สวัสดีครับ เจอกับผม เต้ อีกเช่นเคยครับ วันนี้ผมก็จะมารีวิวมือถือ POCO X3 NFC ให้ชมกันนะครับ รีวิวนี้แหละ จะทำสั้นให้ได้คอยดู 555+ ผมเองได้มีเวลาอยู่กับ POCO X3 น่าจะประมาณสัปดาห์นึงพอดี และเท่าที่ผมใช้งานมา ผมค่อนข้างประทับใจอะไรหลายๆอย่างมากครับ 

 

และแน่นอนว่า POCO X3 มารอบนี้ ไม่ได้มีพื้นฐานมาจาก Xiaomi รุ่นไหนเลย คือเรียกได้ว่าเป็นการดีไซน์ภายนอกใหม่หมดนั้นเอง แต่ระบบภายในก็ยังเป็น MIUI อยู่นะครับ ^^

สำหรับใครที่อยากดูรีวิวเป็นวีดีโอสามารถดูได้ที่นี่เลยครับผม

 

กล่องของ POCO X3 แน่นอนว่า สีของ POCO จะเป็นสีเหลืองอยู่แล้ว และกล่องก็จะมาเป็นสีดำ ตัวหนังสือสีเหลือง

 

ขนาดตัวเครื่อง 165.3 x 76.8 x 9.4 มิลลิเมตร 

น้ำหนัก : 215 กรัม

หน้าจอแสดงผลขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 2400 x 1800 , อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 

ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 บน Android 10

CPU: Snapdragon 732G

GPU: Adreno 618

RAM : 6GB LPDDR4X

ความจุตัวเครื่อง 64/128GB ใช้หน่วยความจำแบบ UFS 2.1

กล้องหลัง 4 ตัว 64 + 13 + 2 + 2 ล้านพิกเซล

กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.89 SONY IMX682

กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 119 องศา

กล้อง Macro 2 ล้านพิกเซล f/2.4 โฟกัสใกล้สุดที่ระยะ 4 เซนติเมตร ไม่มีออโต้โฟกัส

กล้องวัดระยะความลึกขนาด 2 ล้านพิกเซล f/2.4

กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล  f/2.2

แบตเตอรี่ 5160mAh

รองรับชาร์จเร็ว 33W

มีช่องเสียบรูหูฟังขนาด 3.5 mm 

สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง

มีสีให้เลือก 2 สี สีเทา Shadow Gray และ สีน้ำเงิน Cobalt Blue

ราคา 6/64GB 6,999 บาท และ 6/128GB 7,999 บาท

 

อุปกรณ์ภายในกล่อง POCO X3 NFC ก็จะประกอบไปด้วยสมุดคู่มือและสมุดรับประกัน เข็มจิ้มถาดซิม เคสใส TPU แบบนิ่ม ที่ชาร์จ 33 วัตต์ สายชาร์จ Type-A เป็น Type-C และตัวเครื่อง POCO X3 NFC สีฟ้า Cobalt Blue

 

และที่พิเศษไปกว่านั้น เคสใสของ POCO X3 ที่แถมมาให้นั้น เป็นแบบป้องกันแบคทีเรียด้วยครับ...เข้ากับปี 2020 สุดๆ 555+

 

ตัวเครื่องภายนอกของ POCO X3 NFC จะเป็นบอดี้แบบพลาสติกแบบเงา แต่ด้านหลังจะเป็นกระจก ตัวเครื่องอาจจะดูหนาไปซักนิด ด้วยความหนา 9.4 มิลลิเมตร และน้ำหนักอยู่ที่ 215 กรัม ถือว่าหนักพอสมควร กับมือถือที่เป็นบอดี้แบบพลาสติก 

 

แต่ตัวเครื่องก็มีความโค้งรับกับมือและถือว่าจับถนัดมือมากเลยครับ 

 

ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นรูเสียงสำหรับลำโพงด้านบน ถัดมาก็จะเป็นไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และ IR Blaster ที่ไว้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆได้

 

ด้านขวาของตัวเครื่อง ก็จะมีปุ่มเปิดปิดเครื่องที่เป็นที่สแกนลายนิ้วมือในตัว ถัดมาก็จะเป็นปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียง

 

ด้านซ้ายก็จะมีช่องถาดใส่ซิมการ์ด

 

ถาดใส่ซิมการ์ดของ POCO X3 เป็นแบบ Hybrid Slot ที่ช่องที่ 1 ใส่ซิมการ์ด แต่ช่องที่สองต้องเลือกว่าจะใส่ซิมการ์ด หรือจะใส่เมโมรี่การ์ด เพราะฉะนั้นแล้วเลือกความจุให้เหมาะสมก่อนซื้อนะครับ ^^

 

ด่านล่างก็จะมีช่องหูฟัง 3.5 ช่อง Type-C ไมโครโฟนตัวหลัก และลำโพงตัวเครื่อง

 

