ก่อนอื่นอยากจะบอกว่าเราไม่ใช่ผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์และเราก็ไม่ได้คาดหวังหรือจะต้องครองรักกันเหมือนคนทั่วไปนะ เรื่องมีอยู่ว่าก่อนหน้านี้เราเจอคนต่างชาติคนหนึ่ง แล้วก็คุยกันเรื่อยมาทุกวัน จนเรามีความรู้สึกว่ามันคุยกันเกินเลยมากกว่าเพื่อนละ เอาง่ายๆ คบกันเป็นเพื่อนจะเชิง friend and benefit ก็ไม่ใช่ บางวันก็บอกรักกัน คิดถึงกัน ชาวต่างชาติที่เราคุยนี่เขาเป็นชายแท้ที่ไม่เปิดเผยตัวว่าใจหนึ่งเขาชอบผู้ชายเหมือนกัน (งงปะ) เคยถามเขานะว่าทำไมไม่เปิดตัวว่าเป็น เขาตอบว่าเขาไม่สามารถเปิดตัวได้ ด้วยทางบ้านและสังคมเพื่อนผู้ชายของเขา เอาง่ายๆ คืออาย และกลัวเพื่อนผู้ชายล้อ เราถามต่อไปว่า แล้วไม่คิดจะมีแฟน ครอบครัวหรอ เขาตอบว่า ไม่อยากมี คือเขาอยู่โสดมานานมาก จนโลกส่วนตัวสูง เขายังบอกอีกว่า เราคบกันเป็นเพื่อนกันนะ คอยดูแลกัน แต่อย่าทิ้งกันไป พอคุยมาเดือนหนึ่ง ด้วยการงานของเขามันไม่ค่อยมีเวลามาก คือเขาเป็นวิศวะอ่ะ เราก็เลยคุยกันน้อยลง บางวันเรายอมรับว่าเรางอแงบ้าง เขาก็โทรมาง้อทุกที จนเรารู้สึกว่าเราผิด เราถึงขั้นบอกไปนะว่าจะไม่คุยละนะ แต่เขาก็ตื้อทุกที อันที่จริงเราก็รู้นะว่าเขาไม่ว่างจริงๆ เพราะมีหลายโครงการเข้ามาเยอะ บางทีเขาอยู่ที่ทำงานยังเปิดกล้องให้ดูว่าเขาทำงานนะและยุ่ง ซึ่งก็จริง บางวันก็เข้างานกลางคืนก็บ่อย เราเลยถามตรงๆ กับเขาไปว่า ที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน ทำไมต้องบอกรัก บอกคิดถึง ด้วย บางทีก็มี kiss บ้าง นี่คือเพื่อนเขาทำกันหรอ เราก็ย้ำถามไปอีกว่า ตกลงจะเป็นเพื่อนหรือแฟน เขาก็ยังบอกว่า best friend หรือ dear friend เราก็แอบน้อยใจนะ แต่ใจหนึ่งก็คิดทางบวกว่าเขาไม่ยอมรับความคิดตัวเอง ที่เราเล่าในนี้เราอยากรู้ว่ามีใครเจอแบบเราบ้าง เอาตรงๆ นะ เรางงกับความสัมพันธ์แบบนี้อ่ะ หรือเขาไม่พร้อมที่จะกล้ายอมรับตัวเอง หรือเขาอาย หรือเขาเห็นเราแค่หลงชั่วคราว หรือเขาแค่เหงา อ้อลืมบอกไปเขาอายุ 32 ปีละคับ เราอายุก็พอๆ กับเขาแต่เราไม่งี่เง่านะเข้าใจวัยทำงาน เขาเป็นชาวพุทธเคร่งมากนะ
งงกับความสัมพันธ์แบบนี้ (เหมือนน้ำเน่า) ในวัยทำงานแล้ว