แอ่วนันทบุรีศรีนครน่าน
ตรีทิวาวานทวิกาลราตรี
กลางคีรีในวัสสานะนที
แลของดีโบราณบ้านไทลื้อ
บ่อสินเธาว์เก่าแก่ควรรักษา
วัฒนาอารามเล่าเลื่องชื่อ
ปู่ย่าม่านกระซิบรักโลกันต์บรรลือ
กาลหนึ่งถือว่าเชยชมสมใจเอย
...บันทึกการเดินทางของฉัน ณ วันที่10 -12 กันยายน 2563...
เรามีโอกาสได้ไปแอ่วจังหวัดน่าน อยู่ในทางตอนเหนือของประเทศไทยเรานี่เอง ซึ่งครั้งนี้เราได้ร่วมเดินทางไปกับ Pantip และททท. ในทริป “น่าน เนิบ เนิบ Love Green Season” เนื่องด้วยอยู่ในช่วงฤดูฝนของไทยเราก็จะมีความเขียวๆ ชื้นๆ เย็นๆกันหน่อยเนอะ งานนี้เราก็เตรียมความพร้อมสำหรับร่างกายกันหน่อยไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า หน้า ผม ร่ม ยา จิปาถะเอาให้พร้อมทุกอย่างก่อนเลย

10.09.2563

จุดเริ่มต้นการเดินทาง...เรานัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง ต้องรีบออกจากบ้านเช็คอินก่อนเครื่องออกด้วยนะ เครื่องจะออกเวลา07.40น. ถึงสนามบินน่านนครเวลา 08.55น. ตอนนี้Skipไปเลยจ้า ตื่นเต้นมาก ณจุดจุดนี้ ว่าไปถึงน่านแล้วฝนจะตกไหม จะได้เที่ยวไหมนะ แต่ก็ตัดปัญหานั้นไปได้เลยเพราะถึงน่านแล้วฝนก็ตกปรอยๆเล็กน้อยจนจางหายไปเลย มีแดดรำไรส่องประกายเบาๆ ยังเช้าอยู่เลยรถราก็บางตา อากาศก็ใสๆ จิตใจก็ผ่อนคลาย

#ลงทะเบียนรับของที่ระลึกจาก Pantip
ทริปนี้เราจะเดินทางท่องเที่ยวโดยรถตู้ซึ่งทาง ททท.จังหวัดน่านได้จัดเตรียมไว้ให้แล้ว และได้รับเกียรติจากไกด์กิตติมศักดิ์ ที่มาต้อนรับพวกเราที่สนามบิน รวมถึงพาพวกเราเที่ยวชมเมืองน่านในครั้งนี้โดยพี่ปู เริ่มจากไปดูอะไรสวยๆงามๆกันเลยดีกว่า เดินตามเส้นทางในแผนที่นี้เลยจ้า
หอศิลป์ริมน่าน (Nan Riverside Arts Space)

โฮงเฮือนเฮาฮักษาไว้เป็นศาสตร์ศิลป์
ตราบจนสิ้นวันคืนตื่นมามิเลือนหาย
เกิดร่วมเรียงเคียงคู่ยังคงอยู่มิมลาย
สุริยันต์เคลื่อนคลายกลายจัทราแทน
สีเส้นสรรค์สร้างสมเทียบเลียนเสียง
สื่อสอดเรียงเรื่องราวไม่หวงแหน
กลายกึ่งกลางจักรวาลรวมที่แกน
สุขสุดแสนแดนศิลปินถิ่นน่านเมือง

หอศิลป์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน จัดแสดงศิลปะภาพเขียนเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบเข้ามาชม ยังมีงานฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระกษิฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินจากที่ต่างๆที่วนเวียนกันมาเรื่อยๆในทุกเดือน ชมภาพสวยๆที่เราชอบไปก่อนละกัน เก็บมาฝากพอหอมปากหอมคอ