ด้านหน้าก็จะมีช่องลำโพงสนทนา ซึ่งเป็นลำโพงตัวที่สองของตัวเครื่องอีกด้วย และในช่องยังเป็นที่อยู่ของ ไฟแจ้งเตือน LED สีขาวมาให้ด้วย และกล้องหน้าขนาด 20 ล้านพิกเซล f/2.2 จริงๆแล้วตัวเครื่องติดฟิล์มมาให้จากในกล่องแล้วครับ แต่บังเอิญฟิล์มผมเป็นรอยผมเลยแกะออกครับ 555+

 

ด้านหลังก็จะมีโมดูลกล้องที่หน้าตาอาจจะไม่ค่อยคุ้นตาซักเท่าไหร่ แต่ถ้าใส่เคสแล้ว โมดูลกล้องก็เหมือนจะเป็นวงกลมปกติ แต่ถ้าดูแบบไม่ใส่เคส มันก็จะเป็นสีเหลี่ยม ที่มีกล้องทั้งหมด 3 ตัว และแฟลช LED

 

ในส่วนของฝาหลังนั้น ก็จะเป็นทีอยู่ของ NFC เหมือนกับที่ชื่อรุ่นบอกไว้ แต่ไม่มีชาร์จไร้สายครับ

  

 และก็จะเป็นกระจกแบบเงา ที่มีลวดลายเส้นขวาง และมีคำว่า POCO อยุ่และที่พิเศษไปกว่านั้นคือในคำว่า POCO เมื่อมองในบางมุม มันจะออกสีรุ้งนิดนึง ผมบอกเลยว่าฝาหลังรอบนี้ทำออกมาสวยมากเลยครับ ^^

 

ส่วนความหนาของ โมดูลกล้องก็จะมีความหนาประมาณนึง เพราะฉะนั้น ถ้าเลือกซื้อเคสก็แนะนำให้เลือกแบบที่กันขอบเลนส์ได้หน่อยก็ดีนะครับ

 

แน่นอนว่ามือถือราคาระดับ 6-7 พันบาท ให้จอ IPS มาแน่นอน ด้วยขนาด 6.67 นิ้ว แบบไม่โค้ง ความละเอียด Full HD+ 2400 x 1800 พิกเซล และใช้กระจก...และอัตราส่วนหน้าจอ 20:9 ที่สู้แสงได้ในระดับนึงเลยครับ

แต่ที่สำคัญคือ ถึงมันจะเป็นมือถือราคา 6-7 พันบาท ที่ได้จอ IPS แน่นอน แต่จอที่ให้มานี่คือจอ 120Hz ??? ผมบอกตรงๆเลยว่าผมตกใจตั้งแต่เห็นสเปกครั้งแรกแล้ว แต่พอมาใช้จริงกลับรู้สึกผิดคาด...เพราะตอนแรกผมคิดว่า มือถือราคาขนาดนี้ จอ 120Hz คุณภาพมันก็ไม่น่าจะดีมากหรอก...แต่ที่ไหนได้ ในเรื่องของความลื่น มุมมอง และสีสัน ทำได้ดีไม่แพ้จอ IPS ราคาแพงเลย...ก็ถือเป็นอีกมาตรฐานนึงไปแล้วว่าจอมือถือจะต้องมีรีเฟรชเรทที่มากกว่า 60Hz ไปแล้ว และผมเชื่อว่าหลายคนคงจะกลับไปใช้ 60Hz ไม่ได้อีก เพราะเราจะรู้สึกว่ามันกระตุกไปเลย 555+

 

และหน้าจอของ POCO X3 ก็ยังเป็นรีเฟรชเรทแบบแปรผันไปตามสิ่งที่ใช้งานบนหน้าจอด้วย เช่น ถ้าถ่ายวีดีโอ รีเฟรชเรทหน้าจอก็จะทำงานที่ 60Hz หรือถ้าเรากำลังเล่นเกมส์ รีเฟรชเรทก็จะทำงานช่วง 60-120HZ แต่ถ้าเราสไลด์เฟซบุ๊คหรือเลื่อนขึ้นเลื่อนลงก็จะเป็น 120Hz เพราะฉะนั้นในบางแอพ เมื่อใช้งาน ก็อาจจะมีการเปลี่ยนมาเป็น 60Hz บ้าง เช่นแอพ Netflix Google Maps Youtube เป็นต้น

 

สีหน้าจอที่ผมแนะนำให้ปรับก็ยังคงเป็นโหมด พื้นฐาน เหมือนเดิมครับ…สิ่งนึงที่ผมสังเกตคือ เซ็นเซอร์ปรับระดับแสงหน้าจอ ทำงานได้เร็วมากๆ คือเจอแสงปุ๊ป เร่งแสงทันทีเลย แต่ผมรู้สึกว่าการเปลี่ยนระดับแสงในบางช่วง มันไม่ค่อยลื่นตาซักเท่าไหร่ ปกติมันก็จะค่อยๆไล่ไปแบบเนียนๆตา แต่กับ POCO X3 การเปลี่ยนแสงบางช่วงมันเหมือนเป็นขั้นบันได เวลามันเปลี่ยนระดับแสง มันจะเป็นขั้นๆ มันดูไม่ลื่นตาเท่าไหร่...แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญอะไรขนาดนั้นนะครับ ทั้งนี้ก็อาจจะต้องรอซอฟแวร์ออกมาอัพเดตอีกที