ผ่านไป 2 สัปดาห์ กับ 2 Gameweek ที่ดูเหมือนโรลเลอร์โคสเตอร์เหลือเกิน เพราะมีนักเตะที่แป้กใน Gameweek แรก กลับมาระเบิดฟอร์มในสัปดาห์ล่าสุด อย่าง
“ซน ฮึง มิน” ที่เหมาซัด 4 เม็ด หรือ
“ซาดิโอ มาเน่” ที่กลับมาเบิ้ลใส่เชลซี
นอกจากอปป้าซน ที่เหมายิง 4 ลูก คู่หูอย่างเคน ก็ทำ 1 ประตู 4 แอสซิสต์ไปด้วย
ความพลิกผันแบบนี้ ทำให้หลายกุนซือถึงกับบ่นอุบ ยิ่งเห็นทรงว่าทีมที่ตัวเองถืออยู่ไม่เวิร์คหลายจุด ก็เริ่มคิดถึงการ “ปรับใหญ่” อย่างการใช้ Wildcard ขึ้นมา เพราะนอกจากจะสามารถดึงนักเตะที่ต้องการหลายตัวโดยไม่ติดลบแต้ม ยังรู้สึกคุ้มค่ากับการเลือกพวกฟอร์มขึ้น ที่ราคาดูทำกำไร
ดังนั้น นอกจากเนื้อหาปกติที่เรานำเสนออยู่แล้ว เดี๋ยว EP นี้ ผมจะเพิ่มในส่วนสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการตัดสินใจใช้ Wildcard มาด้วย รอติดตามละกันครับ เผื่อจะทำให้ตัดสินใจได้ถี่ถ้วนขึ้น
สรุปผลประกอบการ
กับการยอม -4 แล้วได้ 62 แต้มกลับมา ถือว่ายังน้อยกว่าที่คาดหวังไว้
คะแนน Gameweek 2 : 62 คะแนน
คะแนนรวม : 118 คะแนน
อันดับรวม : 1,975,678 (ตกมาจาก 1,644,287)
อันดับชาวไทย : 15,932 (ตกมาจาก 12,395)
อันดับ The.Macho League : 858 (ตกมาจาก 667)
ยังคงเป็น Gameweek ที่น่าผิดหวังในภาพรวม เพราะถึงจะทำคะแนนได้ระดับเดิม (สูงกว่าค่าเฉลี่ย) แต่กับการเสีย -4 ที่ดึง เด บรอยน์ และบรูโน่เข้ามา แลกด้วยการถอดโอบาเมย็อง กับซน เฮือง มิน กลับให้ผลลัพธ์ไม่น่าพิสมัย
KDB ผลิตสกอร์ที่ดีปิดท้ายที่ 13 คะแนน แต่กับบรูโน่ที่ทำได้แค่ 4 คะแนน (เลือกเป็นกัปตัน) แต่อปป้าซน กดไป 24 คะแนน ทำเอาจุก ร่วมด้วยอีกตัวเมเจอร์อย่างซาล่าห์ไม่เข้าเป้า คะแนนเลยน้อยอย่างที่เห็น
บรูโน่ ไม่อาจสร้างผลงานเด็ดได้ หลังฟอร์มทีมนัดแรกของแมนฯ ยู ทำได้ไม่ดี
ข้อดีคือการมีมิโตรวิช และแผงเกมรับเก็บแต้มได้ระดับ 6-7 คะแนนหมด แต่เมื่อเทียบกับพวกตัวที่มีคนเลือกไม่น้อย เช่น ซน, เคน, ริชาร์ลิสัน, คัลเวิร์ธ-เลวิน, แบมฟอร์ด, ฮาเมส ส่งผลให้อันดับทุกลีกตกลงจากเดิม
แน่นอนว่าการไม่เข้าเป้า 2 นัด ย่อมคิดถึงการปรับใหญ่อย่าง Wildcard แต่ก็ต้องคิดไตร่ตรองให้ดี ซึ่งเดี๋ยวผมจะมีอธิบายเพิ่มเติมในส่วนจัดทีม วัดใจ
ผลสอบนักเตะแนะนำ
ถึงไม่มีประตูอย่างคาด แต่ 3 แอสซิสต์ของริชาร์ลิสัน ก็โกยแต้มไม่เบา
ผู้รักษาประตู : จอร์แดน พิคฟอร์ด (1 คะแนน)
กองหลัง : ลุค อายลิ่ง (1 คะแนน), ลูก้า ดีญ (1 คะแนน)
กองกลาง : บรูโน่ แฟร์นันดส์ (2 คะแนน), แจ็ค แฮร์ริสัน (2 คะแนน), เจฟฟ์ เฮนดริกซ์ (2 คะแนน)
กองหน้า : ริชาร์ลิสัน (12 คะแนน), อเล็กซ็องดร์ ลากาแซตต์ (7 คะแนน)
Gameweek 3 : วิเคราะห์ทีเด็ด
ผู้รักษาประตู
