EP จบ แม้จะดำเนินเรื่องอย่างเนิบๆ ต่างจากตอนอื่นๆ
แต่กลับรู้สึกว่า เป็นการจบที่กำลังอิ่มพอดีๆ เพราะตัวละครทุกตัว
ถูกจัดสรรเวลาให้มีแอร์ไทม์เพื่ออธิบายตัวเองอย่างเหมาะสม
สิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้ ไม่เป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนธรรมดาๆ
คือความเป็น "เมโลดราม่า" สไตล์เกาหลี ที่ทำให้คนดูนั่งลุ้นแบบน้ำตาแตกทุกตอน
เพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ดูถึงขั้นถามว่า
"มันเป็นละครแนวเศร้าเหรอ? ชีวิตรันทดเหรอ?"
อ่านรีวิวที่ไหน ก็มีแต่คนพูดว่า ร้องไห้ ๆๆๆ 5555+
ก็บอก ไม่ใช่นะ! มันเป็นละครลุ้นละทึก ละครสืบสวนหาตัวฆาตกรจริงๆ นะ!
พูดจบ ก็ทั้งขำทั้งงตัวเองว่า เอออ.. ละทำไมฉันร้องไห้ได้ทุกตอน(วะ)
เชื่อว่าคนที่ดูคงเป็นกันทุกคน แต่ไม่รู้จะอธิบายเพื่อนยังไง คือแกต้องดูเว้ยย !!!
ครั้งแรก เห็นตัวอย่าง EP จบ
รู้สึกว่า พลอตความจำเสื่อมมันแอบเฝือไปรึป่าวนะ
แต่พอมาอยู่ใน Flower of Evil กลับรู้สึกว่า เอออ..มันลงตัวแฮะ
เพราะมันมีมาเพื่อทำให้ชีวิตของฮยอนซูที่สวมรอยเป็นแบคฮีซองได้จบลงไป
แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยย้อนกลับไปเป็นตัวเอง (เริ่มตั้งแต่วันโดนรถชน)
และถึงจะเริ่มใหม่ ฮยอนซูก็ยังเลือกชาจีวอน อีกครั้ง !!!
( แงงง.. เห็นมั้ย แอบผสานความเมโลดราม่าให้เราได้น้ำตานองอีกแล้ว >< )
*พบผู้ชายแอบตกหลุมรักภรรยาตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า 1 อัตรา*
EP นี้ต้องขอชม คขบ ดังๆ ว่า
บทพูดทั้งตอนนั้น ยอดเยี่ยม เฉียบคม และลึกซึ้งกินใจมากจริงๆ ค่ะ
มีฉากพีคที่สุดฉากหนึ่ง ที่บอกเล่าความรู้สึกของสองสามีภรรยาได้ดีมากๆ
( จริงๆ เป็นเพราะบท EP 1-15 ที่ปูเรื่องราวความรักของทั้งสองมาดีมาก
จนทำให้ช่วงเวลาหลังพระเอกฟื้นจนถึงฉากนี้ แม้พระเอก-นางเอกจะพบเจอพูดจากันปกติ
แต่กลับทำให้คนดู เข้าใจความเจ็บปวดอึดอัดใจของนางเอกที่ไล่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆได้เป็นอย่างดี )
ซึ่งฉากนั้นก็คือ ฉากในรถ ที่ฮยอนซู กับจีวอนคุยกัน
แม้ฉากนี้จะมีแค่บทพูด กับการถ่ายนักแสดงแค่หน้าอกขึ้นไป
แต่เวลา 10 นาทีของฉากนี้ กลับทำให้เราได้เข้าใจทุกอย่าง
แถม ร้องไห้ตามพระนางจนตัวโยน
หลังจากที่จีวอนถูกฮยอนซูพูดจี้ใจว่า อ่านจากสีหน้าก็รู้แล้วว่า เธอรอให้เขาบอกรักอีกครั้ง แม้จะโกหกก็ยังดี
ฉากนี้นางเอกระเบิดความอัดอั้นออกมา แบบว่า มันน้อยยยย แต่มันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด และท้อแท้ ( กราบแชวอน! )
ส่วนพระเอก ที่สมองยังคิดเรื่องนางเอกตลอดเวลา แต่จิตใจกลับอึดอัด เพราะความรู้สึกผิด
