ตั้งร้านได้ชัดเจนตั้งแต่มองบนสะพานลงมา แต่ถ้าเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวภายในโครงการมีที่จอดรถให้บริการฟรีถึง 4 ชั่วโมง (เพียงแค่นำบัตรจอดรถที่ได้มาไปประทับตราร้าน) แต่มีเวลาในการทานบุฟเฟ่ต์ 90 นาทีก็เท่ากับว่าถ้าเรามาช่วงที่ลูกค้าไม่เยอะยังพอมีเวลาเหลือไปนั่งชิลล์ๆที่ร้านอื่นภายในโครงการได้อีก ป้ายหน้าร้านใช้สีเทาดำสลับกับส้มโดดเด่นกว่าร้านอื่นภายในโครงการ เรามาทานกันตั้งแต่เวลาบ่ายสี่ร้านเลยดูโล่งๆไม่มีลูกค้าคนอื่นเลยก็ถือว่าแปลกตาดี จะนั่งตรงโต๊ะไหนเลือกได้ตามใจเลยครับผม

ร้านยังคงกว้างขวางเหมือนซื้อ 2 ร้านมาต่อกันโดยมีประตูกระจกเชื่อมระหว่างกลางเต็มไปด้วยโต๊ะเรียงกันเป็นแนวยาวตลอดทางและยังคงใช้สีดำตัดสีส้มส่วนโต๊ะทำจากไม้สีเข้มคงความเป็นสไตล์ของทางร้านได้เป็นอย่างดี เมนูถูกปรับราคาขึ้นเป็น 279++ บาท ตามสภาพของเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปจากเมื่อ 11 ปีที่แล้ว มีเพิ่มวัตถุดิบมาให้เลือกทานหลากหลายมากยิ่งขึ้นทั้งเนื้อหมู-เนื้อวัว-อกไก่-ผักสด-ลูกชิ้น-เหล่าซีฟู๊ด-เมนูทานเล่น-เครื่องดื่มรีฟีลและไอศครีมรวมในบุฟเฟ่ต์ให้เรียบร้อยไม่มีบวกราคาเพิ่ม ส่วนน้ำซุปมีให้เลือก 4 สูตรก็คือซุปชาบูออริจินอล-ซุปชาบูน้ำดำ-ซุปต้มยำและน้ำซุปหมาล่า โดย 1 ซุปจำกัดลูกค้า 4 ที่ถ้ามา 5 คนขึ้นไปจึงจะสามารถสั่งซุปชาบูช่องที่ 2 ได้ฟรี จากปกติราคาซุปละ 50 บาท นอกจากนี้ยังมีเมนู A La Carte ให้สั่งได้ราคาเริ่มต้น 39-59 บาท เงื่อนไขการทานอยู่ที่หน้าหลังมี 3 ภาษาทั้งไทย/อังกฤษและจีน มีเวลาในการทาน 90 นาที ส่วนเงื่อนไขอื่นๆอ่านได้จากในรูปเลยครับผม

ร้านนี้เปิดตั้งแต่ปี 2009 ถึงตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 11 ใครทานบ่อยๆที่ร้านนี้เขามีระบบสะสมแต้มสมาชิกใช้แต้มแลกยำสาหร่ายหรือชาบูฟรี 1 มื้อ (สอบถามการสมัครได้ที่หน้าร้าน) ส่วนน้ำจิ้มที่ร้านมีให้ทาน 3 สูตรคือ น้ำจิ้มชูบาฮอตซอสหรือน้ำจิ้มสุกี้สูตรต้นตำรับของที่ร้านชูบาชาบู/น้ำจิ้มพอนสึสำหรับทานแบบชาบูชาบูสไตล์ญี่ปุ่นและน้ำจิ้มโกมะหรืองาสูตรเข้มข้นวางไว้บนโต๊ะเป็นขวดไม่ต้องคอยเรียกพนักงานเติมให้หงุดหงิด วิธีการปรุงเพื่อเพิ่มความอร่อยก็มีแปะไว้ในโปสเตอร์ที่กำแพงของร้านทำตามกันได้เลย ส่วนวิธีการสั่งอาหารเพียงเขียนเบอร์โต๊ะและจำนวนที่ต้องการทานในแต่ละเมนูในช่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่แล้วยื่นให้น้องพนักงานก็เตรียมอร่อยได้เลย ในใบสั่งอาหารนี้มีไม่ครบทุกเมนูเพราะบางส่วนเราก็ต้องเดินไปตักเองที่ไลน์อาหารด้านหลังของร้าน จะมีอะไรให้เราตักบ้างไปดูด้วยกันเลยครับ