รุย ปาทริซิโอ้ (วูล์ฟ / 5.5 ล้านปอนด์)
นายทวารทีมชาติโปรตุเกส ยังคงเหนียวแน่นตลอด ถึงแม้นัดล่าสุดจะโดนแมนฯ ซิตี้ ส่องไป 3 เม็ด แต่ก็ทำ 6 เซฟ เรียกว่าถ้าไม่โหดจริง ปาทริซิโอ้ไม่ปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ แน่นอน
หลังเจอของหนักทั้งเชฟฯ ยุ ต่อด้วยซิตี้ หลังจากนี้วูล์ฟจะมีโปรแกรมที่เบาลง กว่าจะเจอทีมระดับลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป ก็ยาวไปถึง Gameweek 8 ที่ออกไปเยือนเลสเตอร์ ดังนั้นโดยภาพรวมของฟอร์มและโปรแกรม สามารถไว้ใจนายด่านรายนี้ได้
กองหลัง
เวอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล / 6.5 ล้านปอนด์)
ความจริงเกมดวลกับอาร์เซน่อล ถือเป็นงานหนักของ “หงส์แดง” ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะลูกทีมของคลอปป์ แสดงให้เห็นว่ามีปัญหากับการรับมือกับ “ปืนใหญ่” ยุคอาร์เตต้า แต่จากการดูฟอร์มโดยรวมนัดเจอเชลซี เห็นได้ชัดว่าแชมป์เก่าเน้นมากขึ้นในนัดสำคัญ ส่งผลให้เกมรับที่นำโดยเวอร์จิล นิ่งขึ้นตามไปด้วย
นอกจากการันตีลงเล่นทุกนัด การเป็นเป้าหลักในการเล่นเซ็ตพีซ ก็เป็นอีกส่วนที่น่าสนใจ และสามารถเล่นงานอาร์เซน่อลได้ ยิ่งดูโปรแกรมข้างหน้าราว 10 นัด ลิเวอร์พูลก็เจองานไม่หนักจนเกินไป เวอร์จิลเลยน่าจับตามอง โดยเฉพาะค่าตัวที่ถูกกว่าแบ็คทั้ง 2 ข้าง
รีส เจมส์ (เชลซี / 5.1 ล้านปอนด์)
แบ็คดาวรุ่งชาวอังกฤษ ปรับเกมรับของตัวเองได้แน่นอนขึ้นมากในช่วงหลัง ถึงจะยังมีข้อผิดพลาดในการประกบตัวอยู่บ้าง แต่การป้องกันปีกฝ่ายตรงข้าม รวมถึงการดันเกมรุกตามจังหวะ ทำได้เนียนตากว่าซีซันก่อน
โปรแกรมของเชลซีถัดไป ต้องเจอ Top 6 แค่เพียง Gameweek 6 (เยือนแมนฯ ยู) และ 10 (เหย้ากับสเปอร์) นอกนั้นถือว่าไม่หนักหนา ถ้าความฟิตของนักเตะใหม่เริ่มลงตัว และทีมสามารถเล่นในรูปแบบที่แลมพาร์ดต้องการได้ ผลงานของทีมควรจะดีขึ้นตามลำดับ
กองกลาง
วิลฟรีด ซาฮา (พาเลซ / 7.1 ล้านปอนด์)
แนวรุกตัวสำคัญของพาเลซ เริ่มต้นซีซันได้ร้อนแรง ยิงไปแล้ว 3 ประตู และดูมีความมุ่งมั่นดีขึ้นกว่าเดิม ยิ่งการกลับมาเข้าฟอร์มของทาวน์เซ่นด์ คู่หูตัวรุกด้านข้าง ยิ่งทำให้ซาฮาเล่นเกมสวนกลับได้อันตราย มีจังหวะจบสกอร์ และแอสซิสต์ได้มากขึ้น
ดูโปรแกรมของพาเลซแล้ว ถึงนัดนี้จะเจอเกมหนักกับเอฟเวอร์ตัน ที่ชนะ 2 นัดรวดมาด้วยกัน แต่เกมรับของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ยังไม่ถึงกับแน่นนัก และถัดจากนั้นพาเลซก็เจองานระดับที่สู้ได้ การนำเข้าซาฮาสู่ทีม จึงอาจเป็นการลงทุนระยะยาวที่ดี
เควิน เด บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้ / 11.6 ล้านปอนด์)
