สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 69
จะเล่าให้ฟังนะ ต้องเทียบให้ฟังว่า ความดังของ เจ มณฑล จิรา (มันดังเป็นช่วงๆ) ที่พีคที่สุด แต่ไม่ได้ดังนาน มาจาก ตัวพ่อของน้อง นิสัย ไม่อยากให้ลูกเข้าวงการ และบ้านเค้ารวยมาก เลยไม่ดิ้นรน ที่อยากให้อยู่ในวงการนานๆ ไม่เหมือน พ่อแม่ สมัยนี้ ที่พยายามดันลูกสุดทุกทางเพื่อชื่อเสียง
ทุกคนต้องเข้าใจด้วย ที่เค้าไม่ได้ดังยาวนาน เหมือน ณเดช มาริโอ เวียร์ บลาๆๆๆในยุคนี้ นั้นเพราะ ( เจ มณฑล จิรา) ไม่ได้ดิ้นรนเพื่อที่จะเข้าวงการ ยิ่งเจ้าตัวติสต์แตก ยิ่งเฉพาะพ่อ ที่มาเป็น ผู้จัดการ แทน (พ่อ เจ มณฑล จิรา ดุมากกก) และเค้าก็บอกตลอด อยากให้ลูกดูแล ธุรกิจ ของตัวเอง มากกว่ามาหาเงินในวงการบันเทิง ดังนั้น พ่อเค้าจะรับงานสกีนงาน เรื่องเยอะ และ ไม่ได้รับงานทุกชิ้น
นั้นคือกลยุทธ ที่พ่อเค้าสร้างขึ้น (จำได้ จาก การสัมภาษณ์ ประวัติ เจ มณฑล จิรา ) ว่า พ่อเค้า คิดว่า การที่รับงานถี่ๆ ทำให้ ดู น้องดูเป็นสิ่งของที่หยิบจับง่าย ไม่น่าสนใจ ดังนั้น พ่อเค้าจะรับงานน้อยๆ เพื่อ ให้คน อยากจะสนใจจริงๆผลงานจริงๆ และการการกำหนดค่าตัวให้สูงที่สุด และนั้น= ทำให้ต่าตัว เจ มณฑล จิรา พุ่งทะยานขึ้นแพงที่สุดในไทย เท่า เบิร์ด ธงชัย ในยุคนั้น ช่วงที่พีคที่สุด
"มณฑล จิรา" ชื่อเล่น "เจ" เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 ที่ฮ่องกง เป็นลูกชายคนโตของอรินทร์ และอภิญญา จิรา มีน้องชาย 1 คน ชื่อ "ดนัย จิรา"
เมื่ออายุ 9 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย บิดาได้ส่งเข้าประกวดโดมอนมินิ ประจำปี 2531 และได้รางวัลชนะเลิศ จากนั้นเมื่ออายุ 13 ปี "พจน์ อานนท์" (พชร์) ชักชวนให้มาถ่ายแบบและได้ขึ้นปกนิตยสาร "เธอกับฉัน" ฉบับวันวาเลนไทน์ พ.ศ. 2536 หลังจากนั้น "เจ" จึงมีงานถ่ายแบบและโฆษณาเข้ามามากมาย พร้อมกับออกรายการเกมโชว์ และเมื่ออายุ 17 ปี ได้แสดงละคร รวมไปถึงภาพยนตร์อีกด้วย
ติ่ง ดารา คนไทย หลายคน คงดิ้นพล่านนนนนนนนนนนนน ยอมรับไม่ได้ เพราะถ้าเอาช่วงที่ความดังของ เจ มณฑล จิรา ดังที่สุด
(เค้าเป็น วัยรุ่น คนแรกในไทย ที่ดัง มีค่าตัวแพงที่สุดในเมืองไทย ในการถ่ายแบบ เทียบเท่า ค่าตัว ของ เบิร์ด ในยุคนั้น แล้วที่พีคที่สุด)
เคยบันทึกในประวัติศาสตร์ วงการ บันเทิงไทย (ในไทยรัฐเอาไว้) เรายังจำได้ว่า
เปิดบันทึก ค่าตัว เจ มณฑล จิรา (ในยุคที่ดังสุด) ราคาค่าตัวในการถ่ายแบบ คิดเป็น ชม. (เป็นคนไทย คนแรกในวงการ ที่คิด การถ่ายแบบ เป็น ชม. เพราะสมัยนั้นจะเหมาจ่ายทีเดียว ตกลงที่ค่าตัว แต่ พ่อของ เจมณฑล ที่ฉีกกฏ คิดแบบ คนทำธุรกิจมาก นั้นคือ ความดังของน้องตอนนั้น ควรคิดเป็น ชม. เพราะรู้ๆกันว่า การถ่ายแบบ บางที ถ่ายทั้งวันเช้ายันเย็นไม่ต้ำ7ชม. ค่าตัว 1แสน 2แสน แต่ว่าเป็นการทำงานที่ยาวนานเกินไป พ่อเลยคิดเป็นค่าตัว