หลายปีก่อนได้เคยมีโอกาสได้ไปจังหวัดนครพนม แล้วไปเข้าไปเที่ยวในพิพิธภัณฑ์ฯ เห็นภาพงานเทศกาลไหลเรือไฟ และขั้นตอนกว่าจะได้เรือไฟมาแต่ละลำ รู้สึกว่าเป็นงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่มาก ประกอบกับได้ไปนั่งกินปลาจุ่มที่ร้านหนึ่ง แล้วเจ้าของร้านก็มาเล่าเรื่องงานไหลเรือไฟให้ฟังว่างานนี้เป็นงานที่ใหญ่ที่สุด และมีผู้คนมาเที่ยวที่จังหวัดนครพนมมากที่สุดในช่วงปี ทำให้คิด คิด ไว้ในใจว่าถ้ามีโอกาส เราจะต้องลองมาชมงานไหลเรือไฟนี้ให้ได้ แล้วปีนี้พอดีว่ามีการจัดงานในวันศุกร์ด้วยซึ่งสามารถหยุดต่อเนื่องเสาร์ อาทิตย์ได้อีก เราเลยได้มีโอกาสมาดูประเพณีไหลเรือไฟที่โด่งดังของจังหวัดนครพนมนี้...เพียงคนเดียว…(ไม่มีผู้ร่วมขบวนการกับเราเลย)


ภาพที่ถ่ายออกมานี้ ถ่ายด้วยกล้องมือถือทั้งหมด ไม่ได้มีการแต่งภาพใด ๆ ยกเว้นการใส่ลายน้ำ ซึ่งอาจไม่สวยงามเท่าภาพที่ตาเห็น
.
ประเพณีไหลเรือไฟปีนี้จัดแบ่งออกเป็น 3 วัน เราได้มีโอกาสได้มาชมวันสุดท้ายพอดี เราปั่นจักรยานมาจากที่พัก The S Villa กว่าจะมาถึงจุดที่เค้าปล่อยเรือไฟก็ราวเกือบ 2 กิโลเมตร ซึ่งตลอดเส้นทางที่เราปั่นผ่านมามีของขายเพียบ เป็นถนนช้อปปิ้ง ถนนสายของกินที่ยาวมาก 




ตัดภาพไปช่วงก่อนเริ่มงานเลยแล้วกัน เราจะเห็นได้ว่ากว่าจะมาเป็นเรือไฟลำหนึ่งนอกจากขั้นตอนการทำเรือไฟแล้ว ยังต้องใช้ดวงไฟอีกนับพัน นับหมื่นดวงขึ้นไปประดับ ซึ่งขั้นตอนก็ต้องมาร่วมมือกันตรงนี้


ผู้ตระเตรียมงานทุกคนมานั่งล้อมวงกินอาหารกัน เพื่อให้มีแรงโชว์ผลงานขั้นสุดท้ายของแต่ละอำเภอให้เต็มที่สุดฝึมือ


ไม้เอาที่เอาไว้ใช้จุดไฟ


มุมนี้ เห็นตอนแรกนึกว่าทำบั้งไฟพญานาค...ดีนะมีป้ายปักไว้ว่า เป็นหน่วยทำกระทงสาย ลองสังเกตดี ๆ ตอนไหลเรือไฟ จะมีดวงไฟเล็ก ๆ ลอยอยู่บนน้ำด้วย ก็คือ ฝีมือของพวกพี่ ๆ นี่เองค่ะ


บรรยากาศตอนฟ้ายังไม่มืด แต่ลมแรงมาก และมีทีท่าว่าฝนจะตก...แต่สุดท้ายแล้วไม่มีฝนตกเลยค่ะ


ช่างฝีมือเอาดวงไฟดวงน้อย ไปบรรจงประดับตามลายที่วางไว้