คิดว่าตัวเองไม่ได้รักนางเอก และ สงสารที่เธอถูกเขาหลอกให้แต่งงานเพื่ออำพรางตัวตน
ก็บอกให้นางเอกหยุดคาดหวังที่จะเจอสามีคนเดิม เขาคนนั้นจะไม่กลับมาแล้ว เพราะ "ผมเกลียดคนคนนั้น"
" เราสองคนเหมือนถูกล่ามขาไว้กับเสา คุณไล่ตามหลังผม ส่วนผมเอาแต่วิ่งหนีคุณ เพราะไม่อยากให้คุณเห็นผมจากด้านหน้า
เราวิ่งไล่กันเป็นวงกลม สุดท้าย เราทั้งคู่ก็ไม่ได้ไปไหนเลย " T^T
ประโยคนี้ ทำลายความหวังของนางเอกลงทั้งหมด มันเจ็บปวด แต่ก็จริงใจ
ด้วยความรักสามี และเข้าใจเขาอย่างแท้จริง เธอจึงตัดสินใจปล่อยพระเอกให้เป็นอิสระจากตัวตนเดิมที่เคยปลอม
แม่อยากให้พ่อมีความสุข ให้พ่อได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระสักครั้ง
และมาถึงฉากที่เราชอบที่สุด คือ
ฉากที่พระเอกมาดูบ้านที่ให้นายหน้าหาให้
ซึ่งเป็นบ้านที่นางเอกประกาศขาย
พอได้อ่านชื่อเวิร์คช้อปของตัวเอง " ที่สถิตย์ของดาวรุ่งอรุณ "
ซึ่งเขารู้ความหมายคนเดียวว่า หมายถึง " ที่อยู่ของภรรยาที่เป็นที่รักยิ่ง "
ทั้งภาพอดีตที่ย้อนกลับมา คำพูดของแม่แบค คำพูดของมูจิน และบันทึกที่เขียนถึงภรรยาเสมอ
พอรวมกับชื่อเวิร์คช้อป ทำให้ฮยอนซู คลายปมที่สับสนมาตลอดว่า เขาเคยรักภรรยามากจริงๆ
และ 14 ปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้หลอกลวงเธอ เขาแต่งงานกับเธอ และรักเธอมากจริงๆ !!
จากนั้นจึงขอโอกาสเริ่มต้นใหม่ คบกันใหม่ในฐานะที่เขาเป็น โทฮยอนซู
และ ชาจีวอน ก็สวมแหวนแต่งงานให้พระเอกอีกครั้ง !! โอ้ยยย
อยากบอกว่า นางเอกเรื่องนี้คุมธีมผัว มาตั้งแต่ต้นจนจบจร้า 5555+
จีบก่อน บอกรักก่อน จูบก่อน สวมแหวนให้อีก นี่สิ! ผญ ยุค 2020 ปลื้มค่ะปลื้ม
น้องทาร์ตไข่อึนฮา ก็กลับมามีคุณพ่ออีกครั้ง
น้องแสดงเก่งมากกกกก!!
น่ารักสดใส น้ำตาสั่งได้ แคชมาดีมากๆ ค่ะ เอ็นดูที่ซู้ดดด
ตัวละครอีกตัวที่เป็นส่วนสำคัญให้ซีรีส์นี้ครบรส
เป็นสีสันให้ซีรี่ส์ไม่ดิ่งแบบเศร้าลึก หรือลุ้นระทึกแบบตึงเครียดเกินไป
ก็คือ "คิมมูจิน" ชายผู้เป็นเพื่อนสนิทหนึ่งดียวของพระเอกเรา
แต่ก็เป็นคู่กัดด้วย เพราะเขาทั้งสองมีความคอนทราสต์กันเบอร์สุด!
ถ้าพระเอกเก็บความรู้สึก = 100 มูจินก็เก็บความรู้สึก = 0
ซึ่งการแสดงออกแบบสุดโต่งของเขากลับไม่น่ารำคาญ มันดูน่ารักไปซะนี่
มูจินโผล่มาทีไร อะไรที่อันตราย เหมือนจะเบาบางจางลง
*ฉากนี้ภาพสวยมาก*
ต้นเรื่องโดนจับไปขัง กลางเรื่องช่วยกันสืบคดี ท้ายเรื่องต้องมาปรึกษาปัญหาหัวใจ
นี่สินะ ที่เค้าเรียกว่าเพื่อนตาย !!
จะ EP ไหน ในสายตามูจิน แฮซูก็ยังดูสวยน่ารักทุกอิริยาบท
แต่ชมว่า "ดูดีในชุดนักโทษ" มันไม่ได้มั้งงงง..มูจิน ???