ดารา ตปท ที่คิดค่าตัวเป็น ชม... (สมัยนั้น เป็นเสียงฮือฮามาก เพราะว่า ไมม่มีวัยรุ่นคนไหน คิดการทำงานเป็นชม. ส่วนมากค่าเหมาเลย ว่า ถ่ายแบบอะไร คอนเซ็ปไร กี่ชม. เหมาไปเลนเท่าไหร่) แต่ของ เจมมณฑล คิดแล้วตกแล้ว ชม. 7หมื่น กว่าบาท ในยุค20ปีก่อน แน่นอน เวลารับงาน อย่างถ่ายแบบ ไม่มีต่ำกว่า5ชม. ก็เลย เป็นที่เลื่องลือ ในวงการ หนังสือ และ เอเจนซี่ วงการในไทยว่า ค่าตัวของ เจ มณฑล จิรา (ได้ขึ้นอันดับ1แพงที่สุดในไทย) มาแล้ว
ไปอ่าน ไปรื้อ ประวัติได้ (ไปหาอ่านหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ได้ ใน หอสมุด ก็ได้ เมื่อ20ปีก่อน ปี36) หน้าหลังเลย
เจ มณ ฆล ดังมาก ในยุค ดังมากกกกกกกกกกก ในยุค 2536 นั้นคือ ได้มาถ่ายแบบ (เธอกับฉัน)
ในยุคนั้น เป็นวัยรุ่น ที่ดังมากกกกกกกกกกก ดังแบบกะแส เป็นที่ฮือฮามาก ในกลุ่มวัยรุ่นในยุคนั้น ด้วยหน้าละอ่อน ทรงผม ตอนนั้น กลายเป็นฟีเวอร์ ที่ฮิตไปทั่วเมืองในยุคนั้น เรียกทรงผมว่า ทรง..เจ มณฑล คือเป็นรองทรงแล้วตรงกลางมี ติ่งห้อยย้อยมา
หลังจากถ่ายแบบ เธอกับฉัน ช่วงยุคนั้น ก็ฮือฮามากในกลุ่มวัยรุ่นยุคนั้น เพราะสมัยนั้น สิ่งที่วัยรุ่นต้องมี ต้องพก อ่าน ในยุคนั้น คือ หนังสือวัยรุ่น ที่ดังๆยุคนั้นก็มี หนังสือ The Boy และ เธอกับฉัน ของพจน์ อานนท์ ก็เข้ามา ถ่าย โฆษณา ทเวลฟ์ พลัส โคโลญจน์
เป็นที่ฮือฮา หนักเข้าไปอีก เมื่อ เป็นที่ฮือฮา ในยุคนั้น และ วงการ เอเจนซี่ ด้วยค่าตัวหลัก ล้าน (หลายล้าน) และไม่มีคำพูดใดๆ เพียงแค่ เปิดเสื้อคุม มาเห็นหน้า แล้วทำท่า งง ๆ (ยุคนั้น ฮือฮามาก กับ โฆษณานี้) วงการ เอเจนซี่ พูดเป็น เสียงเดียว ว่า น้อยคนมาก ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์แบบนี้ เพียงแค่ออนแอร์ โฆษณาตัวนี้ออก ทเวลฟ์ พลัส โคโลญจน์ (ขายดีจนขาดตลาด)
กะแส ของ เจ มณฑล จิรา ก็ตีวงขยายไปเรื่อยๆ (แต่เป็น ยุคของ วัยรุ่นครองเมือง)
ครั้งต่อมา เจ มณฑล จิรา (พ่อ เค้า ก็คิด ทำ หนังสือ พ็อกเก็ตบุ๊ค) รวมรวมถ่ายของ เจ มณฑล จิรา เป็นร้อยรูป และประวัติเล็กๆน้อยๆ
เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง หนังสือหมด ตั้งแต่ วางแผง (จำได้ ราคา500บาท) แพงมากนะ ตอนนั้น เมื่อ20ปีก่อน สำหรับวัยรุ่น แต่ คนก็แห่ซื้อหมดเกลี้ยงแผง
ช่วงนั้น รายการ ทอล์กโชว์ ที่ดังที่สุดในเมืองไทย ยุคนั้น คือ รายการ 4ทุ่มสแควร์ (รายการ ของคุณ วิทวัส สุนทรวิเนตร์) ก็เชิญ เจ มณฑล มาสัมภาษณ์ จำได้ คนวัยรุ่นยุคนั้น ต้องรีบกลับบ้านาดู เจ มณฑล จิรา 555555
ต่อมา แล้วก็มีงานประปราย ด้วยความที่ เจ มณฑล จิรา เป็นคนที่เข้าถึงยาก (และรับงานยาก) ในช่วงที่ตอนที่ดัง มาจาก ค่าตัวที่แพงเกินไป สำหรับ (คนที่ติดต่องาน ก็เลยทำให้ งาน ที่ออกมา น้อยลง) กะแสก็เรื่อย ลงเรื่อยๆ มีเล่นหนัง มีงานเพลงออกอัลบั้ม ก็คือ แป๊ก สนิท!!!
