กระทู้นี้ผมจะพิพากษาตัวเอง ต้องขอออกตัวก่อนว่าผมเป็นผู้ชาย!! ที่ชอบและมีแฟนเป็นผู้ชาย เรื่องที่พวกคุณกำลังจะอ่าน เป็นเรื่องของเกย์ ธรรมดาๆคนนึงที่อยากลองแชร์ดูและอยากรับฟังความคิดเห็นว่าพวกคุณรู้สึกอย่างไร
ขอเล่าย้อนไปประมาณ4 ปีที่แล้ว ผมกับแฟนเก่า
ซึ่ง ณ ตอนนั้นน่าจะคบกันได้ประมาน 5 ปีแล้ว เค้าเป็นแฟนคนแรกที่ผมรักและจริงจังสุดๆ เราแลกเปลี่ยนศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกันในบทบาทความรักของ เพศแบบเราๆ ผมคิดว่าเรา2คนทำได้ดีมาก ณ เวลานั้น ผ่านเรื่องผ่านราวต่างๆมาไม่น้อย เรา2คนอยู่ในจุดที่บอกสถาณะให้ใครรู้ไม่ได้เลย บอกครอบครัวหรือเพื่อนๆไม่ได้ กลัวคนอื่นจะว่า กลัวคนอื่นจะนินทา มีแค่กันและกัน2 คน คบกันตั้งแต่ช่วง ม.ปลายจนเข้ามหาวิทยาลัย แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน ที่มันก็ต้องมีอะไรที่ไม่เห็นตรงกันบ้าง นิสัยที่ต่างกันบ้าง แต่พวกเราก็พยายามปรับเข้าหากันและ ประคับประคองความรักมาเป็นเวลากว่า5 ปี
เรา2 คนคงถึงจุดอิ่มตัว เฉยชาและรู้สึกเบื่อหน่าย เบื่อในอะไรเดิมๆ เบื่อในข้อเสียของแต่ละคนที่แก้ไม่หายสักที มาถึงตรงนี้พวกคุณต้องเริ่มเดากันแล้วว่าต้องมีจุดแตกหักใช่มั้ย... ใช่แล้วพวกคุณคิดถูกละ ในที่สุดพวกเราก็เลิกกัน และมันไม่ใช่การจากกันด้วยดีแต่อย่างใด ลองทายดูสิ ใครที่เป็นตัวร้าย.....
ใช่แล้ว! ผมเอง!!
ตัวละครอีกคนที่เพิ่มเข้ามาในเรื่องราวนี้ คือคนใหม่ที่เข้ามาทำให้หัวใจของผมสั่นไหว รู้สึกดีเหมือนที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทำให้ผมหลุดพ้นจากความเบื่อหน่าย พูดง่ายๆเขาคือคนที่มาแย่งผมไปจากแฟนผมนั้นเอง
แล้วผมก็ดันเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกเสียด้วย ณ ตอนนั้น ผมกับแฟนเก่าก็ระหองระแหง กันมาสักพัก พอมีคนนี้เข้ามา มันยิ่งทำให้ผมเทใจไปที่คนใหม่หนักมาก!! แต่ผมไม่ได้เป็นคนจิตใจเลือดเย็นขนาดที่จะไม่เหลือเยื่อใยอะไรให้แฟนเก่าผมนะ! ณ ตอนนั้นผมก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำทุกอย่าง เสียใจที่ผมทำผิดต่อแฟนผม เสียใจต่อความรู้สึกผูกพันต่างๆมากมาย แต่ตอนนั้นคนที่พังกว่าคือแฟนเก่าของผม ถึงผมจะเสียใจ แต่ผมคือคนที่เลือก และเดินออกมา ตอนนั้นผมยังรู้สึกโลกสวยอยู่เลย ผมบอกแฟนเก่าว่า ถึง สถานะของเราจะไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แต่ความรักความทรงจำต่างๆที่เคยมีให้กันมันไม่ได้หายไปและผมยังอยากจะเป็นคนที่อยู่ในชีวิตเขาเหมือนเดิมไม่ว่าจะ สถานะอะไร
