#ริ้วรอยร่องลึก #ปัญหาหลักกวนใจหลายๆคน #แก้ได้ไม่ยากหากรู้เรื่องนี้

วันนี้รักมี How to แก้ริ้วรอย
ทั้ง #อดีต #ปัจจุบัน #อนาคต
หลายๆคนจะคิดว่าริ้วรอยเกิดขึ้นแล้วแก้ไขยาก ถ้าจะแก้ก็ต้องพึงการฉีดต่างๆเท่านั้น ซึ่งไม่จริงเสมอไป
ที่มาของริ้วรอยนอกจากอายุแล้ว สาเหตุหลักมาจาก #พฤติกรรม และ #การไม่ดูแลผิวอย่างสม่ำเสอตั้งแต่อายุยังน้อย
พอไม่ทำอะไรเลย เมื่ออายุมากขึ้น ถึงวันที่ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นจริงๆ ผิวหนังที่เคยกดแล้วเด้งกลับเหมือนลูกโป่งตึงๆ
ก็เกิด หย่อนคล้อยขึ้นมาทันที โดยที่ไม่ได้ตั้งตัว จะกลับตัวก็ไม่ทันแล้ว

วันนี้รักมีวิธีสต๊าฟผิวให้แข็งแรง เต่งตึงดูอ่อนกว่าวัยมาฝากค่า

1. ลดการแสดงสีหน้า Negative expression
หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ เช่น เลิกคิ้ว ขมวดคิ้ว ย่นหน้าผาก ย่นจมูก
เพราะนอกจากร่องลึกจะเกิดจากการแสดงสีหน้าทางกายภาพแล้ว เวลาที่มีความเครียด กดดัน วิตกกังวลเกิดขึ้น สังเกตดูหน้าของเราจะร้อนมาก ทำให้เกิดการอักเสบ เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการทำร้ายผิวจากภายใน สะสมเป็สาเหตุของริ้วรอย

2. ห้ามขยี้ตาเด็ดขาด
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะคันจะแสบแค่ไหน อย่าได้ขยี้ตาเด็ดขาด เพราะบริเวณใบหน้าที่บางและเห็นรอยเหี่ยวย่นง่ายสุด คือ ขอบตาด้านล่าง
ถ้าเคยสังเกตรูปกระโหลก ตรงช่วงเบ้าตาจะไม่มีกระดูกมารองรับนอกจาก eye ball หรือลูกตากลมๆของเรานี่เอง จะมีแค่ผิวหนังและองค์ประกอบทางผิวหนังที่ปกปิดช่วงใต้ตา ซึ่งบางและการซ่อมแซมเป็นไปได้ยากมาก ถ้าผิวหน้าเหมือนลูกโป่ง ใต้ตาก็เหมือนถุงพลาสติก ที่ถูกยืดมากจะกลับมาคืนรูปเหมือนเดิมยาก ถ้าคล้ำแล้วจะหายคล้ำก็ยาก ดังนั้น ถ้าคันตาจากฝุ่นให้ล้างด้วยน้ำสะอาด หรือคนที่เป็นภูมิแพ้ให้ใช้ยาหยอดตาแก้แพ้
คนที่ตาแห้งใช้น้ำตาเทียมหรือเจล ที่จะทำให้เราไม่ขยี้ตา เพราะขยี้ตา 1 ครั้งซ่อม 1 เดือน

2. ห้ามจับหน้าแรงๆ
อย่างที่บอกไปผิวหนังก็เหมือนลูกโป่ง ตึงได้ก็หย่อนได้ ไปเล่นหน้าตัวเองบ่อยๆ คือการ force ทางกายภาพให้เกิดริ้วรอย ปกติริ้วรอยจากเคมีก็เกิดได้ง่ายจากอารมณ์ ความรู้สึกอยู่แล้ว การเพิ่มริ้วรอยด้วยการเล่นหน้าตัวเองยิ่งทำให้ไปกันใหญ่