ถ้าใครชื่นชอบจริงๆก็เข้าไปชมเองจะได้อรรถรสกว่าเนอะ Nan Riverside Arts Space เป็นแหล่งรวมงานศิลป์ดำเนินการจัดโดยอาจารย์วินัย ปราบริปู ศิลปินชาวพื้นถิ่นน่าน ที่รักงานศิลปะสร้างสรรค์ ได้รวบรวมผลงานของท่านเอง หอศิลปะขนาดใหญ่ มองเห็นอาคารหลังใหญ่บนหน้าจั่วจะมีรูปพระอาทิตย์และพระจันทร์ ซึ่งอาจารย์บอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของการได้อยู่ร่วมกันร่วมสมัยมีโอกาสได้ชมศิลปะร่วมกัน

หอศิลป์ที่เราเข้ามาชมนี้ได้รับการปรับปรุงเกือบเดือนแล้ว มีการขยายพื้นที่ภายใน มีการแบ่งโซนเพื่อรองรับงานศิลปะและผู้เข้าชม โดยฝั่งขวาจะเป็นภาพของอาจารย์วินัยเอง ฝั่งซ้ายจะเป็นของศิลปินที่เวียนกันมา และตรงโซนกลางมีผนังกั้น เป็นงานฝีพระหัตถ์ของพระเทพ นอกจากภายในหอศิลป์แล้วยังมีการจัดสถานที่ให้ร่มรื่น มีที่จอดรถ มีจำหน่ายของที่ระลึก หรืออยากนั่งจิบกาแฟเครื่องดื่มและอาหารก็มี
อีกฝั่งของหอศิลป์ยังมี เฮือนหนานบัวผัน เป็นการจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายจิตกรรมฝาผนังของศิลปินชาวล้านนา ชื่อว่าหนานบัวผัน จากการเล่าของอาจารย์วินัยว่าเป็นผู้เขียนภาพจิตกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์และในวิหารวัดหนองบัว
หอศิลป์ริมน่าน ตั้งอยู่ที่122 หมู่ที่2 ตำบลบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เปิดทำการทุกวัน(ปิดทุกวันพุธ) เวลา09:00น.-17:00น. มีค่าเข้าชมคนละ 20บาท โทร 081-9892-912,054-798-046
วัดหนองบัว

เเว่วสะล้อซอซึงดื่อดี่ดึ่งดังลอยลม
ชวนน้องชมลายฮูปแต้มแต่งฮิมฝา
กี่กะตุกกุกกักก้องกังวาลมา
สอดประสาเส้นสีสันลายน้ำไหล
เข็นฝ้ายปุยขาวนุ่มนวลดั่งเนื้อน้องใย
โฮงเฮือนใต้ถุนถิ่นแผ่นดินเฮา

ได้ยินเสียงดนตรีไทยแว่วแผ่วๆมา จึงเดินไปตามเสียงนั้น จนเห็นที่มาของเสียงว่าเป็นคุณลุงคุณป้ากำลังบรรเลงดนตรีไทยอยู่กระท่อมหน้าวัดนี่เอง วันนี้อากาศสดใด แสงแดดอ่อนๆวัดก็ร่มรื่น ไม่ค่อยมีผู้คนมากเท่าไหร่ มาถึงวัดอันดับแรกก็ต้องไหว้พระกันก่อน และชมจิตกรรมฝาผนังที่อาจารย์วินัยได้กล่าวขวัญถึงว่าเป็นผลงานของหนานบัวผัน
ภาพบนฝาผนังเป็นภาพสี สื่อถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน วัฒนธรรม การแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของคนในสมัยนั้นๆ แต่น่าเสียดายเราไม่รู้เลยว่าภาพที่เขียนส่วนใหญ่แต่ละภาพมีความหมายอย่างไรบ้าง เพราะผู้ที่เคยบรรยายเรื่องต่างๆจากภาพจิตกรรมนี้ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว นี่เป็นคำบอกเล่าของคุณตาที่มาต้อนรับเรา และท่านก็แนะนำส่วนที่ท่านทราบเกี่ยวกับฮูปแต้มของท่านไปเรื่อย รวมถึงวัฒนธรรมของชาวบ้านในปัจจุบัน