ใช่สิ!! คนที่เจ็บที่สุดไม่ใช่ผม ผมถึงกล้าพูดประโยคนี้บอกมาได้ (มาคิดย้อนไปก็เกลียดตัวเองจริงๆ )
ช่วงแรกที่ผมคบกับคนใหม่ ผมก็ยังแอบตามส่องแฟนเก่าอยู่บ้างนะ คอยดูอยู่ห่างๆ เพราะผมยอมรับ ว่าผมก็ยังเป็นห่วงความรู้สึกเขานะ แต่ผมก็อยากให้เขาเดินหน้าต่อและ มูฟออนได้ ผมจึงไม่ค่อยได้ทักหา หรือไถ่ถามอะไรมากมาย มีทักคุยกันบ้างนานๆที
หลายคนคงงงว่าเลิกกับเค้าแล้วยังจะไปยุ่งอะไรกับเขาทำไม เอาตรงๆผมอยากยังอยากรู้ว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง คบใครใหม่บ้างหรือยัง มูฟออนได้หรือยัง และผมยินดีมากๆที่ได้รู้ว่า เขาใช้ชีวิตต่อได้ดีแฮ๊ปปี้มีความสุข ผมคิดเสมอว่าถึงเรา2คนจะจบกันไม่ค่อยดี แต่ความสัมพันธ์ของเราและเรื่องต่างๆที่ผ่านมามันจะทำให้เราสามารถเข้าใจและไม่หายไปจากกัน เขาคือเวลาช่วงหนึ่งในชีวิตที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุด ต่อให้ต่อไปนี้เขาจะพบเจอใคร หรือประสบความสำเร็จอะไรในชีวิตผมก็ยังเป็นคนที่อยากจะยินดีด้วยกับเขาจริงๆ และผมยังอยากจะเป็นพี่น้องที่ดีของเขา ยังเฝ้าดู ยังเป็นห่วง ยังอยากถามไถ่ ยังอยากคุยด้วยได้ ตอนนั้นถึงรู้ว่ามันต้องใช้เวลา แต่ผมก็คิดว่า มันก็น่าจะมีวันที่เรา2คนสามารถมองและยิ้มให้กันได้อย่างจริงใจได้อีกครั้ง ต่อให้มันจะนานแค่ไหน ฟังดูเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวว่ามั๊ย
เล่าถึงแฟนเก่ามาสะเยอะ เรามาถึงพาร์ทของ แฟนใหม่ผมบ้าง ให้ทายนะ คงมีหลายคนที่คิดว่า ความรักที่เกิดจากการเป็นมือที่3 หรือการแย่งชิงมา มันคงอยู่ได้แค่แปปเดียว ความรักครั้งนี้คงเกิดจาก อารมณ์ชั่ววูบหรือไม่ก็ พวกผมคงคบกันอย่างรู้สึกผิดบาปและหวาดระแวงกันและกัน ดั่งเวรกรรมได้ลงทัณฑ์พวกผม ถูกมั้ย... แต่จำได้มั้ย ต้นกระทู้ที่ผมได้เกลิ่นว่าย้อนกลับไปเป็นเวลา 4 ปี..... ใช่แล้วผมยังคบเขาอยู่ ผมยังคบแฟนใหม่คนนี้มาจนถึง ปัจจุบัน และมันก็ผ่านมากว่า 4 ปีแล้ว เอาตรงๆเขาคนนี้เป็นคนดีนะ ถ้าตัดเรื่องที่แย่งผมมา คนๆนี้ไม่ได้ร้ายขนาดนั้น ความจริงจะใช้คำว่าแย่งมาก็คงไม่ได้ เขาให้ผมตัดสินใจและเป็นคนเลือก ณ ตอนนั้น ถ้าผมยังเลือกแฟนเก่าอยู่เขาก็พร้อมที่จะยอมและถอยหลังให้ เขาเป็นคนจิงใจและซื่อตรงต่อความรู้สึก ชอบก็บอกว่าชอบ ตรงๆไม่อ้อม เขามีส่วนที่ทำให้ผมประทับใจหลายอย่าง เรื่องราวเราก็ดูแฮ๊ปปี้เรื่อยๆดี ไม่มีอะไร....
