ถามผู้รู้ค่ะ!! พ่อแม่เป็นหนี้ 1 ล้านบาท เจ้าหนี้ตามถึงบ้าน บังคับให้เซ็นต์สัญญาใช้หนี้โดยที่เรายังเรียนอยู่ ม.6

ขอเล่าก่อนนะคะว่าบ้านของ จขกท.ไม่ได้รวย พอมีพอกิน เป็นชนชั้นกลางทั่วไป เหลือเก็บซื้อของฟุ่มเฟือยได้บ้าง พ่อแม่ของจขกท.เปิดร้านอาหาร  กำไรได้วันนึงตกวันละ 3000 บาท คือได้เดือนละ 90000 บาท แต่ก็มีค่ารถ มีค่าเช่าที่ร้านอาหาร และหลายๆอย่างที่ต้องจ่ายก็พอดีกับรายได้ค่ะ หลังจากเกิดรัฐประหารคือเศรษฐกิจมันก็แย่อยู่แล้ว แต่นับวันยิ่งแย่ลง บ้านจขกท.อยู่ต่างจังหวัดซึ่งไม่เจริญเลย ห้างมีแค่โลตัส บิ๊กซีเท่านั้น ปกติคนก็น้อยอยู่แล้ว อาศัยได้นักท่องเที่ยวที่ขับผ่านถนน แต่พอเศรษฐกิจแบบนั้น คนก็ไม่ค่อยใช้เงิน นักท่องเที่ยวไม่มี ลูกค้าที่มาทานอาหารก็น้อยลง จากกำไรวันละ 3000 บาท ก็ลดเหลือประมาณ 900-1000 บาท ซึ่งมันไม่พอกับค่าเช่าที่ ค่างวดรถ ค่าเทอมของจขกท.กับพี่สาว แล้วช่วงปี 59 พ่อจขกท.แอบเล่นพนันซึ่งเสียเกือบๆ 1 ล้านบาท(เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหนี้) โดยที่ครอบครัวไม่รู้เลย พ่อแอบเอาของในบ้านไปขายบ้าง ขโมยกระเป๋าแม่ไปขาย ขโมยเงินย่าไปใช้หนี้ จนในที่สุดหาทางออกไม่ได้และสารภาพกับแม่ใน ปี 60 จากที่ขายไม่ดีเพราะเศรษฐกิจอยู่แล้วก็ต้องมาใช้หนี้ให้พ่ออีก ซึ่งตอนนั้นถ้าแม่เลือกที่จะทิ้งพ่อไปแล้วเก็บเงินเก็บไว้ก็คงไม่ล้มละลายแบบนี้ แต่แม่ไม่ยอมทิ้งเพราะสงสารพ่อ สรุปคือครอบครัวจขกท.ล้มละลาย ธนาคารยึดบ้าน ยึดรถ ไม่เหลืออะไรเลยค่ะ จขกท.อยู่ ม.6 ก็ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ไม่สามารถต่อมหาลัยได้เพราะค้างค่าเทอม ต้องทำงานที่ 7-11 เพื่อเก็บเงินไปจ่ายค่าเทอมที่ติดไว้เพื่อเอาวุฒิ ม.6 มาทำงาน

สำหรับเรื่องบ้าน ญาติจขกท.ใช้หนี้ค่าบ้านให้กับทางธนาคารทั้งหมด (เป็นน้องสาวย่าของจขกท.ที่ใช้หนี้ให้เพราะเขากลัวย่าจขกท.ไม่มีที่อยู่) เลยทำให้ตอนนี้ จขกท.ยังพอมีที่อยู่เพราะญาติอนุญาตให้อยู่ได้ (บ้านก็กลายเป็นชื่อญาติค่ะ) และเขาบอกว่าถ้าจขกท.มีงานที่มั่นคงแล้วค่อยใช้ให้เขาทีละน้อยก็ได้ ซึ่งจขกท.ก็ตกลงค่ะ เพราะสงสารย่าดกับปู่ด้วย ไม่อยากให้ต้องไปอยู่ห้องเช่า

ต่อมาเรื่องหนี้ต่างๆ พ่อจขกท.มีบัตรเครดิตเยอะมาก วงเงินก็สูงมากเช่นกัน เลยเป็นหนี้เกือบๆ 2 แสนและเป็นหนี้รายวัน (หนี้นอกระบบ) เกือบๆ 3 แสนเพราะต้องกู้มาหมุน และหนี้อื่นๆอีก ที่เป็นของคนรู้จักประมาณ 5 แสน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขายที่ดินที่มีทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ (จริงๆมันเป็นที่ดินเกือบหลายไร่แต่ห่างไกลถนนใหญ่เลยมีราคาถูก + ช่วงนั้นคนไม่ค่อยใช้เงิน และบ้านเราร้อนเงิน คนที่มาขอซื้อ ซื้อได้แค่ไหนเราก็ขายแค่นั้นค่ะ)

หลังจากใช้หนี้ก้อนนั้นหมดแล้ว ปัญหาอยู่ที่หนี้เรื่องรถค่ะ คือรถของบ้านจขกท.ราคาล้านกว่าบาท ซึ่งตอนนั้นพ่อแม่ผ่อนไปแล้ว เหลือประมาณ 8 แสนบาท ทีนี้พ่อเลยเอาไปขายต่อให้คนรู้จักเพราะส่งไม่ไหว แต่คนรู้จักคนนั้นกลับเอาไปขายต่อที่ลาว ทำให้พ่อต้องใช้หนี้เต็มจำนวนที่เหลือ (อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะ แต่เหมือนว่าถ้าคืนรถแล้วจะไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนหนี้ที่ค้างไว้) ทีนี้คนค้ำประกันเป็นคนใกล้บ้าน พ่อจขกท.ไม่มีจ่ายเลย ตอนนั้นไม่มีเงินกินข้าวด้วยซ้ำ จขกท.เองก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและย่ากับปู่ ของในบ้านก็ขายไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย เพราะฉะนั้นคนค้ำประกันเลยต้องจ่ายแทน ทั้งหมด 8 แสนกว่าบาท