******* สรุป ******
สำหรับคนที่ทำไม่ดี เรื่องนี้ทุกคนได้รับโทษในสิ่งที่ตัวเองทำกันหมด
- อมม่า (วันนี้นั่งเฉยๆ แต่แววตาสื่อดีมาก)
"แกจำอะไรไม่ได้จริงๆ สินะ เพราะถ้าจำได้ แกคงไม่มาที่นี่ "
รู้สึกได้ถึง ความสำนึกผิด ความสิ้นหวัง สงสารอมม่า..
- ผอ รพ. พ่อแบค เป็นบ้า เพราะรับความจริงเรื่องลูกชายไม่ได้
ฉากนี้เราร้องไห้เลยอ่ะ ตอนพ่อเห็นภาพหลอนแล้วทักลูกว่า "หล่อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ยะ"
ประโยคเดียว แต่รู้เลยว่า รักลูกมาก ในสายตาพ่อ ลูกเป็นอย่างไรก็คือ ดูดีไปหมด กลายเป็นพ่อแม่รังแกฉัน
EP นี้ แอบคิดถึงแบคฮีซองนะ จริงๆ อยากให้ไม่โดนยิงตาย
อยากให้ได้ขยี้เรื่องราวของแบคฮีซองมากกว่านี้อีกนิดนึง
- หลานผู้ใหญ่บ้านออกมายอมรับว่า ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนให้เค้าปล่อยข่าวเรื่องโทฮยอนซูถูกผีพ่อสิง เพื่อหวังฮุบสมบัติโทมินซอก
- แฮซู ได้ประกาศให้ทุกคนรู้ว่า เธอเป็นคนฆ่าผู้ใหญ่บ้าน แต่คณะลูกขุนลงมติเอกฉันท์ว่า เป็นการป้องกันตัว จึงไม่ต้องรับโทษ แฮซูรู้สึกปลดแอก เหมือนทิ้งภูเขาที่แบกไว้มาตลอด 10 กว่าปีทิ้งไปได้ และรู้สึกรักตัวเองได้สักที จึงขอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อื่น โดยการไปเรียนต่อต่างประเทศ
- มูจิน กล้าเอาอนาคตนักข่าวดาวรุ่งมาแลกกับการเปิดเผยความจริงที่ตัวเองเคยขลาดกลัวที่จะพูด เขาเขียนบทความเกี่ยวกับกวางในกระสอบของโทมินซอก ซึ่งจากการเปิดเผยนี้ทำให้มูจินรู้สึกสบายใจขึ้น และรู้สึกผิดต่อสองพี่น้องตระกูลโทลดลง แม้เขาจะโดนชาวโซเชี่ยวต่อว่าว่า ขี้ขลาดที่เพิ่งมาเปิดเผยหลังจากจับฆาตกรได้แล้ว
คิดว่าจะเขียนสั้นๆ แต่สุดท้ายยาวจัง เขินนน..
สุดท้าย ขอจบกระทู้ด้วยการสรรเสริญเยินยอ "คนเขียนบทละคร"
ที่สามารถร้อยเรียงเรื่องราวสุดซับซ้อน และใส่ทุกปมมาได้อย่างพอดี
และคลายทุกปมได้อย่างทันเวลา 555555+
และแม้จะหักมุม เซอไพรซ์คนดูตลอด 16 ตอน
ด้วยเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง
แต่ความเทพสุดๆ คือ ขณะนั้นก็ยังสามารถลงรายละเอียดของเหตุการณ์ต่างๆ
ใส่วิธีการคิด และการตัดสินใจของตัวละครได้อย่างสมเหตุสมผลด้วย
ทำให้การดูซีรีส์เป็นไปอย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด
คนดูจึงไม่ต้องมาสงสัย และมาตั้งกระทู้ว่า ทำไมตัวละครทำแบบนี้ ทำไมไม่ทำแบบนี้ ?
ประกอบกับการเล่าเรื่องของผู้กำกับ งานภาพที่โครตศิลป์
และการถ่ายทอดของนักแสดงสุดเทพแล้ว คือทุกอย่างมันลงตัว
ซีรี่นี้น่าจะได้แดซังหลายรางวัลอ่ะค่ะ!!!
ใครดูจบแล้วก็มาแชร์ฉากประทับใจกันได้น้าาาา
Flower of Evil EP16 น้อยแต่มาก เรียบง่ายแต่คลายเกลี้ยง SPOIL ALERT จร้า!!