จอมทัพคนสำคัญของ “เรือใบสีฟ้า” โชว์ฟอร์มเยี่ยมตั้งแต่นัดแรกที่ทีมบุกไปชนะวูล์ฟ 3-1 การเคลื่อนที่, การจ่าย และการสร้างสรรค์โอกาสมาครบ ถ้าไม่โดนฤทธิ์โรเตชันของเป๊บ หรือโดนโรงหมอเรียกตัว คาดว่าเขาจะเป็นตัวทำแต้มหลักต่ออีกซีซันแน่นอน
ว่ากันตามตรง โปรแกรมของซิตี้ในการเปิดหัวฤดูกาลไม่ง่าย เยือนวูล์ฟ, เปิดบ้านเจอเลสเตอร์, เยือนลีดส์ และเปิดบ้านเจออาร์เซน่อล แต่ด้วยคุณภาพของทีม และของตัว KDB เอง มันเชื่อได้ไม่ยาก ว่าเขาจะมีลุ้นโกยแต้มทุกนัดที่ลงสัมผัสสนาม
ซน ฮึง มิน (สเปอร์ / 9.0 ล้านปอนด์)
ทำเอากุนซือที่ถอดออกหลังจบ Gameweek 1 กุมหัวกันเป็นแถว เมื่ออปป้าซนกดคนเดียว 4 เม็ด จากการจู่โจมร่วมกับเคนอย่างรู้ใจ เล่นงานทีมหลังลอยอย่างเซาธ์แธมป์ตันซะยับเยิน กับนัดนี้ที่เปิดบ้านเจอนิวคาสเซิลที่ยืนต่ำ ถึงโอกาสทะลุทะลวงจะไม่เท่าเดิม แต่จังหวะความมั่นใจ ยังคงน่าชี้เป้าไปที่เขาอยู่ดี
มาดูคู่แข่ง “สาลิกาดง” นัดที่แล้วทรงไม่ดีเอาเลย ยิงเข้ากรอบไม่ได้ซักครั้ง การเปิดบ้านเจอสเปอร์ จำเป็นต้องปรับเกมให้ดีขึ้น แต่หากโดน “ไก่เดือยทอง” ออกนำก่อน แล้วเริ่มดันสูงขึ้น บอลสวนกลับของซนจะน่ากลัวขึ้นทันที ดังนั้นโอกาสจะผลิตสกอร์เพิ่ม จึงเป็นไปได้สูง
กองหน้า
ราอูล ฆิมิเนซ (วูล์ฟ / 8.5 ล้านปอนด์)
ศูนย์หน้าเม็กซิกัน ยิงประตูได้ทั้ง 2 นัดแรก โดยยังเป็นพวกใช้โอกาสไม่เปลืองเหมือนเดิม กับโปรแกรมของ “หมาป่า” ที่ไม่หนักหนามาก ตัวจบสกอร์หลักที่ยังไว้ใจได้ จึงน่ามีติดทีมไว้ หากคุณมีงบประมาณเพียงพอ
อย่างไรก็ดี โอกาสเข้าทำของฆิมิเนซ ขึ้นอยู่กับการเดินเกมของวูล์ฟเป็นหลัก เพราะเขาไม่ได้เป็นศูนย์หน้าในแบบที่ชงเองกินเองเต็มรูปแบบ การหวังพึ่งคะแนนจากเขา จึงต้องหวังฟอร์มองค์ประกอบในวันนั้นด้วย นั่นหมายความว่าหากคุณมีงบจำกัด ตัวเสริมแดนกลางอย่างตราโอเร่ หรือโพเดนซ์ อาจจะน่าลงทุนมากกว่า ต้องพิจารณาดูดีๆ
อเล็กซานดร้า มิโตรวิช (ฟูแล่ม / 6.0 ล้านปอนด์)
“เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ฟอร์มไม่ได้ดีเด่เลย ว่ากันตามตรงคือยังไม่ดีพอจะอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ หากไม่สามารถยกระดับฟอร์มจาก 2 นัดแรก อย่างไรก็ดี มีอย่างนึงที่เชื่อขนมกินได้ นั่นคือการหาโอกาสจบสกอร์ของมิโตรวิช เขายังคงเป็นความหวังสูงสุดไม่เปลี่ยน
โปรแกรมของฟูแล่มเองก็ไม่ถึงกับยากมาก หากนับราวๆ 7-8 นัดข้างหน้า เพราะพวกเขาจะไม่เจอ Top 6 เลย แต่อย่างที่บอกด้วยเรื่องของฟอร์ม แนวรับของพวกเขาจึงไม่น่ายุ่งเกี่ยวด้วย แต่กับเกมรุกที่ยังสร้างโอกาสได้บ้าง มิโตรวิชที่ราคา 6.0 ล้านปอนด์ จึงน่าคบหา
(ขออนุญาตต่อในคอมเมนท์ครับผม)
มิตรรัก นักแฟนตาซี : SS 2 EP 5 Wildcard ในมือสั่น! คิดให้ดี ตัดสินใจให้แม่น!