เที่ยวทะเลหน้าฝน มันคงฟังดูแปลกๆ ใช่ไหม.. แต่เพราะเกาะช้าง ไม่ได้มีแค่ทะเล 

ตอนแรกตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปเกาะช้าง หรือ เกาะกูด แต่พอหาข้อมูล ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเกาะช้างมีกิจกรรมที่หลากหลายกว่า เลยเลือกไปเกาะช้าง 
เราไป 3 วัน 2 คืน พักที่เกาะวันเสาร์-วันจันทร์ (หากใครไม่ติดเรื่องเวลาและชอบความประหยัด แนะนำให้ไปช่วง จันทร์ ถึง พฤหัสบดี เพราะจะที่พักดี แต่ราคาถูก)  

เราไปเมื่อวันที่ 12-14 กันยายน ที่ผ่านมา เกาะช้างเงียบมากๆๆๆๆ คงเกิดจากผลกระทบของโควิด ถ้าใครพอจะมีเวลาก็ออกไปเที่ยวกันเยอะๆนะคะ ไทยช่วยไทย แต่อย่าลืมใช้ชีวิตแบบ New normal กันนะคะ

วันนี้จะพาไปทัวร์ เกาะช้าง  กันนะคะ พร้อมแล้วไปโลดดดดดด 
ปล. ใช้กล้องมือถือถ่ายภาพ ภาพอาจไม่ชัด ไม่ได้มีการแต่งภาพ  ต้องขออภัยด้วย เพราะไม่เก่งด้านนี้จริงๆ แต่อยากมาแบ่งปันข้อมูลค่าาาา

เราออกเดินทางคืนวันที่ 11 ออกจาก กทม ประมาน 4 ทุ่มกว่าๆ ตั้ง GPS ไป "ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ" ระยะทางประมาน 320 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถ ประมาน 4 ชั่วโมงกว่าๆ ขับรถไปเองครั้งแรก ฝนตกหนัก ไฟเกาะกลางถนนไม่ค่อยมี เลยไม่รู้ว่าตัวเองขับรถผ่านจังหวัดไหนบ้าง แต่ด้วยบุญที่ทำมา GPS พาไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

เราขับไปใกล้ๆกับท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ตอนนั้นเป็นเวลาตีสองครึ่ง ไม่คุ้นทาง จะหาปั้มน้ำมันจอดรถนอนรอเวลาขึ้นเรือก็หาไม่เจอ จะไปจอดรถนอนหน้า 7-11 ก็จะไม่ค่อยปลอดภัย เพราะเราไปกันกับเพื่อนแค่ผู้หญิงสองคน เลยลองขับรถเรื่อยๆ โชคดีที่ไปเจอที่พัก จำชื่อที่พักไม่ได้ ราคาห้อง 500 บาท ห้องสะอาดดีค่ะ  



เป็นบรรยากาศตอนเช้า ตื่นมาเจอวิวนี้ อากาศดีค่ะ

ออกจากที่พัก ไปท่าเรือค่ะ มาเช้าเลยไม่ได้รอคิวนาน รอแค่เรืออย่างเดียว 
เราใช้บริการของ ท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ราคา 280 บาท ขาเดียว ( รถ 1 คัน ผู้โดยสาร 2 คน )



ใช้เวลาไม่นาน ไม่ถึง 30 นาที ก็ข้ามมาถึงเกาะช้างแล้ว 

พอลงจากเรือ จะมีตัวเลือกให้นะ ว่าจะ เลี้ยวซ้าย หรือ เลี้ยวขวา เพราะเกาะช้างไม่สามารถขับรถวนรอบเกาะได้ รู้มาว่าถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นออกแนวธรรมชาติ แต่เลี้ยวขวาจะเป็นแนวเมือง หน่อยๆ  เราเลือกเลี้ยวขวา เพราะที่พักอยู่ทางนั้น ไว้มีโอกาสจะไปอีก เดี๋ยวลองเลี้ยวซ้ายดูเด้อ

ขับไปได้ไม่นานก็หิวแล้ว เลยแวะร้านข้าวข้างทาง ชื่อร้านว่า "ร้านเจ้กลอย อาหารตามสั่ง"  ให้เยอะเลยค่ะ  ต้มยำให้กุ้งเยอะมาก กุ้งตัวโต หมดนี้ 190 บาท