ก็อย่างที่ผมพูด ว่าผมคิดเสมอว่า ยังสามารถ พูดคุยกับแฟนเก่าได้ โดนไม่ขุ่นหมองค่องใจอะไรกัน หากเขายินดีที่จะพูดคุย
ตลอดเวลาประมาน2 ปีหลังมานี้ แฟนเก่าผมเขาได้คบคนใหม่ มีชีวิตที่ดี มีการงานที่ดี ซึ้งผมยินดีมากๆจากใจ และเรายังคง ทักทาย ถามไถ่กันเรื่อยๆ อย่าง บริสุทธิ์ใจ มาโดยตลอด แน่นอน การพูดคุยกันบ้าง ของผมกับเขา ผมก็ไม่ได้บอกให้แฟนใหม่รู้ เพราะถึงจะบริสุทธิ์ใจแค่ไหน แต่ผมก็รู้ดีกว่า แฟนปัจจุบันเราอาจจะไม่สบายใจได้ จึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆและให้เกียรติแฟนปัจจุบันของเรา เล่าถึงตรงนี้ก็คงขอเข้าเรื่องและประเด็ดหลักของกระทู้นี้เลยละกันครับ
อยู่ๆผมก็มีโอกาสได้กลับมาพูดคุยกันแฟนเก่า ได้กลับมาถามไถ่กันและกัน และได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวความรักของคนรักใหม่ของพวกเราทั้งคู่ มันทำให้เราได้เหมือนมานั่ง ปรับทุกข์ คุยย้อนไปถึง สมัยยังคบกันบ้าง ประมาณว่า ถ้าเราเป็นแบบนั้นมันคงจะดี แบบนี้คงจะดี มันมีบรรยากาศอะไรบางอย่างตอนที่นั่งคุยกันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจแปลกๆ มันเป็นความรู้สึก ที่มีทั้ง ความสุข ความคิดถึง และเจ็ดปวดในเวลาเดียวกัน ทำให้ผมจะหวั่นไหว....หวั่นไหวกับแฟนเก่าคนนี้ คนที่ผมเป็นคนทิ้งเขาไปเมื่อ4 ปีก่อน หลังจากวันนั้น ผมก็สับสนและคิดมากมาสักเกือบอาทิตย์แล้ว กลายเป็นว่าบางทีที่ผมอยู่กับแฟนปัจจุบัน แต่ผมก็มีเหม่อๆนึกถึงแฟนเก่าบ้าง
ตั้งแต่ที่ผมเริ่มรู้สึก ผมทักไปคุยกับแฟนเก่าบ่อยมาก แรกๆผมทำเป็นพูดคุยถามไถ่เหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมรู้ตัว ว่าผมเข้าหาเค้ามากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มใช้ภาษาที่ชวนให้รู้สึกไม่ปกติเหมือนเดิม เริ่มหยอดคำหวาน เริ่มมีคำว่าคิดถึง จนแฟนเก่าเขาถามผมถึงความไม่ปกตินี้ ผมจึงได้ยอมรับไปว่าผมรู้สึกดีที่ได้กลับมาคุยกัน แฟนเก่าเขาได้แต่หัวเราะและก็บอกว่า เขาก็รู้สึกดีเช่นกัน
แต่ผมรู้สึกได้ ถึงความรู้สึกที่มีมากกว่าของผม
ต่อให้เขาจะรู้สึกดีอยู่บ้าง แต่มันคงเป็นเพียงความรู้สึกเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผม มันทำให้ผมเฟลและน้อยใจทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์อะไรเลย เอาตรงๆผมไม่โทษแฟนเก่าผมเลยสักนิด ตอนนี้เค้า มูฟออนออกไปไกลมากแล้ว ชีวิตเค้าดีและคนของเขาก็ดีมาก มันไม่แปลกที่เค้าจะไม่อ่อนไหวง่ายเท่าผม
แฟนคนปัจจุบันของผมตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าผมรู้สึกอะไรอยู่ เขาเป็นคนดีและไม่เคยมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผมเสียใจเลย ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องเลือกเหมือนครั้งแรก แต่เราอยู่ในจุดที่อึดอัดกับความรู้สึกที่ต่อให้อยากเลือก ก็เลือกไม่ได้ ได้แต่เก็บความรู้สึกแล้วก็จัดการกับหัวใจตัวเองต่อไปแค่นั้น
สรุปๆง่ายๆที่พิมมาสะยาว
ผมกลับไปคุยกับแฟนเก่าแล้ว
กลับไปหวั่นไหวกับเขาอีกครั้ง... ทั้งๆที่ผมเป็นคนทิ้งเขามา ตอนนี้กลายเป็นผมที่เอาแต่คิดถึงแฟนเก่า โดนที่เขาไม่ได้สนใจอะไรผมเลย เหมือนเวรกรรมตามทัน ใครก็ได้สมน้ำหน้าผมหน่อย555
ขอบคุณที่อ่านจบ เชิญด่ากับความโลเลของใจผมได้เลย.......
