กว่าจะมาเป็น MV 'NGLMD' ของ FEVER


วันนี้ผมมีบทความของหนึ่งในทีมงานถ่ายทำ MV 'NGLMD'
คุณ Kantapon Duangdee คนตัดต่อประจำกองครับ
ซึ่งเป็นนักศึกษาจากหนึ่งในกลุ่มที่ชนะ FEVER Music Video Challenge
ต้นฉบับจาก https://www.facebook.com/thainorth.kantapon/posts/3573752342677677

"Editor's Note (มั้งนะ) ของ กตพ.
มิวสิควิดีโอ FEVER - NGLMD (never gonne let me down)
"คัตติ้งนารูโตะ"
เกริ่นก่อนว่าเนื้อหาตรงนี้อาจไม่ได้มีสาระอะไรมาก แต่จะพูดถึงแนวคิดที่อยากพูดถึงเฉย ๆ
จากตอนแรกตกลงว่าจะเป็นแค่ตัดต่อ แต่สุดท้ายไอเจ้าเพชร (ยศพร) โปรดิวเซอร์
มันก็ลากไปทำทั้งผู้ช่วย DIT และกำลังเสริม Art Crew เพราะเอาจริงคนในกองมีน้อยมาก แต่ก็นั่นละสนุกดี กรรมชีพจงเจริญ ฮิ้ววว

เข้าเรื่อง...ตอนแรกที่จะตัดต่อ เรามีเรฟจาก ผกก. เป็นแนว Ghost World มิวสิควิดีโอของวงช่วงแรก ๆ กับวง Keyakizaka46
แต่พอมาตัดต่อเข้าจริง ๆ เราก็ขี้เกียจเปิดเรฟแล้ว (ขี้เกียจจริงๆ ไม่ใช่ว่าไมเ่ปิดเพราะอยากคูลอะไร ถถถ)
อีกอย่างพอได้ลองวางฟุตเทจดูจริง ๆ เราเห็นว่ามันก็มีทางของมัน
เพราะการกำกับของแต๊งค์ กับฮีซัม และงานภาพของฟอร์ด กับพี่แบค มันค่อนข้างฟิกซ์มาแล้วว่าไดเรคชั่นนี้เป้ะแล้ว
เพียงแต่ด้วยฟุตเทจที่มีจำกัดจึงต้องมาหาลูกเล่นอะไรใส่กันเพิ่มในช่วงโพสต์

มายด์เซ็ตตอนนั่งตัดด้วยกันในช่วงท้าย ๆ ของ MV มีภาพนึงในหัวขึ้นมาคือ "Anime Opening/Outro Sequence"
ก็คือทรานฟอร์มจากโอตะ เป็นโอตะคุไปเลย (หยอก ๆ) ก็คือให้มันเบียวแอนิเมะญี่ปุ่นเนี่ยละ
บางอัน ผกก. ก็ไม่รู้เรื่องด้วย เราก็ใส่ ๆ กวนตีนมันไป แล้วมันก็ดันชอบ ๕๕๕

ยกตัวอย่างจังหวะแบ่งสองเฟรม (ขาวดำ-สีโทนแดง) ตอนเต้น popping ที่ทุกคนกางแขนออกแล้วมีป๊อบอยู่โพสิชั่นเซ็นเตอร์
ตอนแรกเลือกฟุตไม่ถูกว่าจะเอาเทคไหน เพราะมันมีสองเทคที่เราชอบใกล้เคียงกัน แล้วเรากับ ผกก. ก็ตัดสินใจไม่ได้สักที
เลยเอาทั้งสองเทคมาแบ่งครึ่งยิ้มเลย จะได้ไม่เสียดายฟุตทั้งสองเทค ซึ่งเอาจริงตอนนั้นคือประชดให้มันดูขำ ๆ แต่ ผกก. ยิ้มชอบเฉย
ทำให้เราก็ยิ่งโคตรชอบเข้าไปอีก เพราะตอนนั้นท่าเต้นยิ้มดูเบียวเหมือนคาถานินจาแยกเงาพันร่างของนารูโตะดี
ไหน ๆ ก็ลองเปิดใจขายทางค่ายดู ตอนแรกก็ลุ้นยิ้มว่าคัตติ้งนี้จะรอดมั้ย สรุปขายผ่านว่ะเห้ย! ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