แต่กลับรู้สึกว่า เป็นการจบที่กำลังอิ่มพอดีๆ เพราะตัวละครทุกตัว
ถูกจัดสรรเวลาให้มีแอร์ไทม์เพื่ออธิบายตัวเองอย่างเหมาะสม
สิ่งที่ทำให้ซีรีส์นี้ ไม่เป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนธรรมดาๆ
คือความเป็น "เมโลดราม่า" สไตล์เกาหลี ที่ทำให้คนดูนั่งลุ้นแบบน้ำตาแตกทุกตอน
เพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ดูถึงขั้นถามว่า
"มันเป็นละครแนวเศร้าเหรอ? ชีวิตรันทดเหรอ?"
อ่านรีวิวที่ไหน ก็มีแต่คนพูดว่า ร้องไห้ ๆๆๆ 5555+
ก็บอก ไม่ใช่นะ! มันเป็นละครลุ้นละทึก ละครสืบสวนหาตัวฆาตกรจริงๆ นะ!
พูดจบ ก็ทั้งขำทั้งงตัวเองว่า เอออ.. ละทำไมฉันร้องไห้ได้ทุกตอน(วะ)
เชื่อว่าคนที่ดูคงเป็นกันทุกคน แต่ไม่รู้จะอธิบายเพื่อนยังไง คือแกต้องดูเว้ยย !!!
ครั้งแรก เห็นตัวอย่าง EP จบ
รู้สึกว่า พลอตความจำเสื่อมมันแอบเฝือไปรึป่าวนะ
แต่พอมาอยู่ใน Flower of Evil กลับรู้สึกว่า เอออ..มันลงตัวแฮะ
เพราะมันมีมาเพื่อทำให้ชีวิตของฮยอนซูที่สวมรอยเป็นแบคฮีซองได้จบลงไป
แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยย้อนกลับไปเป็นตัวเอง (เริ่มตั้งแต่วันโดนรถชน)
และถึงจะเริ่มใหม่ ฮยอนซูก็ยังเลือกชาจีวอน อีกครั้ง !!!
( แงงง.. เห็นมั้ย แอบผสานความเมโลดราม่าให้เราได้น้ำตานองอีกแล้ว >< )
*พบผู้ชายแอบตกหลุมรักภรรยาตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า 1 อัตรา*
EP นี้ต้องขอชม คขบ ดังๆ ว่า
บทพูดทั้งตอนนั้น ยอดเยี่ยม เฉียบคม และลึกซึ้งกินใจมากจริงๆ ค่ะ
มีฉากพีคที่สุดฉากหนึ่ง ที่บอกเล่าความรู้สึกของสองสามีภรรยาได้ดีมากๆ
( จริงๆ เป็นเพราะบท EP 1-15 ที่ปูเรื่องราวความรักของทั้งสองมาดีมาก
จนทำให้ช่วงเวลาหลังพระเอกฟื้นจนถึงฉากนี้ แม้พระเอก-นางเอกจะพบเจอพูดจากันปกติ
แต่กลับทำให้คนดู เข้าใจความเจ็บปวดอึดอัดใจของนางเอกที่ไล่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆได้เป็นอย่างดี )
ซึ่งฉากนั้นก็คือ ฉากในรถ ที่ฮยอนซู กับจีวอนคุยกัน
แม้ฉากนี้จะมีแค่บทพูด กับการถ่ายนักแสดงแค่หน้าอกขึ้นไป
แต่เวลา 10 นาทีของฉากนี้ กลับทำให้เราได้เข้าใจทุกอย่าง
แถม ร้องไห้ตามพระนางจนตัวโยน
หลังจากที่จีวอนถูกฮยอนซูพูดจี้ใจว่า อ่านจากสีหน้าก็รู้แล้วว่า เธอรอให้เขาบอกรักอีกครั้ง แม้จะโกหกก็ยังดี
ฉากนี้นางเอกระเบิดความอัดอั้นออกมา แบบว่า มันน้อยยยย แต่มันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวด และท้อแท้ ( กราบแชวอน! )