เพราะ ตอนนั้น เป็นช่วง คาบเกี่ยว คือ (ตัวพ่อ อยากให้ลูกโฟกัสเรื่องเรียน เพราะมีแผนที่จะส่งลูกไปเรียน ตปท อยู่แล้ว) แต่แรก ก็เลยทำให้ ความดังของ เจ มณฑล มันไม่ต่อเนื่อง เพราะ อยู่ในวงการ เอาที่ดังพีคสุดๆ ก็พวกถ่ายแบบนี่แหละ และโฆษณา ต่อจากนั้น ) ก็ไปศึกษาต่อที่ Robert Lovis Stevenson High School ในแคลิฟอร์เนีย พอกลับมา มาทำเพลง นอัลบั้มแรกกับค่ายโพลีแกรม ชื่ออัลบั้ม “J” และแสดงภาพยนตร์เรื่อง "ถนนนี้หัวใจข้าจอง" ก่อนกลับไปเรียนต่อปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์และดนตรีพร้อมกันที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส
มันคือ หายเป็นช่วงๆ คือ กลับมาเมืองไทย รับงานนิดหน่อย แล้วก็บินต่อไปเรียนต่อ
นั้น เลย ทำให้เป็นช่วงเปลี่ยนGen ของกลุ่มวัยรุ่น เพราะ ความดังของ เจ มณฑล มันค่อยๆหายไปทีละนิด
ทุกคนต้องเข้าใจด้วย ที่เค้าไม่ได้ดังยาวนาน เหมือน ณเดช มาริโอ เวียร์ บลาๆๆๆในยุคนี้ นั้นเพราะ ( เจ มณฑล จิรา) ไม่ได้ดิ้นรนเพื่อที่จะเข้าวงการ ยิ่งเจ้าตัวติสต์แตก ยิ่งเฉพาะพ่อ ที่มาเป็น ผู้จัดการ แทน (พ่อ เจ มณฑล จิรา ดุมากกก) และเค้าก็บอกตลอด อยากให้ลูกดูแล ธุรกิจ ของตัวเอง มากกว่ามาหาเงินในวงการบันเทิง ดังนั้น พ่อเค้าจะรับงานสกีนงาน เรื่องเยอะ และ ไม่ได้รับงานทุกชิ้น
นั้นคือกลยุทธ ที่พ่อเค้าสร้างขึ้น (จำได้ จาก การสัมภาษณ์ ประวัติ เจ มณฑล จิรา ) ว่า พ่อเค้า คิดว่า การที่รับงานถี่ๆ ทำให้ ดู น้องดูเป็นสิ่งของที่หยิบจับง่าย ไม่น่าสนใจ ดังนั้น พ่อเค้าจะรับงานน้อยๆ เพื่อ ให้คน อยากจะสนใจจริงๆผลงานจริงๆ และการการกำหนดค่าตัวให้สูงที่สุด และนั้น= ทำให้ต่าตัว เจ มณฑล จิรา พุ่งทะยานขึ้นแพงที่สุดในไทย เท่า เบิร์ด ธงชัย ในยุคนั้น ช่วงที่พีคที่สุด
"มณฑล จิรา" ชื่อเล่น "เจ" เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 ที่ฮ่องกง เป็นลูกชายคนโตของอรินทร์ และอภิญญา จิรา มีน้องชาย 1 คน ชื่อ "ดนัย จิรา"
เมื่ออายุ 9 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย บิดาได้ส่งเข้าประกวดโดมอนมินิ ประจำปี 2531 และได้รางวัลชนะเลิศ จากนั้นเมื่ออายุ 13 ปี "พจน์ อานนท์" (พชร์) ชักชวนให้มาถ่ายแบบและได้ขึ้นปกนิตยสาร "เธอกับฉัน" ฉบับวันวาเลนไทน์ พ.ศ. 2536 หลังจากนั้น "เจ" จึงมีงานถ่ายแบบและโฆษณาเข้ามามากมาย พร้อมกับออกรายการเกมโชว์ และเมื่ออายุ 17 ปี ได้แสดงละคร รวมไปถึงภาพยนตร์อีกด้วย