ถัดมาก็คือช่วงโควท "I'm never gonna doubt you..." ตอนแรกเหมือนจะมีฟุตไม่พอที่จะเลี้ยงไปถึงตอนจบที่กล้องหมุนควงกลับด้าน (มีเล่าต่อจากนี้)
แต่โชคดีที่ ผกก. แกถ่ายฟุตให้เมมเบอร์ทุกคนค้างท่าเต้นกางแขนเอาไว้นาน ๆ แล้วถ่ายมาแบบ 50fps
เราเลยเอามายืดเป็น slow-motion แล้ว crop ๕๐% จากฟุต 4K ให้มันดูเป็น close-up แล้วมันเวิร์คตรงที่เวลาพอดีเป้ะ
จากนั้นก็ใส่โควทให้ดูมีความเมบีลีนนิวยวอคึเข้าไปหน่อย
(ตอนแรกมีเรฟเยอะมาก เกือบจะไปทาง Lily-Chu Chu แล้ว แต่สุดท้ายก็ตามที่เห็น ไม่งั้นมันจะเยอะไป ถถถ)

เอาล่ะ ต่อมาก็ช่วงควงกล้องหมุนติ้ว ซึ่งบอกเลยว่าช็อตนี้น่าจะคราฟสุดของงานนี้แล้ว
เพราะตอนไปรู้มาตอนออกกองว่าโรนินที่ใช้อยู่ในคิวตอนเช้าควงกล้องแบบแมนนวลไม่ไหว
บักฟอร์ดตากล้องหลักก็เข้ามาปรึกษาในห้อง DIT นี่ก็เลย "ah shit, here we go fix it in post again..."
ซึ่งก็บอกให้มันถ่ายเผื่อกว้าง ๆ มาเลย แล้วเดี๋ยวไป digital zoom + rotate ในโพสต์เอง
เพราะเดี๋ยวมันจะไม่ขยับไปไหนสักที แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากองไปก่อน
(เอาจริงมันก็ไม่ควรแหละ แต่ปัจจุบันทีมโพสต์ นศ. อย่างเรา ๆ ก็ต้องเตรียมรับปัญหาเฉพาะแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ก็ถือว่าฝึกๆ ฝีมือกันไป T T)

ในระหว่างนั้นตลอดการถ่ายทำทั้งวัน ทีมโพสต์ที่ประจำอยู่ห้อง DIT ก็ต่างช่วยกันลองไฟล์ของช็อตควงกล้องมาแต่งสี-ซูมหมุนรอเลยว่ามันเวิร์คไหม
ถ้าไม่เวิร์คจริง ๆ จะได้รอแสงตอนเย็นอีกทีแล้วรีชู้ตเฉพาะช็อตนั้น กับโรนินตัวใหม่ที่มาถึงในช่วงบ่าย - แต่สรุปมันก็รอดแหละ
อีกอย่างทุกคนก็เหนื่อยกันมากแล้ว ดูยังไงก็ไม่ควรรีชู้ต เราควรมูฟออน

อ่ะ แต่มันยังไม่จบ พอถึงขั้นตอนตัดต่อก็พบว่าเงาตรงผืนน้ำยังไม่ชัดพอที่จะสื่อเมสเสจตอนกล้องควงกลับด้าน
นี่เลยให้ทีมโพสต์อย่าง เปรม colorist (Jirat Jonggirattikarn) และต้าผู้ช่วย/คนประกอบไฟล์ (Takung Kraiklang)
ร่วมมือกันทำซีจีเงาผืนน้ำใน AE แบบเฉพาะกิจยิ้มไปเลย ไม่รอดให้มันรู้ไป