ชมภาพพอเป็นสีสันสบายอารมณ์แล้วก็ออกมานอกวิหาร วัดหนองบัวเป็นวัดที่ร่มรื่นอีกหนึ่งวัดเลยแหละ ทั้งสะอาดสอ้านตลอดทางเดิน มาส่วนด้านหลังวิหารมีบ้านไม้ไทลื้อโบราณ ยกถุนไม่สูงมากมีกลุ่มคุณย่ากำลังทอผ้าลายพื้นเมืองอยู่ เอ้าจุดนี้มีของเล่นอีกแล้วในระหว่างที่เพื่อนๆกำลังดูโน่น นั่น นี่อยู่เราก็ถือโอกาสไปหยิบๆจับๆอุปกรณ์ปั่นฝ้าย และแล้วก็มีคุณย่าใจดีมาทำเส้นด้ายตั้งแต่ตีดอกฝ้าย เอาเม็ดออก ม้วนหางฝ้าย และนำไปปั่นให้เป็นเส้นด้าย เพื่อที่จะอาไปทอเป็นผืนผ้าต่อไป ชาวบ้านส่วนใหญ่จะทอผ้าเพื่อขายเป็นรายได้จุลเจือครอบครัว รวมถึงการทำเกษตรด้วย
วัดตั้งอยู่ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เปิดทุกวันเลย
วัดศรีมงคล(ก๋ง)

แดดอ่อนๆแสงนวลๆเริ่มมาละ อากาศก็จะอบอ้าวเล็กน้อย เราก็มาถึงวัดศรีมงคล วัดหลวงปู่ก๋งมีชื่อเสียงในแถบนั้น ตั้งอยู่ตำบลนายม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน อยู่ติดถนนใหญ่มีลานจอดรถข้างวัดกว้างๆ จอดได้สบายแล้วเดินเข้าวัดมองไปทางขวามือก็เจอวิหารเข้าไปไหว้พระก่อนเลย ภายในวิหารมีภาพสีวิจิตรสวยงามแต่เราไม่ได้ชมอะไรได้ละเอียดเลย เพราะตื่นตากับบรรยากาศด้านนอกอยู่ มองเห็นมุมนั่นนี่น่าไปเซลฟี่อีกแล้วจ้า รอบๆบริเวณวิหารก็จะมีการจัดแสดงของเก่าโบราณ มีร้านขายของเครื่องดื่มมากมายหลากหลาย

เราเดินไปทางด้านหลังวิหารก็จะเห็นลานชมวิวทิวทัศน์ที่มีฉากเป็นภูเขาลูกใหญ่ๆ หรือที่รู้จักคุ้นเคยกันดีนามว่า ดอยภูคานั่นเอง เป็นทิวเขาน้อยใหญ่ ด้านล่างของวิหารก็มีท้องนาเขียวขจี มีซุ้มต่างๆขายของ และจัดไว้ให้นั่งพักผ่อนชมท้องทุ่งนาและถ่ายรูปสวยๆกันมากมาย ดูดดื่มบรรยากาศให้อิ่มอกอิ่มใจแล้วไปต่อ

...มุมนี้ก็ดี มุมนั้นก็ได้...

แซ่บอีหลีฮิมดอยคา(สาขา2อ.ปัว)
บ่ายหน่อยๆกระเพาะก็เริ่มทำงาน ร้านเด็ดร้านอร่อยพี่ปูก็ยินดีนำเสนอร้านนี้เลยจ้า แซ่บอีหลีฮิมมดอยคา สาขา2อ.ปัว ไปง่ายมาง่าย อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลพระยุพราชอำเภอปัวนี้เอง จอดรถหน้าร้านลงมาสั่งอาหารได้เลย มีเมนูตำสารพัดนึก เมนูยำเยอะแยะ รสชาดแซ่บนัว ชอบทานแบบมีปลาร้าหรือไม่มีก็สั่งได้

.... น่าน แน่น แน่น เริ่มลงมือได้จ้า ....