ติ่ง ดารา คนไทย หลายคน คงดิ้นพล่านนนนนนนนนนนนน ยอมรับไม่ได้ เพราะถ้าเอาช่วงที่ความดังของ เจ มณฑล จิรา ดังที่สุด
(เค้าเป็น วัยรุ่น คนแรกในไทย ที่ดัง มีค่าตัวแพงที่สุดในเมืองไทย ในการถ่ายแบบ เทียบเท่า ค่าตัว ของ เบิร์ด ในยุคนั้น แล้วที่พีคที่สุด)
เคยบันทึกในประวัติศาสตร์ วงการ บันเทิงไทย (ในไทยรัฐเอาไว้) เรายังจำได้ว่า
เปิดบันทึก ค่าตัว เจ มณฑล จิรา (ในยุคที่ดังสุด) ราคาค่าตัวในการถ่ายแบบ คิดเป็น ชม. (เป็นคนไทย คนแรกในวงการ ที่คิด การถ่ายแบบ เป็น ชม. เพราะสมัยนั้นจะเหมาจ่ายทีเดียว ตกลงที่ค่าตัว แต่ พ่อของ เจมณฑล ที่ฉีกกฏ คิดแบบ คนทำธุรกิจมาก นั้นคือ ความดังของน้องตอนนั้น ควรคิดเป็น ชม. เพราะรู้ๆกันว่า การถ่ายแบบ บางที ถ่ายทั้งวันเช้ายันเย็นไม่ต้ำ7ชม. ค่าตัว 1แสน 2แสน แต่ว่าเป็นการทำงานที่ยาวนานเกินไป พ่อเลยคิดเป็นค่าตัว ดารา ตปท ที่คิดค่าตัวเป็น ชม... (สมัยนั้น เป็นเสียงฮือฮามาก เพราะว่า ไมม่มีวัยรุ่นคนไหน คิดการทำงานเป็นชม. ส่วนมากค่าเหมาเลย ว่า ถ่ายแบบอะไร คอนเซ็ปไร กี่ชม. เหมาไปเลนเท่าไหร่) แต่ของ เจมมณฑล คิดแล้วตกแล้ว ชม. 7หมื่น กว่าบาท ในยุค20ปีก่อน แน่นอน เวลารับงาน อย่างถ่ายแบบ ไม่มีต่ำกว่า5ชม. ก็เลย เป็นที่เลื่องลือ ในวงการ หนังสือ และ เอเจนซี่ วงการในไทยว่า ค่าตัวของ เจ มณฑล จิรา (ได้ขึ้นอันดับ1แพงที่สุดในไทย) มาแล้ว
ไปอ่าน ไปรื้อ ประวัติได้ (ไปหาอ่านหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ได้ ใน หอสมุด ก็ได้ เมื่อ20ปีก่อน ปี36) หน้าหลังเลย
เจ มณ ฆล ดังมาก ในยุค ดังมากกกกกกกกกกก ในยุค 2536 นั้นคือ ได้มาถ่ายแบบ (เธอกับฉัน)
ในยุคนั้น เป็นวัยรุ่น ที่ดังมากกกกกกกกกกก ดังแบบกะแส เป็นที่ฮือฮามาก ในกลุ่มวัยรุ่นในยุคนั้น ด้วยหน้าละอ่อน ทรงผม ตอนนั้น กลายเป็นฟีเวอร์ ที่ฮิตไปทั่วเมืองในยุคนั้น เรียกทรงผมว่า ทรง..เจ มณฑล คือเป็นรองทรงแล้วตรงกลางมี ติ่งห้อยย้อยมา
หลังจากถ่ายแบบ เธอกับฉัน ช่วงยุคนั้น ก็ฮือฮามากในกลุ่มวัยรุ่นยุคนั้น เพราะสมัยนั้น สิ่งที่วัยรุ่นต้องมี ต้องพก อ่าน ในยุคนั้น คือ หนังสือวัยรุ่น ที่ดังๆยุคนั้นก็มี หนังสือ The Boy และ เธอกับฉัน ของพจน์ อานนท์ ก็เข้ามา ถ่าย โฆษณา ทเวลฟ์ พลัส โคโลญจน์