กลับมาหวั่นไหวกับแฟนเก่า...คนที่เราทิ้งเขาไป
ขอเล่าย้อนไปประมาณ4 ปีที่แล้ว ผมกับแฟนเก่า
ซึ่ง ณ ตอนนั้นน่าจะคบกันได้ประมาน 5 ปีแล้ว เค้าเป็นแฟนคนแรกที่ผมรักและจริงจังสุดๆ เราแลกเปลี่ยนศึกษาเรียนรู้ซึ่งกันและกันในบทบาทความรักของ เพศแบบเราๆ ผมคิดว่าเรา2คนทำได้ดีมาก ณ เวลานั้น ผ่านเรื่องผ่านราวต่างๆมาไม่น้อย เรา2คนอยู่ในจุดที่บอกสถาณะให้ใครรู้ไม่ได้เลย บอกครอบครัวหรือเพื่อนๆไม่ได้ กลัวคนอื่นจะว่า กลัวคนอื่นจะนินทา มีแค่กันและกัน2 คน คบกันตั้งแต่ช่วง ม.ปลายจนเข้ามหาวิทยาลัย แต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน ที่มันก็ต้องมีอะไรที่ไม่เห็นตรงกันบ้าง นิสัยที่ต่างกันบ้าง แต่พวกเราก็พยายามปรับเข้าหากันและ ประคับประคองความรักมาเป็นเวลากว่า5 ปี
เรา2 คนคงถึงจุดอิ่มตัว เฉยชาและรู้สึกเบื่อหน่าย เบื่อในอะไรเดิมๆ เบื่อในข้อเสียของแต่ละคนที่แก้ไม่หายสักที มาถึงตรงนี้พวกคุณต้องเริ่มเดากันแล้วว่าต้องมีจุดแตกหักใช่มั้ย... ใช่แล้วพวกคุณคิดถูกละ ในที่สุดพวกเราก็เลิกกัน และมันไม่ใช่การจากกันด้วยดีแต่อย่างใด ลองทายดูสิ ใครที่เป็นตัวร้าย.....
ใช่แล้ว! ผมเอง!!
ตัวละครอีกคนที่เพิ่มเข้ามาในเรื่องราวนี้ คือคนใหม่ที่เข้ามาทำให้หัวใจของผมสั่นไหว รู้สึกดีเหมือนที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทำให้ผมหลุดพ้นจากความเบื่อหน่าย พูดง่ายๆเขาคือคนที่มาแย่งผมไปจากแฟนผมนั้นเอง
แล้วผมก็ดันเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกเสียด้วย ณ ตอนนั้น ผมกับแฟนเก่าก็ระหองระแหง กันมาสักพัก พอมีคนนี้เข้ามา มันยิ่งทำให้ผมเทใจไปที่คนใหม่หนักมาก!! แต่ผมไม่ได้เป็นคนจิตใจเลือดเย็นขนาดที่จะไม่เหลือเยื่อใยอะไรให้แฟนเก่าผมนะ! ณ ตอนนั้นผมก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำทุกอย่าง เสียใจที่ผมทำผิดต่อแฟนผม เสียใจต่อความรู้สึกผูกพันต่างๆมากมาย แต่ตอนนั้นคนที่พังกว่าคือแฟนเก่าของผม ถึงผมจะเสียใจ แต่ผมคือคนที่เลือก และเดินออกมา ตอนนั้นผมยังรู้สึกโลกสวยอยู่เลย ผมบอกแฟนเก่าว่า ถึง สถานะของเราจะไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว แต่ความรักความทรงจำต่างๆที่เคยมีให้กันมันไม่ได้หายไปและผมยังอยากจะเป็นคนที่อยู่ในชีวิตเขาเหมือนเดิมไม่ว่าจะ สถานะอะไร