ขอปลาร้านัวๆจัดมาหลากหลายตำ ทั้งตำปลา ตำปู ตำไทย ตำข้าวโพด ยำกุ้ง หอยแครง พูดมาก็เริ่มหิวมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปนี้เราจะเริ่มกระบวนการย่อยสลายอาหารบนโต๊ะ ให้เป็นสารอารหล่อเลี้ยงร่างกายให้แข็งแรง ทานไปคุยไปฝนก็ตกลงมาอีกครา รอบนี้หนักหน่อยทานกันต่อ ปล่อยให้ภาพเล่าเรื่องละกันนะคะ
[SR] ๓ทิวา๒ราตรีกาล ท่องเมืองน่าน ในวัสสานะฤดู
ตรีทิวาวานทวิกาลราตรี
กลางคีรีในวัสสานะนที
แลของดีโบราณบ้านไทลื้อ
บ่อสินเธาว์เก่าแก่ควรรักษา
วัฒนาอารามเล่าเลื่องชื่อ
ปู่ย่าม่านกระซิบรักโลกันต์บรรลือ
กาลหนึ่งถือว่าเชยชมสมใจเอย
...บันทึกการเดินทางของฉัน ณ วันที่10 -12 กันยายน 2563...
เรามีโอกาสได้ไปแอ่วจังหวัดน่าน อยู่ในทางตอนเหนือของประเทศไทยเรานี่เอง ซึ่งครั้งนี้เราได้ร่วมเดินทางไปกับ Pantip และททท. ในทริป “น่าน เนิบ เนิบ Love Green Season” เนื่องด้วยอยู่ในช่วงฤดูฝนของไทยเราก็จะมีความเขียวๆ ชื้นๆ เย็นๆกันหน่อยเนอะ งานนี้เราก็เตรียมความพร้อมสำหรับร่างกายกันหน่อยไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า หน้า ผม ร่ม ยา จิปาถะเอาให้พร้อมทุกอย่างก่อนเลย
10.09.2563
จุดเริ่มต้นการเดินทาง...เรานัดเจอกันที่สนามบินดอนเมือง ต้องรีบออกจากบ้านเช็คอินก่อนเครื่องออกด้วยนะ เครื่องจะออกเวลา07.40น. ถึงสนามบินน่านนครเวลา 08.55น. ตอนนี้Skipไปเลยจ้า ตื่นเต้นมาก ณจุดจุดนี้ ว่าไปถึงน่านแล้วฝนจะตกไหม จะได้เที่ยวไหมนะ แต่ก็ตัดปัญหานั้นไปได้เลยเพราะถึงน่านแล้วฝนก็ตกปรอยๆเล็กน้อยจนจางหายไปเลย มีแดดรำไรส่องประกายเบาๆ ยังเช้าอยู่เลยรถราก็บางตา อากาศก็ใสๆ จิตใจก็ผ่อนคลาย
#ลงทะเบียนรับของที่ระลึกจาก Pantip
ทริปนี้เราจะเดินทางท่องเที่ยวโดยรถตู้ซึ่งทาง ททท.จังหวัดน่านได้จัดเตรียมไว้ให้แล้ว และได้รับเกียรติจากไกด์กิตติมศักดิ์ ที่มาต้อนรับพวกเราที่สนามบิน รวมถึงพาพวกเราเที่ยวชมเมืองน่านในครั้งนี้โดยพี่ปู เริ่มจากไปดูอะไรสวยๆงามๆกันเลยดีกว่า เดินตามเส้นทางในแผนที่นี้เลยจ้า
หอศิลป์ริมน่าน (Nan Riverside Arts Space)
โฮงเฮือนเฮาฮักษาไว้เป็นศาสตร์ศิลป์
ตราบจนสิ้นวันคืนตื่นมามิเลือนหาย
เกิดร่วมเรียงเคียงคู่ยังคงอยู่มิมลาย
สุริยันต์เคลื่อนคลายกลายจัทราแทน
สีเส้นสรรค์สร้างสมเทียบเลียนเสียง
สื่อสอดเรียงเรื่องราวไม่หวงแหน
กลายกึ่งกลางจักรวาลรวมที่แกน
สุขสุดแสนแดนศิลปินถิ่นน่านเมือง
หอศิลป์ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน จัดแสดงศิลปะภาพเขียนเพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบเข้ามาชม ยังมีงานฝีพระหัตถ์ของสมเด็จพระกษิฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินจากที่ต่างๆที่วนเวียนกันมาเรื่อยๆในทุกเดือน ชมภาพสวยๆที่เราชอบไปก่อนละกัน เก็บมาฝากพอหอมปากหอมคอ