อิ่มท้องแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าไปที "ช้างชุติมันต์ทัวร์" เป็นปางช้างที่อยู่ในหุปเขา รถที่เราขับ เป็นรถเก๋ง แรงไม่ค่อยเยอะ ขับขึ้นไปในปางช้างไม่ได้ จอดไว้แถวปากทาง ที่ปางช้างมีบริการรถรับ-ส่ง ฟรีค่ะ



ช้างที่พาไปทัวร์วันนี้ชื่อ ป๊อปปี้ เป็นช้างเพศเมีย อายุ 15 ปี ขี้เล่นมากค่ะ ขี้แกล้งด้วย แวะกินตลอดทาง น้องเดินไป กินไป อึไป แล้วน้องก็ตดเสียงดังมากด้วย 555+

เดินไปได้สักพักฝนตกค่ะ แต่ไม่เป็นไร เพราะไหนๆเราก็จะไปเล่นน้ำกันอยู่แล้ว 

น้ำใสมาก และน้ำก็เย็นมากๆ ชื่นใจค่ะ ได้พักผ่อนจริงๆ 

ทัวร์ขี่ช้าง + พาช้างอาบน้ำ ใช้เวลาประมาน 2 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 900 บาท/คน 
ใครมีเวลา แนะนำเลยนะคะ มันดีกว่าที่คิด มันดีต่อหัวใจ จริงๆ ได้ใช้เวลาบนหุบเขา เงียบจนได้ยินเสียงธรรมชาติ เสียงน้ำตก ที่สำคัญได้อยู่กับช้างน้องช้างน่ารักมากแล้วคุณจะหลงรักช้าง 

หลังจากอยู่กับช้างและธรรมชาติจนหนำใจแล้ว เราก็ไป Check in เข้าที่พักกันเลยค่ะ 

คืนแรกพักที่ "Mercure Koh Chang Hideaway" ตั้งอยู่อ่าวใบลาน จองได้ในราคา 1031 บาท ไม่รวมอาหารเช้า และไม่ได้ห้องติดทะเล นะคะ แต่ตัวโรงแรมอยู่ติดหาด จากห้องเดินไปหาด แปปเดียวค่ะ 5 นาทีถึงหาดเลย

ทางเข้า โรงแรมค่ะ 


Lobby ของโรงแรม


ห้องพักน่ารักดีค่ะ ไม่เล็กจนเกินไป ห้องน้ำก็กว้างค่ะ แต่ห้องที่เราจองไม่มีอ่างอาบน้ำนะคะ

โรงแรมมีสระว่ายน้ำ 2 สระ 

เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอชายหาดค่ะ แต่ทรายที่นี่สีไม่ขาว และไม่ค่อยละเอียด  แต่รวมๆคือดี

ตอนที่ไป ..ช่วงเย็นที่โรงแรมจะจัดโปรเครื่องดื่ม 1 แถม 1 นะคะ  ถ้าใครไม่อยากออกไปไหน ก็สั่งอาหาร + เครื่องดื่ม นั่งชิว ริมทะเลได้เลย



น้องหมาก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเช่นกันค่ะ  

เดินเล่นเสร็จ เราก็ขับรถไปหาร้านกินข้าว ถาม พนักงาน เขาแนะนำร้านมาค่ะ  "ชื่อร้านอาหาร ชาวเล ซีฟู๊ด" อยู่หมู่บ้านชาวประมง  ราคาแอบแรง เพราะว่าให้ค่อนข้างน้อย แต่ให้อภัย เพราะรสชาติอาหารอร่อยค่ะ 

สั้ง ไป 2 อย่าง ข้าว 2 จาน น้ำเปล่า 1 ขวด หมดไป 485 บาท จ้า 



กินข้าวอิ่มแล้ว ก็กลับมาดื่ม เครื่องดื่มเบาๆ ตามสไตล์สาวๆ  



หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ กับคืนแรก ค่ะ  

พรุ่งนี้เช้า ไว้มารีวิว ใหม่นะคะ