ส่วนพระเอก ที่สมองยังคิดเรื่องนางเอกตลอดเวลา แต่จิตใจกลับอึดอัด เพราะความรู้สึกผิด
คิดว่าตัวเองไม่ได้รักนางเอก และ สงสารที่เธอถูกเขาหลอกให้แต่งงานเพื่ออำพรางตัวตน
ก็บอกให้นางเอกหยุดคาดหวังที่จะเจอสามีคนเดิม เขาคนนั้นจะไม่กลับมาแล้ว เพราะ "ผมเกลียดคนคนนั้น"
" เราสองคนเหมือนถูกล่ามขาไว้กับเสา คุณไล่ตามหลังผม ส่วนผมเอาแต่วิ่งหนีคุณ เพราะไม่อยากให้คุณเห็นผมจากด้านหน้า
เราวิ่งไล่กันเป็นวงกลม สุดท้าย เราทั้งคู่ก็ไม่ได้ไปไหนเลย " T^T
ประโยคนี้ ทำลายความหวังของนางเอกลงทั้งหมด มันเจ็บปวด แต่ก็จริงใจ
ด้วยความรักสามี และเข้าใจเขาอย่างแท้จริง เธอจึงตัดสินใจปล่อยพระเอกให้เป็นอิสระจากตัวตนเดิมที่เคยปลอม
แม่อยากให้พ่อมีความสุข ให้พ่อได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระสักครั้ง
และมาถึงฉากที่เราชอบที่สุด คือ
ฉากที่พระเอกมาดูบ้านที่ให้นายหน้าหาให้
ซึ่งเป็นบ้านที่นางเอกประกาศขาย
พอได้อ่านชื่อเวิร์คช้อปของตัวเอง " ที่สถิตย์ของดาวรุ่งอรุณ "
ซึ่งเขารู้ความหมายคนเดียวว่า หมายถึง " ที่อยู่ของภรรยาที่เป็นที่รักยิ่ง "
ทั้งภาพอดีตที่ย้อนกลับมา คำพูดของแม่แบค คำพูดของมูจิน และบันทึกที่เขียนถึงภรรยาเสมอ
พอรวมกับชื่อเวิร์คช้อป ทำให้ฮยอนซู คลายปมที่สับสนมาตลอดว่า เขาเคยรักภรรยามากจริงๆ
และ 14 ปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้หลอกลวงเธอ เขาแต่งงานกับเธอ และรักเธอมากจริงๆ !!
จากนั้นจึงขอโอกาสเริ่มต้นใหม่ คบกันใหม่ในฐานะที่เขาเป็น โทฮยอนซู
และ ชาจีวอน ก็สวมแหวนแต่งงานให้พระเอกอีกครั้ง !! โอ้ยยย
อยากบอกว่า นางเอกเรื่องนี้คุมธีมผัว มาตั้งแต่ต้นจนจบจร้า 5555+
จีบก่อน บอกรักก่อน จูบก่อน สวมแหวนให้อีก นี่สิ! ผญ ยุค 2020 ปลื้มค่ะปลื้ม
น้องทาร์ตไข่อึนฮา ก็กลับมามีคุณพ่ออีกครั้ง
น้องแสดงเก่งมากกกกก!!
น่ารักสดใส น้ำตาสั่งได้ แคชมาดีมากๆ ค่ะ เอ็นดูที่ซู้ดดด
ตัวละครอีกตัวที่เป็นส่วนสำคัญให้ซีรีส์นี้ครบรส
เป็นสีสันให้ซีรี่ส์ไม่ดิ่งแบบเศร้าลึก หรือลุ้นระทึกแบบตึงเครียดเกินไป
ก็คือ "คิมมูจิน" ชายผู้เป็นเพื่อนสนิทหนึ่งดียวของพระเอกเรา
แต่ก็เป็นคู่กัดด้วย เพราะเขาทั้งสองมีความคอนทราสต์กันเบอร์สุด!
ถ้าพระเอกเก็บความรู้สึก = 100 มูจินก็เก็บความรู้สึก = 0
ซึ่งการแสดงออกแบบสุดโต่งของเขากลับไม่น่ารำคาญ มันดูน่ารักไปซะนี่
มูจินโผล่มาทีไร อะไรที่อันตราย เหมือนจะเบาบางจางลง
*ฉากนี้ภาพสวยมาก*
ต้นเรื่องโดนจับไปขัง กลางเรื่องช่วยกันสืบคดี ท้ายเรื่องต้องมาปรึกษาปัญหาหัวใจ
นี่สินะ ที่เค้าเรียกว่าเพื่อนตาย !!