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คนค้ำประกันมาหา จขกท.ที่บ้านและมาร้องไห้ บังคับให้จขกท.เซ็นต์ใช้หนี้ในเอกสารแทนพ่อของ จขกท.โดยต้องใช้ภายในเวลา 10 ปี ซึ่งในสัญญาเขารวมดอกเบี้ยไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าเป็นค่าเสียเวลาและเขาก็ต้องยืมคนอื่นเหมมือนกัน แต่เราไม่ยอมเซ็นต์ค่ะ เพราะยังไงเราก็ไม่มีปัญญาใช้หนี้นั้นได้อยู่แล้ว เงินเดือนที่ได้จาก 7-11 ก็ประมาณ 9 พันปลายๆ แค่จะใช้เลี้ยงตัวเองยังไม่พอเลย ส่วนพ่อแม่เราขายของตามตลาดนัด ได้กำไรวันละ 400-700 บาท ซึ่งเขาไม่ได้อยู่กับเราแล้วนะคะเพราะเจ้าหนี้ทวงหนี้ที่บ้านทุกวัน เขาก็ต้องไปทำงานที่จังหวัดอื่น ค่ากินค่าเช่าบ้านก็หมดไปแล้ว ส่วนเงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายเขาก็เก็บไว้แล้วส่งให้ย่ากับปู่ค่ะ ส่วนพี่สาวเราเขาไม่รับผิดชอบอะไรเลยค่ะ เขาหนีไปทำงานที่จังหวัดอื่น ส่งให้พ่อแม่ 500 บาท/เดือน และเขาพูดชัดเจนว่าจะไม่รับผิดชอบหนี้ของใครทั้งนั้น

อยากถามหลายๆคนที่มีความรู้ว่า การที่เราไม่เซ็นต์เอกสารนี้เราผิดกฎหมายมั้ยคะ แล้วเราจะโดนฟ้องรึป่าว พูดตามตรงว่าเราไม่มีปัญญาจริงๆ เงินจะกินข้าวแต่ละวันยังแทบจะไม่เหลือเลย ต้องกินแค่มาม่ากับไข่สลับกันไป แล้วเราก็ไม่อยากใช้หนี้ก้อนหนี้ให้กับพ่อด้วยค่ะ เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความรับผิดชอบของเราเลยสักนิด เราไม่ใช่คนเล่นพนัน เราไม่เคยใช้เงินฟุ่มเฟือยเลย แต่ทำไมคนที่รับกรรมต้องกลายเป็นเราด้วย อยากถามอีกว่าถ้าเราไม่ใช้หนี้ให้พ่อแม่จะผิดไหมคะ ในใจ้รารู้สึกว่ามันไม่ผิดและเราไม่คิดจะใช้ด้วย แต่ทางญาติๆเขากดดันให้เราใช้หนี้แทนพ่อกับแม่เพราะเขารู้จักกับคนค้ำประกัน และเขาเอาแต่ด่าเราว่าทำไมเราไม่ใช้หนี้สักที หาเงินเป็นแล้ว

ตอนนี้จิตใจแย่มากเลยค่ะ เมื่อปีที่แล้วเรายังเป็นเด็ก ม.6 ที่ยังคิดว่าจะต่อมหาลัยไหนดี แต่พอมาเป็นปีนี้กลับต้องมาทำงานและรับรู้เรื่องราวหนี้สินครอบครัวที่ไม่เคยได้รับรู้จากพ่อแม่ เราไม่อยากใช้หนี้เลยค่ะ แค่ตอนนี้ก็เหนื่อยมากๆแล้ว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อย่าเซ็นเอกสารใดๆทั้งสิ้นค่ะ หนี้นั้นเป็นหนี้ของพ่อแม่ที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายเค้าเอากะพ่อแม่น้องไม่ได้ก็จะเอาจากคนค้ำประกัน คนค้ำต้องไปตามเอาจากพ่อแม่เอง น้องไม่ได้มรดกใดๆจากพ่อแม่ก็ไม่ต้องใช้หนี้ ถ้าพ่อแม่ตายแล้วให้มรดกน้องกรณีนี้น้องถึงต้องใช้หนี้แทนให้พ่อแม่ น้องให้เจ้าหนี้เค้าไปตามที่พ่อแม่เองให้ที่อยู่เบอรติดต่อไปเพราะพ่อแม่ต้องรับผิดชอบหนี้ตัวเองก่อ เจ้าหนี้จะได้ไม่มาตามที่น้อง น้องถือว่ามีครอบครัวใหม่ของตัวเองคือน้องกะตายายแล้วควรรับผิดชอบ3ชีวิตให้รอด ชีวิตพลิกผลันช่วงนี้ทำให้ลำบากมากแต่จงสู้ต่ออย่างมีสติ ขยันหาเงินเรียนม.เปิดทำงานไปด้วยจะได้วุฒิมาหาเงินเพิ่มดูแลตายายได้ ชีวิตมีลงจะมีวันขึ้นสู้เข้าไว้วันนึงจะเป็นขาขึ้นของน้อง ตั้งเป้าหมายชีวิตแล้วทำมันให้ได้ด้วย2มือน้องเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่