3. ห้ามถูหน้าแรงๆ
--ในการล้างหน้า--
ที่ถูกต้องต้องตีฟองบนมือให้มากที่สุดใช้ปลายนิ้วมือในการ ถู-วน-นวด-เบาๆ ไม่ใช่เอาฝ่ามือถูแป๊บๆโบกทั่วหน้าแวรีบล้างออก
วิธีสังเกตอย่าออกแรงกดจนผิวหน้าติดไปตามมือ อาจจะเห็นบิวตี้บล็อกเกอร์ทำมาเยอะ ตีฟองๆ ถูไวๆ ดูเหมือน professional แต่ของจริงไม่ต้องรีบนะคะ
--การทาครีมต่างๆ--
skincare หรือ Make up cream ทั่วหน้า ใช้นิ้วนางค่อยๆเกลี่ยทา เพราะน้ำหนักมือน้อยสุด ตรงช่วงไหนบางๆใช้การแท็บเบาๆบนหน้า หรือการแต่ง eye shadow ก็ต้องแท็บเบาๆ แล้วใช้แปรง blend ทีหลัง

4. ทา Skin care อย่างสม่ำเสมอ
ทาสม่ำเสมอทุกวันอย่าได้ขาด และทาแบบเหมาะสมกับอายุด้วย Moisturizer , Anti-aging ต้องไม่ขาดเพราะเมื่อถึงเวลา 30 ปุ๊บ จะเหมือนรอบตัดเชือก ผิวจะโทรมไวแบบผิดปติ ถ้าไม่เตรียตัวดีมาแต่ตัน รับรองว่าไม่ทัน ครีมแพงก็ช่วยยาก ใช้เงินแก้ปัญหาก็อาจจะไม่ได้เสมอไป

6. ทากันแดด ย้ำ!! ทากันแดด!! และอย่าได้ตากแดด สู้แดดโดยไม่จำเป็นเด็ดขาด
เพราะ ++ แดด คือ ตัวการหลักของทุกปัญหาผิว ++ ต่อให้ไม่โดนแดดตรงๆก็ต้องทา ยังไงก็ต้องทากันแดดตลอดเวลา หรือทาก็ต้องไม่ออกไปตากแดด เพราะ sunscreen ช่วยได้ส่วนหนึ่แต่ก็ไม่สามารถกรองแสงและรังสี ได้ทั้งหมด เราป้องกันอะไรได้ก็ทำ ไม่ว่าจะเป็นกางร่ม เสื้อแขนยาว เดินตามร่มเงาของตึกหรือ ต้นไม้ โดยเฉพาะการขับรถให้ทากันแดดและใส่เสื้อแขนยาวเลยค่า

วิธีการทั้งหมดนี้เป็นการป้องกันริ้วรอย
#ปัจจุบัน และ #อนาคต

แต่ถ้าหากจะแก้ไขริ้วรอยที่เกิดไปแล้ว หรือริ้วรอยใน #อดีต
มีแค่ Skin care กับ มีดหมอเท่านั้นที่ช่วยได้
แต่รักรู้ว้าหลายๆคน ก็ยังไม่อยากจะฉีดจะลงมีดให้เจ็บตัว
เพราะฉะนั้นก็เหลือแค่ Skin care  ซึ่ง Skin care ที่ใช้ก็ต้องช่วยแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
#ระยะสั้น ให้ผิวดูตื้นขึ้น เพือแก้ปัญหาชีวิดเบื้องต้น #ระยะยาว ทำให้ร่องลึกดูจางลง
ทาทุกวันสม่ำเสมอ ร่วมกับ ปรับพฤติกรรมวันละนิด วันละหน่อย
ค่อยๆทำทีละขั้น สำเร็จวันละ 1% 100 วันก็ครบ 100%
เพียงเท่านี้ผิวอ่อนกว่าวัยก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วค่า

#เภรัก
#WeCareYouWithLove