คือตอนเด็กๆเราค่อนข้างเป็นคนที่ร่าเริง พอขึ้นมอต้นเราโดนเพื่อนนินทาจนเสียความมั่นใจ จอนนั้นเราคิดว่าไม่มีเพื่อนคนไหนชอบเราเลย เราเลยไม่ค่อยได้คุยกะเพื่อนเท่าไรใครถามอะไรก็ถาคำตอบคำ
เรสเป็นอย่างงี้นานอยู่เหมือนกันจนพอขึ้นมอปลายเราอยากเข้าหาคนอื่น แต่เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ยังดีที่มีเพื่อนคนนึงเข้าหาเราตอนแรกเรสก็ไม่ค่อยคุยกะเขา ที่จริงเราอยากคุยแต่เราไม่รู้ว่าต้องพูดยังไง เราคิดว่าตัวเองน่าเบื่อ เพราะคุยไม่สนุก แต่พอไปสักพักพอเขาเริ่มชวนคุยเราก็เริ่มพอคุยเป็นบ้าง แต่เรายังเข้าสังคมไม่เก่งเท่าไร
พอขึ้นมหาลัยเหมือนสังคมมันเปลี่ยนไป ต้แงทำความรู้จักคนใหม่ๆทั้งหมดเลย เราไม่ค่อยมีเพื่อน เราคิดว่าตัวเองเป็นคนที่คำพูดคำจาแปลกๆ คือคุยไม่เป็นนั่นแหละ บางทีมันก็น้อยใจ เหมือนไม่ค่อยมีใครอยากคุยด้วย ตอนเรียนเวลาอาจารให้ยกมือตอบคำถามเอาคะแนน เราก็ลองยกดูเพราะอยากได้คะแนน แล้วเราก็พึ่งมาสังเกตตัวเองว่า ตอนที่ตอบคำถามเราเสียงสั่นมือสั่นนิดๆ ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่เราประหม่าเวลาเจอคนเยอะๆ
อยากถามว่าเราควรดรอปเรียนดีไหมเพื่อไปรักษาก่อน เพราะรู้สึกว่าการใช้ชีวิตประจำวันมันลำบสกมาก
เรารู้สึกว่าตัวเองป่วยทางจิตเวชเราควรดรอปเรียนเพื่อรักษาอาการให้หายไหมคะ
เรสเป็นอย่างงี้นานอยู่เหมือนกันจนพอขึ้นมอปลายเราอยากเข้าหาคนอื่น แต่เราไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ยังดีที่มีเพื่อนคนนึงเข้าหาเราตอนแรกเรสก็ไม่ค่อยคุยกะเขา ที่จริงเราอยากคุยแต่เราไม่รู้ว่าต้องพูดยังไง เราคิดว่าตัวเองน่าเบื่อ เพราะคุยไม่สนุก แต่พอไปสักพักพอเขาเริ่มชวนคุยเราก็เริ่มพอคุยเป็นบ้าง แต่เรายังเข้าสังคมไม่เก่งเท่าไร
พอขึ้นมหาลัยเหมือนสังคมมันเปลี่ยนไป ต้แงทำความรู้จักคนใหม่ๆทั้งหมดเลย เราไม่ค่อยมีเพื่อน เราคิดว่าตัวเองเป็นคนที่คำพูดคำจาแปลกๆ คือคุยไม่เป็นนั่นแหละ บางทีมันก็น้อยใจ เหมือนไม่ค่อยมีใครอยากคุยด้วย ตอนเรียนเวลาอาจารให้ยกมือตอบคำถามเอาคะแนน เราก็ลองยกดูเพราะอยากได้คะแนน แล้วเราก็พึ่งมาสังเกตตัวเองว่า ตอนที่ตอบคำถามเราเสียงสั่นมือสั่นนิดๆ ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่เราประหม่าเวลาเจอคนเยอะๆ
อยากถามว่าเราควรดรอปเรียนดีไหมเพื่อไปรักษาก่อน เพราะรู้สึกว่าการใช้ชีวิตประจำวันมันลำบสกมาก