เดินเข้ามาด้านในสุดจะพบกับไลน์อาหารขนาดใหญ่มีให้ตักทั้ง ปลาทิพย์-กุ้งระเบิด-เกี๊ยวกรอบและเกี๊ยวซ่าวางอยู่ในถาดอุ่นด้วยไฟสีส้มตลอดเวลา มีน้ำจิ้มให้ทานกับของทานเล่น 5 สูตรคือ มายองเนส-ซอสมะเขือเทศ-น้ำจิ้มไก่ -น้ำจิ้มบ๊วยและซอสเกี๊ยวซ่า ข้างๆกันเป็นข้าวสวยกับหม้อแกงกระหรี่สไตล์ญี่ปุ่นโดยข้าวสวยที่ใช้เป็นข้าวสวยญี่ปุ่นเม็ดเล็กกลมอ้วนอุ่นในหม้อหุงข้าว ส่วนแกงกระหรี่ก็ไม่ได้ทำมาเล่นๆเพราะใช้สันคอหมูหั่นเต๋าชิ้นใหญ่ต้มกับมันฝรั่งและแครอทตุ๋นจนเปื่อยหมูนุ่มแทรกไขมัน รสชาติแกงกระหรี่ปรุงรสแบบกลางๆไม่เผ็ดฉุนทานได้ง่ายๆทุกเพศทุกวัย ถัดมาอีกหน่อยเป็นโซนเครื่องดื่มรีฟิลทั้งน้ำเปล่า/หล่อฮังกวยผสมมะตูม/เก็กฮวย/ชาเขียวมัจฉะ/เป็บซี่/เซเว่นอัพ/ลิปตันชามะนาว/มิรินด้าน้ำแดงและเป๊บซี่แม็กซ์พร้อมตู้น้ำแข็งขนาดใหญ่ผลิตอัตโนมัติ โซนตรงทางเข้าห้องน้ำก็มีตู้ไอศครีมวางอยู่ไม่แน่ใจว่าเป็นยี่ห้ออะไรแต่บรรจุในถังพลาสติกที่ไม่ใช่กล่องกระดาษ จะอร่อยแค่ไหนเดี๋ยวมาชิมครับ

น้ำจิ้มอย่างที่บอกไปแล้วว่ามี 3 สูตรคือ น้ำจิ้มชูบาฮอตซอสเป็นน้ำจิ้มสุกี้ต้นตำรับรสชาติเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นน้ำมันงามีความเผ็ดกว่าร้านอื่นเป็นพิเศษสมกับเป็นฮอตซอส ร้านแนะนำให้ปรุงความอร่อยเพิ่มด้วยกระเทียม/พริกสด/น้ำมะนาวตามความจี๊ดจ๊าดที่ต้องการ น้ำจิ้มสูตรต่อมาคือพอนสึซอสสูตรของที่ร้านนี้จะเปรี้ยวเค็มอมหวานนิดๆ เพิ่มความอร่อยได้ด้วยไชเท้าซอยและต้นหอมซอยช่วยให้กลิ่นหอมและดูดซับน้ำจิ้มให้ติดตัวเนื้อสัตว์ก่อนนำเข้าปากได้ดียิ่งขึ้น ใครกลัวว่าไชเท้าสดจะรสเผ็ดฉุนก็สบายใจได้เพราะที่นี่ไม่เผ็ดแถมขอเติมได้ไม่อั้นด้วยจ้า สุดท้ายคือชูบาโกมะซอสหรือน้ำจิ้มงารสชาติหวานมันหอมกลิ่นงาเข้มข้น ร้านแนะนำให้เพิ่มน้ำมะนาวเพื่อความสดชื่นลงตัวมากยิ่งขึ้น ใครที่ชอบจิ้มซอสเยอะๆแต่ไม่ชอบเรียกพนักงานมาเติมและปรุงรสเองได้ตามใจต้องชอบร้านนี้อย่างแน่นอนครับ

เนื้อชาบูต่างๆยังคงความบางเฉียบ 0.1 มิลลิเมตรเห็นสีพื้นของถาดตามมาตรฐานของที่ร้าน ยกขึ้นมาถ่ายรูปทีไรก็รู้เลยว่าเป็นร้าน Shuba Shabu อย่างแน่นอน มีเนื้อให้เลือกหลายหลายส่วนเริ่มจาก"เนื้อวัวติดมัน"แทรกไขมันสีสวยเป็นลายหินอ่อนคุณภาพเกินราคามากๆสำหรับถาดนี้/"เนื้อวัวริปอาย"เป็นส่วนที่นุ่มติดกับไขมันรสชาติเข้มข้นกว่าถาดที่แล้ว ส่วนสายหมูก็มีให้เลือกทั้ง"สันคอหมู"เนื้อนุ่มไขมันฉ่ำๆ/"เบคอนสด"ชั้นไขมันสมดุลเนื้อนุ่มไม่ติดหนังแข็ง สายลีนก็มีเนื้อให้เลือก 2 ส่วนคือ"สันนอกหมู"ไร้ไขมันแต่สไลด์มาบางพิเศษทำให้คงความนุ่มไม่เหนียวแบบร้านอื่น สุดท้ายก็คืออกไก่สไลด์บางเฉียบจึงทำให้เนื้อซึมซับน้ำซุปเข้าไปได้มากไม่เหนียวเหมือนทานไก่ต้มนุ่มๆดีงามสุดๆ