จะ EP ไหน ในสายตามูจิน แฮซูก็ยังดูสวยน่ารักทุกอิริยาบท
แต่ชมว่า "ดูดีในชุดนักโทษ" มันไม่ได้มั้งงงง..มูจิน ???
******* สรุป ******
สำหรับคนที่ทำไม่ดี เรื่องนี้ทุกคนได้รับโทษในสิ่งที่ตัวเองทำกันหมด
- อมม่า (วันนี้นั่งเฉยๆ แต่แววตาสื่อดีมาก)
"แกจำอะไรไม่ได้จริงๆ สินะ เพราะถ้าจำได้ แกคงไม่มาที่นี่ "
รู้สึกได้ถึง ความสำนึกผิด ความสิ้นหวัง สงสารอมม่า..
- ผอ รพ. พ่อแบค เป็นบ้า เพราะรับความจริงเรื่องลูกชายไม่ได้
ฉากนี้เราร้องไห้เลยอ่ะ ตอนพ่อเห็นภาพหลอนแล้วทักลูกว่า "หล่อขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ยะ"
ประโยคเดียว แต่รู้เลยว่า รักลูกมาก ในสายตาพ่อ ลูกเป็นอย่างไรก็คือ ดูดีไปหมด กลายเป็นพ่อแม่รังแกฉัน
EP นี้ แอบคิดถึงแบคฮีซองนะ จริงๆ อยากให้ไม่โดนยิงตาย
อยากให้ได้ขยี้เรื่องราวของแบคฮีซองมากกว่านี้อีกนิดนึง
- หลานผู้ใหญ่บ้านออกมายอมรับว่า ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนให้เค้าปล่อยข่าวเรื่องโทฮยอนซูถูกผีพ่อสิง เพื่อหวังฮุบสมบัติโทมินซอก
- แฮซู ได้ประกาศให้ทุกคนรู้ว่า เธอเป็นคนฆ่าผู้ใหญ่บ้าน แต่คณะลูกขุนลงมติเอกฉันท์ว่า เป็นการป้องกันตัว จึงไม่ต้องรับโทษ แฮซูรู้สึกปลดแอก เหมือนทิ้งภูเขาที่แบกไว้มาตลอด 10 กว่าปีทิ้งไปได้ และรู้สึกรักตัวเองได้สักที จึงขอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อื่น โดยการไปเรียนต่อต่างประเทศ
- มูจิน กล้าเอาอนาคตนักข่าวดาวรุ่งมาแลกกับการเปิดเผยความจริงที่ตัวเองเคยขลาดกลัวที่จะพูด เขาเขียนบทความเกี่ยวกับกวางในกระสอบของโทมินซอก ซึ่งจากการเปิดเผยนี้ทำให้มูจินรู้สึกสบายใจขึ้น และรู้สึกผิดต่อสองพี่น้องตระกูลโทลดลง แม้เขาจะโดนชาวโซเชี่ยวต่อว่าว่า ขี้ขลาดที่เพิ่งมาเปิดเผยหลังจากจับฆาตกรได้แล้ว
คิดว่าจะเขียนสั้นๆ แต่สุดท้ายยาวจัง เขินนน..
สุดท้าย ขอจบกระทู้ด้วยการสรรเสริญเยินยอ "คนเขียนบทละคร"
ที่สามารถร้อยเรียงเรื่องราวสุดซับซ้อน และใส่ทุกปมมาได้อย่างพอดี
และคลายทุกปมได้อย่างทันเวลา 555555+
และแม้จะหักมุม เซอไพรซ์คนดูตลอด 16 ตอน
ด้วยเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง
แต่ความเทพสุดๆ คือ ขณะนั้นก็ยังสามารถลงรายละเอียดของเหตุการณ์ต่างๆ
ใส่วิธีการคิด และการตัดสินใจของตัวละครได้อย่างสมเหตุสมผลด้วย
ทำให้การดูซีรีส์เป็นไปอย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด
คนดูจึงไม่ต้องมาสงสัย และมาตั้งกระทู้ว่า ทำไมตัวละครทำแบบนี้ ทำไมไม่ทำแบบนี้ ?
ประกอบกับการเล่าเรื่องของผู้กำกับ งานภาพที่โครตศิลป์
และการถ่ายทอดของนักแสดงสุดเทพแล้ว คือทุกอย่างมันลงตัว
ซีรี่นี้น่าจะได้แดซังหลายรางวัลอ่ะค่ะ!!!
ใครดูจบแล้วก็มาแชร์ฉากประทับใจกันได้น้าาาา