ในขณะที่เชียงใหม่ติดอันดับ 4 แต่ภูเก็ตไม่ติด Top 5 เลย ทั้งๆที่ถ้าช่วงปกติที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย ภูเก็ตจะมีนักท่องเที่ยวมากกว่าเชียงใหม่พอสมควร เพราะ ไฟลท์จากต่างประเทศมาลงภูเก็ตมีทั้งจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม อาหรับทั้งหลาย อินเดีย ออสเตรเลีย และยุโรป ลงทั้งวัน ทั้งคืน ในขณะที่เชียงใหม่ จะมีไฟลท์แค่จีน เกาหลีใต้ การ์ตา (มาบ้าง ไม่มาบ้าง) มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ไต้หวัน แค่นี้ ที่บินมา ไม่มีพวกแขก พวกฝรั่งมา แต่พอเป็นคนไทยเท่านั้น กลายเป็นว่า คนไทยนิยมไปเที่ยวเชียงใหม่มากกว่าภูเก็ต
ไฟลท์จากกรุงเทพ-เชียงใหม่ ทั้ง 2 สนามบินมีวันล่ะ
34 ไฟลท์ ในขณะที่ไฟลท์จากกรุงเทพ-ภูเก็ต ทั้ง 2 สนามบิน มีวันล่ะ
25 ไฟลท์เท่านั้น
ข้อมูลตามรายงานนี้ครับ
ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-มิถุนายน) พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยออกเดินทางรวมแล้ว 28.3 ล้านคนต่อครั้ง ลดลง 63% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 สร้างรายได้ 200,000 ล้านบาท ลดลง 62%
ข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ณ วันที่ 23 สิงหาคม2563 เปิดเผยตัวเลข ล่าสุด มียอดจองโรงแรมเพียง 625,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 1,874 ล้านบาท โดยรายละเอียดมีการจองโรงแรมทั้งสิ้น 3,823 แห่ง และมีการเข้าพัก (เช็กอิน) แล้ว 207,243 ห้อง และมีการแจ้งออกจากที่พัก (เช็กเอาต์) แล้ว จำนวน 198,241 ห้อง โดยราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 2,980 บาท
จังหวัดที่มียอดเข้าพักมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ
1. จังหวัดชลบุรี จำนวน 33,960 ห้อง
2. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 17,371 ห้อง
3. กรุงเทพฯ จำนวน 14,148 ห้อง
4. จังหวัดเชียงใหม่ 13,831 ห้อง
และ 5.จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 12,063 ห้อง
จากช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำไมคนไทยชอบไปเที่ยวเชียงใหม่มากกว่าภูเก็ตครับ ยอดการจองโรงแรมภูเก็ต ไม่ติด Top 5 เลย
ไฟลท์จากกรุงเทพ-เชียงใหม่ ทั้ง 2 สนามบินมีวันล่ะ 34 ไฟลท์ ในขณะที่ไฟลท์จากกรุงเทพ-ภูเก็ต ทั้ง 2 สนามบิน มีวันล่ะ 25 ไฟลท์เท่านั้น
ข้อมูลตามรายงานนี้ครับ
ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-มิถุนายน) พบว่า มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยออกเดินทางรวมแล้ว 28.3 ล้านคนต่อครั้ง ลดลง 63% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 สร้างรายได้ 200,000 ล้านบาท ลดลง 62%
ข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ณ วันที่ 23 สิงหาคม2563 เปิดเผยตัวเลข ล่าสุด มียอดจองโรงแรมเพียง 625,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 1,874 ล้านบาท โดยรายละเอียดมีการจองโรงแรมทั้งสิ้น 3,823 แห่ง และมีการเข้าพัก (เช็กอิน) แล้ว 207,243 ห้อง และมีการแจ้งออกจากที่พัก (เช็กเอาต์) แล้ว จำนวน 198,241 ห้อง โดยราคาห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 2,980 บาท
จังหวัดที่มียอดเข้าพักมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ
1. จังหวัดชลบุรี จำนวน 33,960 ห้อง
2. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 17,371 ห้อง
3. กรุงเทพฯ จำนวน 14,148 ห้อง
4. จังหวัดเชียงใหม่ 13,831 ห้อง
และ 5.จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 12,063 ห้อง