ต่อกันด้วยของสด-ลูกชิ้นและเส้นต่างๆมีให้ทานทั้งกุ้งสดแกะเปลือกพร้อมทานตัวขนาดกลาง/ปลาดอรี่ชิ้นใหญ่เต็มคำ/ปลาหมึกบั้งชิ้นใหญ่ซึมซับน้ำจิ้มได้มากกว่าแบบเรียบ เหล่าลูกชิ้นทั้งชิกุวะ/ปูอัด/เต้าหู้ปลาลูกเต๋า/ลูกชิ้นกุ้งและลูกชิ้นปลาคุณภาพดีตามมาตรฐาน ตับหมูสดสไลด์บาง/หมูบะช่อผสมข้าวโพดหวานกรุบกรอบ/เต้าหู้ไข่ไก่เนื้อนุ่มเหนียวใช้ตะเกียบคีบได้ไม่ขาดโดยง่าย เหล่าเส้นต่างๆมีให้เลือกทั้งวุ้นเส้น/อูด้ง/เส้นบุก ก็สามารถสั่งเพิ่มได้ไม่อั้น

ผักเราสั่งมาเป็นชุดผักรวมใส่มาทั้ง ผักกาดขาว/ผักกว้างตุ้ง/เห็ดเข็มทอง/ข้าวโพดอ่อน/เห็ดหอม/แครอท/ผักบุ้ง/เห็ดหูหนูดำ/ข้าวโพดหวาน/ปวยเล้ง ส่วนอาหารทานเล่นก็ตักมาชิมอย่างละนิดหน่อยทั้งข้าวผัดกระเทียมมีกลิ่นหอมเนย-กระเทียม-ต้นหอมผัดกับข้าวญี่ปุ่นเคี้ยวหนึบ ของทอดต่างๆทั้งกุ้งระเบิด/เกี๊ยวซ่า/เกี๊ยวทอด/ปลาทิพย์ที่ทานได้แบบเพลินๆ ส่วนข้าวแกงกระหรี่ญี่ปุ่นก็ตักได้เองจะตักข้าวเยอะราดแกงล้นชุ่มฉ่ำขนาดไหนก็ทำเองได้ตามใจ

เมื่อของต่างๆมาครบก็ได้เวลาอร่อยกับชาบูๆวันนี้เราเลือกน้ำซุป 2 สูตรเป็นซุปชาบูน้ำดำรสชาติหวานหอมปลาโอแห้งและโชยุอีกซุปเป็นหมาล่ารสกลมกล่อมหอมเครื่องสมุนไพรพริกจีนเผ็ดชาอ่อนๆ นำเนื้อชาบูบางๆจุ่มลงในซุปร้อนเดือดๆจนสุก ทานกับน้ำจิ้มทั้ง 3 สูตร ถ้าอยากอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้ๆแนะนำพอนสึใส่ต้นหอมกับไชเท้าซอยลงไปเยอะๆหรือทิ้งให้ซอสซึมเข้าไปในไชเท้าจะทำให้อร่อยเข้มข้นยิ่งขึ้น แต่ถ้าไม่ชอบซอสรสเปรี้ยวหวานแนะนำให้ทานกับซอสงารสชาติหวานมันตัดเปรี้ยวด้วยมะนาวอีกนิดช่วยลดความเลี่ยนจากเนื้อติดมันได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าอยากอร่อยสไตล์ไทยๆก็ต้องจิ้มฮอตซอสที่เผ็ดถึงใจแม้ว่าจะไม่ได้ปรุงเพิ่มก็ตาม ถือว่าอร่อยเข้มข้นถึงใจทั้ง 3 สูตรไม่แปลกใจที่ระหว่างผมนั่งทานก็มีลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการเรื่อยๆ แสดงว่าความนิยมร้านนี้ไม่ได้ลดลงถึงจะผ่านไป 11 ปีก็ตาม

ปิดท้ายด้วยไอศครีมเดินไปตักแบบไม่คิดอะไรมากมายแค่เอาไว้แก้เลี่ยนหลังมื้ออาหาร กลับกลายเป็นว่าอร่อยหวานมันหอมเข้มข้นนมทั้ง 4 รสชาติได้แก่ รสเรนโบว์/รสสตรอเบอรี่ชีสเค้ก/รสกะทิและมอคค่าช๊อกชิพ แนะนำว่าไอศครีมของที่นี่อร่อยห้ามพลาดเลยครับ ส่วนเครื่องดื่มรีฟิลแก้วที่ให้เป็นพลาสติกใช้แล้วทิ้งสามารถเปลี่ยนน้ำหวานได้เรื่อยๆแถมทานเสร็จแล้วก็ยังกดน้ำกลับบ้านได้อีก เรียกได้ว่าอร่อยคุ้มค่าไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนเลยครับ