ปัจจุบันอายุ 31 ปี ทำงานราชการมากรมๆนึง อยู่มา 1 ปี 7 เดือน ก็อยู่มาด้วยความอดทน เรื่องงานไม่เท่าไหร่ แต่มีเพื่อนร่วมงานสติไม่สมประกอบอยู่คนนึง เรียนจบปอเอกแล้ว แต่ไม่เคารพสิทธิส่วนบุคคล ชอบยุ่งกับพื้นที่ส่วนตัวของเราเวลาทำงาน ชอบมานั่งโต๊ะทำงานเราเวลาเราไม่อยู่ ชอบเอาของมากินบนโต๊ะทำงานเราแล้วทำเลอะเทอะ เราพูดเตือนยังไงเค้าก็ยังคงด้านทำพฤติกรรมเดิมๆ โดยไม่เกรงใจ จะขอย้ายโต๊ะทำงาน ก็ไม่มีที่ว่างในสำนักงานเลย พอดีมีอีกที่เราสอบไว้เราถูกเรียกบรรจุ แต่ต้องลาออกแล้วไปบรรจุใหม่ เราเลยทำเรื่องลาออกแล้วมาบรรจุที่ใหม่ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ตอนเราเลือกตำแหน่ง เรามีประสบการณ์ด้านงานบริหารทั่วไป เลยเลือกลงบริหารทั่วไป เพรระคิดว่าไม่น่ายากน่าจะมีเวลาไปเรียนต่อปอโทได้ตามที่มีแผนในใจ แต่ที่ใหม่เค้าดันบอกว่าตำแหน่งที่เราเลือกลงนั้น เค้าพิมพ์เลขตำแหน่งผิดไปตัวนึง โดยที่วางอยู่คือตำแหน่งที่ต้องทำงานวิชาการที่ต้องรับผิดชอบหลายเรื่อง ซึ่งเราเองไม่ถนัดและไม่ชอบ ตอนแรกคิดว่าคงไม่มีอะไร พอมาทำงานวันแรกรู้สึกเสียใจที่ลาออกมาจากที่เก่าอย่างมาก ถึงแม้จะเป็นเพียงวันแรก แต่สังเกตบรรยากาศการทำงาน ไม่มีความน่าอยู่ หัวหน้างานแบบว่า ต้องการทำอะไรให้ไวทันใจเค้า ลูกน้องต้องทำงาน 4-5 อย่างพร้อมกันได้ อย่างไม่มีข้อผิดพลาด ไม่มีเวลาลงไปทานอาหารกลางวัน ต้องทำงานไปกินข้าวไป แต่ถ้าเอาอาหารที่เพิ่งปรุงสุกมาในห้อง ก็จะโดนหัวหน้าว่าว่า กลิ่นอาหารมันโชยเต็มห้อง บางคนเค้าก็อาจจะไม่ชอบกลิ่น ควรจะรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรนะ ว่าจะพูดหลายครั้งแล้ว พอตกเย็นในลงเวลาออกปฏิบัติราชการ 16.30 น. จะมีปัญหา และดูจากตารางงานที่ต้องมีการเดินทาง ถ้าเป็นการเดินทางในเวลาราชการเราก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่มีออกงานเสาร์ อาทิตย์ อย่างบ่อย เราเลยคิดว่าท่าจะไม่ดีแล้ว เลยโทรจะกลับไปรับราชการที่เก่า แต่ที่เก่าบอกว่า มีผลลาออกในวันที่เรามารับราชการที่ใหม่ ไม่สามารถกลับได้ น้ำตาเราไหลเลย คือแบบไม่คิดว่าชีวิตจะเปลี่ยนผันไวขนาดนี้ เรียกได้ว่าเสียสติไปวันนึง ไม่เป็นอันทำอะไรใดๆ
พอมาวันรุ่งขึ้นเราพยายามหาหนทางในการจะอยู่ได้อย่างไม่ลำบากจนเกินไป โดยอยากจะแผนกที่มันเหมาะกับบุคลิกเรา เลยไปคุยกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลขอเปลี่ยนสำนักหรือกลุ่ม เพราะตอนที่เราไปรายงานตัว เราไปคนเดียว มีตำแหน่งว่างอยู่ 3 ที่ ทีนี้เค้าบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ ต้องรอให้คนที่จะถูกบรรจุรอบสุดท้ายที่จะเรียกมาเดือนหน้าได้เลือกลงก่อน จากนั้นเหลืออะไรก็ให้เรามาเลือก แต่การจะย้ายต้องรอคำสั่งบรรจุออกก่อน ซึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนหลังเข้าทำงานวันแรก แล้วจึงจะทำบันทึกขอย้ายได้ ถ้าย้ายเลยก็จะมีบุคคลอื่นมาประท้วงได้ และคนอื่นจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง อยากจะพูดเหมือนกันว่าทีพี่ให้ผมเลือกตำแหน่งลง พี่พิม