ใช่สิ!! คนที่เจ็บที่สุดไม่ใช่ผม ผมถึงกล้าพูดประโยคนี้บอกมาได้ (มาคิดย้อนไปก็เกลียดตัวเองจริงๆ )
ช่วงแรกที่ผมคบกับคนใหม่ ผมก็ยังแอบตามส่องแฟนเก่าอยู่บ้างนะ คอยดูอยู่ห่างๆ เพราะผมยอมรับ ว่าผมก็ยังเป็นห่วงความรู้สึกเขานะ แต่ผมก็อยากให้เขาเดินหน้าต่อและ มูฟออนได้ ผมจึงไม่ค่อยได้ทักหา หรือไถ่ถามอะไรมากมาย มีทักคุยกันบ้างนานๆที
หลายคนคงงงว่าเลิกกับเค้าแล้วยังจะไปยุ่งอะไรกับเขาทำไม เอาตรงๆผมอยากยังอยากรู้ว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง คบใครใหม่บ้างหรือยัง มูฟออนได้หรือยัง และผมยินดีมากๆที่ได้รู้ว่า เขาใช้ชีวิตต่อได้ดีแฮ๊ปปี้มีความสุข ผมคิดเสมอว่าถึงเรา2คนจะจบกันไม่ค่อยดี แต่ความสัมพันธ์ของเราและเรื่องต่างๆที่ผ่านมามันจะทำให้เราสามารถเข้าใจและไม่หายไปจากกัน เขาคือเวลาช่วงหนึ่งในชีวิตที่ทำให้ผมมีความสุขที่สุด ต่อให้ต่อไปนี้เขาจะพบเจอใคร หรือประสบความสำเร็จอะไรในชีวิตผมก็ยังเป็นคนที่อยากจะยินดีด้วยกับเขาจริงๆ และผมยังอยากจะเป็นพี่น้องที่ดีของเขา ยังเฝ้าดู ยังเป็นห่วง ยังอยากถามไถ่ ยังอยากคุยด้วยได้ ตอนนั้นถึงรู้ว่ามันต้องใช้เวลา แต่ผมก็คิดว่า มันก็น่าจะมีวันที่เรา2คนสามารถมองและยิ้มให้กันได้อย่างจริงใจได้อีกครั้ง ต่อให้มันจะนานแค่ไหน ฟังดูเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวว่ามั๊ย
เล่าถึงแฟนเก่ามาสะเยอะ เรามาถึงพาร์ทของ แฟนใหม่ผมบ้าง ให้ทายนะ คงมีหลายคนที่คิดว่า ความรักที่เกิดจากการเป็นมือที่3 หรือการแย่งชิงมา มันคงอยู่ได้แค่แปปเดียว ความรักครั้งนี้คงเกิดจาก อารมณ์ชั่ววูบหรือไม่ก็ พวกผมคงคบกันอย่างรู้สึกผิดบาปและหวาดระแวงกันและกัน ดั่งเวรกรรมได้ลงทัณฑ์พวกผม ถูกมั้ย... แต่จำได้มั้ย ต้นกระทู้ที่ผมได้เกลิ่นว่าย้อนกลับไปเป็นเวลา 4 ปี..... ใช่แล้วผมยังคบเขาอยู่ ผมยังคบแฟนใหม่คนนี้มาจนถึง ปัจจุบัน และมันก็ผ่านมากว่า 4 ปีแล้ว เอาตรงๆเขาคนนี้เป็นคนดีนะ ถ้าตัดเรื่องที่แย่งผมมา คนๆนี้ไม่ได้ร้ายขนาดนั้น ความจริงจะใช้คำว่าแย่งมาก็คงไม่ได้ เขาให้ผมตัดสินใจและเป็นคนเลือก ณ ตอนนั้น ถ้าผมยังเลือกแฟนเก่าอยู่เขาก็พร้อมที่จะยอมและถอยหลังให้ เขาเป็นคนจิงใจและซื่อตรงต่อความรู้สึก ชอบก็บอกว่าชอบ ตรงๆไม่อ้อม เขามีส่วนที่ทำให้ผมประทับใจหลายอย่าง เรื่องราวเราก็ดูแฮ๊ปปี้เรื่อยๆดี ไม่มีอะไร....