ถ้าใครชื่นชอบจริงๆก็เข้าไปชมเองจะได้อรรถรสกว่าเนอะ Nan Riverside Arts Space เป็นแหล่งรวมงานศิลป์ดำเนินการจัดโดยอาจารย์วินัย ปราบริปู ศิลปินชาวพื้นถิ่นน่าน ที่รักงานศิลปะสร้างสรรค์ ได้รวบรวมผลงานของท่านเอง หอศิลปะขนาดใหญ่ มองเห็นอาคารหลังใหญ่บนหน้าจั่วจะมีรูปพระอาทิตย์และพระจันทร์ ซึ่งอาจารย์บอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของการได้อยู่ร่วมกันร่วมสมัยมีโอกาสได้ชมศิลปะร่วมกัน
หอศิลป์ที่เราเข้ามาชมนี้ได้รับการปรับปรุงเกือบเดือนแล้ว มีการขยายพื้นที่ภายใน มีการแบ่งโซนเพื่อรองรับงานศิลปะและผู้เข้าชม โดยฝั่งขวาจะเป็นภาพของอาจารย์วินัยเอง ฝั่งซ้ายจะเป็นของศิลปินที่เวียนกันมา และตรงโซนกลางมีผนังกั้น เป็นงานฝีพระหัตถ์ของพระเทพ นอกจากภายในหอศิลป์แล้วยังมีการจัดสถานที่ให้ร่มรื่น มีที่จอดรถ มีจำหน่ายของที่ระลึก หรืออยากนั่งจิบกาแฟเครื่องดื่มและอาหารก็มี
อีกฝั่งของหอศิลป์ยังมี เฮือนหนานบัวผัน เป็นการจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่ายจิตกรรมฝาผนังของศิลปินชาวล้านนา ชื่อว่าหนานบัวผัน จากการเล่าของอาจารย์วินัยว่าเป็นผู้เขียนภาพจิตกรรมฝาผนังที่วัดภูมินทร์และในวิหารวัดหนองบัว
หอศิลป์ริมน่าน ตั้งอยู่ที่122 หมู่ที่2 ตำบลบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เปิดทำการทุกวัน(ปิดทุกวันพุธ) เวลา09:00น.-17:00น. มีค่าเข้าชมคนละ 20บาท โทร 081-9892-912,054-798-046
วัดหนองบัว
เเว่วสะล้อซอซึงดื่อดี่ดึ่งดังลอยลม
ชวนน้องชมลายฮูปแต้มแต่งฮิมฝา
กี่กะตุกกุกกักก้องกังวาลมา
สอดประสาเส้นสีสันลายน้ำไหล
เข็นฝ้ายปุยขาวนุ่มนวลดั่งเนื้อน้องใย
โฮงเฮือนใต้ถุนถิ่นแผ่นดินเฮา
ได้ยินเสียงดนตรีไทยแว่วแผ่วๆมา จึงเดินไปตามเสียงนั้น จนเห็นที่มาของเสียงว่าเป็นคุณลุงคุณป้ากำลังบรรเลงดนตรีไทยอยู่กระท่อมหน้าวัดนี่เอง วันนี้อากาศสดใด แสงแดดอ่อนๆวัดก็ร่มรื่น ไม่ค่อยมีผู้คนมากเท่าไหร่ มาถึงวัดอันดับแรกก็ต้องไหว้พระกันก่อน และชมจิตกรรมฝาผนังที่อาจารย์วินัยได้กล่าวขวัญถึงว่าเป็นผลงานของหนานบัวผัน
ภาพบนฝาผนังเป็นภาพสี สื่อถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน วัฒนธรรม การแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์ของคนในสมัยนั้นๆ แต่น่าเสียดายเราไม่รู้เลยว่าภาพที่เขียนส่วนใหญ่แต่ละภาพมีความหมายอย่างไรบ้าง เพราะผู้ที่เคยบรรยายเรื่องต่างๆจากภาพจิตกรรมนี้ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว นี่เป็นคำบอกเล่าของคุณตาที่มาต้อนรับเรา และท่านก็แนะนำส่วนที่ท่านทราบเกี่ยวกับฮูปแต้มของท่านไปเรื่อย รวมถึงวัฒนธรรมของชาวบ้านในปัจจุบัน