พ์เลขผิดมา มันก็เป็นผิดที่พี่ต้องรับผิดชอบเหมือนกันนะครับ หรือตำแหน่งนี้ไม่มีคนมาทำ พี่เลยมัดมือชกให้ผมมาลงในตำแหน่งที่คนเค้าไม่มาทำกัน อันนี้สังเกตได้จากมีไฟล์บันทึกขอลาออก 2-3 คน ในเวลาไล่เลี่ยกัน
สิ่งที่เสียความรู้สึกมากคือ เราโทรไปคุยเค้ารับปากว่าจะไปคุยกับสำนักใหม่ที่จะย้ายให้ว่าเป็นไปได้มั้ย แล้วทำการย้ายเลย เพราะยังไม่มีการบรรจุใคร คำสั่งแต่งตั้งยังไม่ออกมา เราเลยคิดอยู่ต่อ แต่พอมาวันรุ่งขึ้น พูดอีกอย่าง บอกว่าไม่ได้คุย ย้ายไม่ได้ ค้องรอคำสั่งบรรจุออกก่อน แล้วจึงจะทำเรื่องย้าย ใครๆก็รู้ครับว่าถ้าคำสั่งบรรจุออก ก็ต้องอยู่ตรงนั้นไปแล้วล่ะครับ
ตอนนี้ไม่มีจิตใจอยากจะทำงานที่นี่เลย เหมือนถูกหลอกมาทำงานในตำแหน่งที่ใครก็ไม่ทำกัน แล้วก็เสียดายงานที่เก่าที่เคยทำมาแล้วกลับไปไม่ได้อีกแล้ว นี่เราร้องไห้มา 2-3 วัน วันจันทร์ว่าจะไปทำเรื่องลาออกจริงๆ เพราะไม่ไหวกับความมั่วของฝ่ายทรัพยากรบุคคล อ้างว่าตำแหน่งเดียวกัน ทำงานที่เดียวกันไม่เป็นไรหรอก คือเค้าไม่ได้มาทำกับเรา เค้าไม่รู้ รู้สึกแย่มากๆ ในเวลานี้ รับราชการอยู่ดีดีต้องมาตกงาน ตกใจมากกับชะตาชีวิต
เหมือนถูกหลอกมาให้ทำงาน
พอมาวันรุ่งขึ้นเราพยายามหาหนทางในการจะอยู่ได้อย่างไม่ลำบากจนเกินไป โดยอยากจะแผนกที่มันเหมาะกับบุคลิกเรา เลยไปคุยกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลขอเปลี่ยนสำนักหรือกลุ่ม เพราะตอนที่เราไปรายงานตัว เราไปคนเดียว มีตำแหน่งว่างอยู่ 3 ที่ ทีนี้เค้าบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ ต้องรอให้คนที่จะถูกบรรจุรอบสุดท้ายที่จะเรียกมาเดือนหน้าได้เลือกลงก่อน จากนั้นเหลืออะไรก็ให้เรามาเลือก แต่การจะย้ายต้องรอคำสั่งบรรจุออกก่อน ซึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนหลังเข้าทำงานวันแรก แล้วจึงจะทำบันทึกขอย้ายได้ ถ้าย้ายเลยก็จะมีบุคคลอื่นมาประท้วงได้ และคนอื่นจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง อยากจะพูดเหมือนกันว่าทีพี่ให้ผมเลือกตำแหน่งลง พี่พิม
พ์เลขผิดมา มันก็เป็นผิดที่พี่ต้องรับผิดชอบเหมือนกันนะครับ หรือตำแหน่งนี้ไม่มีคนมาทำ พี่เลยมัดมือชกให้ผมมาลงในตำแหน่งที่คนเค้าไม่มาทำกัน อันนี้สังเกตได้จากมีไฟล์บันทึกขอลาออก 2-3 คน ในเวลาไล่เลี่ยกัน
สิ่งที่เสียความรู้สึกมากคือ เราโทรไปคุยเค้ารับปากว่าจะไปคุยกับสำนักใหม่ที่จะย้ายให้ว่าเป็นไปได้มั้ย แล้วทำการย้ายเลย เพราะยังไม่มีการบรรจุใคร คำสั่งแต่งตั้งยังไม่ออกมา เราเลยคิดอยู่ต่อ แต่พอมาวันรุ่งขึ้น พูดอีกอย่าง บอกว่าไม่ได้คุย ย้ายไม่ได้ ค้องรอคำสั่งบรรจุออกก่อน แล้วจึงจะทำเรื่องย้าย ใครๆก็รู้ครับว่าถ้าคำสั่งบรรจุออก ก็ต้องอยู่ตรงนั้นไปแล้วล่ะครับ
ตอนนี้ไม่มีจิตใจอยากจะทำงานที่นี่เลย เหมือนถูกหลอกมาทำงานในตำแหน่งที่ใครก็ไม่ทำกัน แล้วก็เสียดายงานที่เก่าที่เคยทำมาแล้วกลับไปไม่ได้อีกแล้ว นี่เราร้องไห้มา 2-3 วัน วันจันทร์ว่าจะไปทำเรื่องลาออกจริงๆ เพราะไม่ไหวกับความมั่วของฝ่ายทรัพยากรบุคคล อ้างว่าตำแหน่งเดียวกัน ทำงานที่เดียวกันไม่เป็นไรหรอก คือเค้าไม่ได้มาทำกับเรา เค้าไม่รู้ รู้สึกแย่มากๆ ในเวลานี้ รับราชการอยู่ดีดีต้องมาตกงาน ตกใจมากกับชะตาชีวิต