ก็อย่างที่ผมพูด ว่าผมคิดเสมอว่า ยังสามารถ พูดคุยกับแฟนเก่าได้ โดนไม่ขุ่นหมองค่องใจอะไรกัน หากเขายินดีที่จะพูดคุย
ตลอดเวลาประมาน2 ปีหลังมานี้ แฟนเก่าผมเขาได้คบคนใหม่ มีชีวิตที่ดี มีการงานที่ดี ซึ้งผมยินดีมากๆจากใจ และเรายังคง ทักทาย ถามไถ่กันเรื่อยๆ อย่าง บริสุทธิ์ใจ มาโดยตลอด แน่นอน การพูดคุยกันบ้าง ของผมกับเขา ผมก็ไม่ได้บอกให้แฟนใหม่รู้ เพราะถึงจะบริสุทธิ์ใจแค่ไหน แต่ผมก็รู้ดีกว่า แฟนปัจจุบันเราอาจจะไม่สบายใจได้ จึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆและให้เกียรติแฟนปัจจุบันของเรา เล่าถึงตรงนี้ก็คงขอเข้าเรื่องและประเด็ดหลักของกระทู้นี้เลยละกันครับ
อยู่ๆผมก็มีโอกาสได้กลับมาพูดคุยกันแฟนเก่า ได้กลับมาถามไถ่กันและกัน และได้แลกเปลี่ยนเรื่องราวความรักของคนรักใหม่ของพวกเราทั้งคู่ มันทำให้เราได้เหมือนมานั่ง ปรับทุกข์ คุยย้อนไปถึง สมัยยังคบกันบ้าง ประมาณว่า ถ้าเราเป็นแบบนั้นมันคงจะดี แบบนี้คงจะดี มันมีบรรยากาศอะไรบางอย่างตอนที่นั่งคุยกันทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจแปลกๆ มันเป็นความรู้สึก ที่มีทั้ง ความสุข ความคิดถึง และเจ็ดปวดในเวลาเดียวกัน ทำให้ผมจะหวั่นไหว....หวั่นไหวกับแฟนเก่าคนนี้ คนที่ผมเป็นคนทิ้งเขาไปเมื่อ4 ปีก่อน หลังจากวันนั้น ผมก็สับสนและคิดมากมาสักเกือบอาทิตย์แล้ว กลายเป็นว่าบางทีที่ผมอยู่กับแฟนปัจจุบัน แต่ผมก็มีเหม่อๆนึกถึงแฟนเก่าบ้าง
ตั้งแต่ที่ผมเริ่มรู้สึก ผมทักไปคุยกับแฟนเก่าบ่อยมาก แรกๆผมทำเป็นพูดคุยถามไถ่เหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมรู้ตัว ว่าผมเข้าหาเค้ามากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เริ่มใช้ภาษาที่ชวนให้รู้สึกไม่ปกติเหมือนเดิม เริ่มหยอดคำหวาน เริ่มมีคำว่าคิดถึง จนแฟนเก่าเขาถามผมถึงความไม่ปกตินี้ ผมจึงได้ยอมรับไปว่าผมรู้สึกดีที่ได้กลับมาคุยกัน แฟนเก่าเขาได้แต่หัวเราะและก็บอกว่า เขาก็รู้สึกดีเช่นกัน
แต่ผมรู้สึกได้ ถึงความรู้สึกที่มีมากกว่าของผม
ต่อให้เขาจะรู้สึกดีอยู่บ้าง แต่มันคงเป็นเพียงความรู้สึกเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผม มันทำให้ผมเฟลและน้อยใจทั้งๆที่ไม่มีสิทธิ์อะไรเลย เอาตรงๆผมไม่โทษแฟนเก่าผมเลยสักนิด ตอนนี้เค้า มูฟออนออกไปไกลมากแล้ว ชีวิตเค้าดีและคนของเขาก็ดีมาก มันไม่แปลกที่เค้าจะไม่อ่อนไหวง่ายเท่าผม
แฟนคนปัจจุบันของผมตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าผมรู้สึกอะไรอยู่ เขาเป็นคนดีและไม่เคยมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผมเสียใจเลย ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในจุดที่ต้องเลือกเหมือนครั้งแรก แต่เราอยู่ในจุดที่อึดอัดกับความรู้สึกที่ต่อให้อยากเลือก ก็เลือกไม่ได้ ได้แต่เก็บความรู้สึกแล้วก็จัดการกับหัวใจตัวเองต่อไปแค่นั้น
สรุปๆง่ายๆที่พิมมาสะยาว
ผมกลับไปคุยกับแฟนเก่าแล้วกลับไปหวั่นไหวกับเขาอีกครั้ง... ทั้งๆที่ผมเป็นคนทิ้งเขามา ตอนนี้กลายเป็นผมที่เอาแต่คิดถึงแฟนเก่า โดนที่เขาไม่ได้สนใจอะไรผมเลย เหมือนเวรกรรมตามทัน ใครก็ได้สมน้ำหน้าผมหน่อย555
ขอบคุณที่อ่านจบ เชิญด่ากับความโลเลของใจผมได้เลย.......