ชมภาพพอเป็นสีสันสบายอารมณ์แล้วก็ออกมานอกวิหาร วัดหนองบัวเป็นวัดที่ร่มรื่นอีกหนึ่งวัดเลยแหละ ทั้งสะอาดสอ้านตลอดทางเดิน มาส่วนด้านหลังวิหารมีบ้านไม้ไทลื้อโบราณ ยกถุนไม่สูงมากมีกลุ่มคุณย่ากำลังทอผ้าลายพื้นเมืองอยู่ เอ้าจุดนี้มีของเล่นอีกแล้วในระหว่างที่เพื่อนๆกำลังดูโน่น นั่น นี่อยู่เราก็ถือโอกาสไปหยิบๆจับๆอุปกรณ์ปั่นฝ้าย และแล้วก็มีคุณย่าใจดีมาทำเส้นด้ายตั้งแต่ตีดอกฝ้าย เอาเม็ดออก ม้วนหางฝ้าย และนำไปปั่นให้เป็นเส้นด้าย เพื่อที่จะอาไปทอเป็นผืนผ้าต่อไป ชาวบ้านส่วนใหญ่จะทอผ้าเพื่อขายเป็นรายได้จุลเจือครอบครัว รวมถึงการทำเกษตรด้วย
วัดตั้งอยู่ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เปิดทุกวันเลย
วัดศรีมงคล(ก๋ง)
แดดอ่อนๆแสงนวลๆเริ่มมาละ อากาศก็จะอบอ้าวเล็กน้อย เราก็มาถึงวัดศรีมงคล วัดหลวงปู่ก๋งมีชื่อเสียงในแถบนั้น ตั้งอยู่ตำบลนายม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน อยู่ติดถนนใหญ่มีลานจอดรถข้างวัดกว้างๆ จอดได้สบายแล้วเดินเข้าวัดมองไปทางขวามือก็เจอวิหารเข้าไปไหว้พระก่อนเลย ภายในวิหารมีภาพสีวิจิตรสวยงามแต่เราไม่ได้ชมอะไรได้ละเอียดเลย เพราะตื่นตากับบรรยากาศด้านนอกอยู่ มองเห็นมุมนั่นนี่น่าไปเซลฟี่อีกแล้วจ้า รอบๆบริเวณวิหารก็จะมีการจัดแสดงของเก่าโบราณ มีร้านขายของเครื่องดื่มมากมายหลากหลาย
เราเดินไปทางด้านหลังวิหารก็จะเห็นลานชมวิวทิวทัศน์ที่มีฉากเป็นภูเขาลูกใหญ่ๆ หรือที่รู้จักคุ้นเคยกันดีนามว่า ดอยภูคานั่นเอง เป็นทิวเขาน้อยใหญ่ ด้านล่างของวิหารก็มีท้องนาเขียวขจี มีซุ้มต่างๆขายของ และจัดไว้ให้นั่งพักผ่อนชมท้องทุ่งนาและถ่ายรูปสวยๆกันมากมาย ดูดดื่มบรรยากาศให้อิ่มอกอิ่มใจแล้วไปต่อ
แซ่บอีหลีฮิมดอยคา(สาขา2อ.ปัว)
บ่ายหน่อยๆกระเพาะก็เริ่มทำงาน ร้านเด็ดร้านอร่อยพี่ปูก็ยินดีนำเสนอร้านนี้เลยจ้า แซ่บอีหลีฮิมมดอยคา สาขา2อ.ปัว ไปง่ายมาง่าย อยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลพระยุพราชอำเภอปัวนี้เอง จอดรถหน้าร้านลงมาสั่งอาหารได้เลย มีเมนูตำสารพัดนึก เมนูยำเยอะแยะ รสชาดแซ่บนัว ชอบทานแบบมีปลาร้าหรือไม่มีก็สั่งได้
ขอปลาร้านัวๆจัดมาหลากหลายตำ ทั้งตำปลา ตำปู ตำไทย ตำข้าวโพด ยำกุ้ง หอยแครง พูดมาก็เริ่มหิวมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปนี้เราจะเริ่มกระบวนการย่อยสลายอาหารบนโต๊ะ ให้เป็นสารอารหล่อเลี้ยงร่างกายให้แข็งแรง ทานไปคุยไปฝนก็ตกลงมาอีกครา รอบนี้หนักหน่อยทานกันต่อ ปล่อยให้ภาพเล่าเรื่องละกันนะคะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้