เป็นที่ฮือฮา หนักเข้าไปอีก เมื่อ เป็นที่ฮือฮา ในยุคนั้น และ วงการ เอเจนซี่ ด้วยค่าตัวหลัก ล้าน (หลายล้าน) และไม่มีคำพูดใดๆ เพียงแค่ เปิดเสื้อคุม มาเห็นหน้า แล้วทำท่า งง ๆ (ยุคนั้น ฮือฮามาก กับ โฆษณานี้) วงการ เอเจนซี่ พูดเป็น เสียงเดียว ว่า น้อยคนมาก ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์แบบนี้ เพียงแค่ออนแอร์ โฆษณาตัวนี้ออก ทเวลฟ์ พลัส โคโลญจน์ (ขายดีจนขาดตลาด)
กะแส ของ เจ มณฑล จิรา ก็ตีวงขยายไปเรื่อยๆ (แต่เป็น ยุคของ วัยรุ่นครองเมือง)
ครั้งต่อมา เจ มณฑล จิรา (พ่อ เค้า ก็คิด ทำ หนังสือ พ็อกเก็ตบุ๊ค) รวมรวมถ่ายของ เจ มณฑล จิรา เป็นร้อยรูป และประวัติเล็กๆน้อยๆ
เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง หนังสือหมด ตั้งแต่ วางแผง (จำได้ ราคา500บาท) แพงมากนะ ตอนนั้น เมื่อ20ปีก่อน สำหรับวัยรุ่น แต่ คนก็แห่ซื้อหมดเกลี้ยงแผง
ช่วงนั้น รายการ ทอล์กโชว์ ที่ดังที่สุดในเมืองไทย ยุคนั้น คือ รายการ 4ทุ่มสแควร์ (รายการ ของคุณ วิทวัส สุนทรวิเนตร์) ก็เชิญ เจ มณฑล มาสัมภาษณ์ จำได้ คนวัยรุ่นยุคนั้น ต้องรีบกลับบ้านาดู เจ มณฑล จิรา 555555
ต่อมา แล้วก็มีงานประปราย ด้วยความที่ เจ มณฑล จิรา เป็นคนที่เข้าถึงยาก (และรับงานยาก) ในช่วงที่ตอนที่ดัง มาจาก ค่าตัวที่แพงเกินไป สำหรับ (คนที่ติดต่องาน ก็เลยทำให้ งาน ที่ออกมา น้อยลง) กะแสก็เรื่อย ลงเรื่อยๆ มีเล่นหนัง มีงานเพลงออกอัลบั้ม ก็คือ แป๊ก สนิท!!!
เพราะ ตอนนั้น เป็นช่วง คาบเกี่ยว คือ (ตัวพ่อ อยากให้ลูกโฟกัสเรื่องเรียน เพราะมีแผนที่จะส่งลูกไปเรียน ตปท อยู่แล้ว) แต่แรก ก็เลยทำให้ ความดังของ เจ มณฑล มันไม่ต่อเนื่อง เพราะ อยู่ในวงการ เอาที่ดังพีคสุดๆ ก็พวกถ่ายแบบนี่แหละ และโฆษณา ต่อจากนั้น ) ก็ไปศึกษาต่อที่ Robert Lovis Stevenson High School ในแคลิฟอร์เนีย พอกลับมา มาทำเพลง นอัลบั้มแรกกับค่ายโพลีแกรม ชื่ออัลบั้ม “J” และแสดงภาพยนตร์เรื่อง "ถนนนี้หัวใจข้าจอง" ก่อนกลับไปเรียนต่อปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์และดนตรีพร้อมกันที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส
มันคือ หายเป็นช่วงๆ คือ กลับมาเมืองไทย รับงานนิดหน่อย แล้วก็บินต่อไปเรียนต่อ
นั้น เลย ทำให้เป็นช่วงเปลี่ยนGen ของกลุ่มวัยรุ่น เพราะ ความดังของ เจ มณฑล มันค่อยๆหายไปทีละนิด
แสดงความคิดเห็น
พี่เจ มณฑล จิรา เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว พี่เค้าดังมากไหมครับ?