และในส่วนของ Aspect Ratio ตอนแรกเห็นภาพตรงกันว่ามันควรเป็น ๑๖:๙ เต็ม ๆ เพราะอยากให้มันเห็น Set Art และ Choreography เต็ม ๆ
แต่พอมานั่งดูฟุตแล้วลองใส่ Letterbox หลาย ๆ ขนาดดู ก็รู้สึกว่า ๒.๔๐:๑ มันก็สวยกว่ากับบางช็อตจริง ๆ แหละ
จึงเกิดไอเดียเปลี่ยน Aspect Ratio ตลอดเวลาในเอ็มวี
มีสลับทั้ง ๑.๘๙:๑ (ไม่ใช่ ๑๖:๙ เพราะยังมีขอบดำอยู่) สำหรับช่วงที่ต้องการให้เห็นอาร์ทเยอะ ๆ
กับ ๒.๔๐:๑ สำหรับช่วงที่อยากเน้นความเท่ กับความอึดอัดนิดหน่อย
และ ๔:๓ สำหรับช่วง line-sync portrait ให้มันดูมีความเป็นวิดีโอ propaganda / call out อะไรบางอย่าง
(ซึ่งตอนนั้นคนตัดต่อ, คัลเลอร์ลิส กับ ผกก.แต๊ง ก็กำลังเบียวหนัง Come and See ของโซเวียตปี ๑๙๘๕ กันอยู่ด้วย เลยเคาะซื้อกันเองยิ้ม ถถถ)

ในส่วนของสีนั้น ถ้ามีเวลา เราจะใส่ LUTs ย้อมไกด์ให้ ผกก. กับ colorist ไปก่อน ใครอยากเห็นสีที่เราย้อมไกด์ก็ไปดูใน Teaser NGLMD ได้
ส่วนใครอยากเห็นดีเทลเพิ่มเติมของสีตัวเต็มแบบไฟนอลสามารถไปตามดูที่โพสต์ของเปรมต่อได้เช่นกัน

สุดท้าย สิ่งที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของ Music Video ไอดอลก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของ "แอร์ไทม์"
ซึ่ง ผกก. แกก็คิดมาแล้วว่าเราไม่สามารถให้แอร์ไทม์ทุกคนเป้ะเท่ากัน แต่เราจะพยายามให้แต่ละคนมีโมเมนต์สำคัญ หรือจังหวะให้จำ กระจายซีนกันไป
อย่างเช่นซู-ซี ที่เปิดขึ้นมาเป็นคนยืนร้องนำ แบ่งโพสิชั่นกันทีละพาร์ท (ร่วมร้องกับใบบัว)
ตามด้วยปาย ที่จะมีช็อตเด่นทุกตอนจบของท่อนฮุคที่ทุกคนก้มลงแล้วปายยืนกวาดแขนอยู่ตรงกลางคนเดียว
ป๊อบ กับ ฟรอย ที่จะมีซีนกระจกเป็นจุดขายอยู่ตรงกลาง (บวกซีนเต้นป๊อบปิ้งอีกหน่อย)
ใบบัว จะเด่นหนักตอนช่วงก่อนเข้าเต้นป๊อบปิ้ง เอาแบบเท่ระเบิด ๆ
แล้วกลับมาที่ซีอีกรอบที่จะยืนนำหน้าทุกคนตอนวิ่งออกมาข้างนอกโกดังแล้ว
ปิดท้ายด้วยการ wrap up ขึ้นใบหน้าทุกคน กับสเลทเบื้องหลัง

ปล. End Credit เราเลือกฟุตนั้นเพราะอยากปั่นทีมงานเฉย ๆ
มันดูขำขันมีสีสัน ได้ฟีล TENET ดี / จบ
ขอบคุณครับ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่