การซ้อมแบบ “เมอร์เดอร์บอล” ของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เจ้าของฉายา “เอล โลโค”

“ฟุตบอลของผมง่ายมาก .... เราวิ่งตลอดเวลา”

เขากล่าวถึงปรัชญาการคุมทีมของตัวเอง นอกจากกลยุทธ์การเล่นที่เข้มข้นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ลูกทีมของเขาจำเป็นต้องมี นั่นคือการวิ่งแบบลืมตาย ทั้งตอนมี และไม่มีบอล จนแนวความคิดดังกล่าว ถูกขนานนามว่า “เมอร์เดอร์บอล” หรือแปลเป็นไทยว่า “ลูกบอลแห่งการสังหาร” โดยพุ่งตรงเป้าหมายไปยังที่ขา และปอด

ปัจจุบัน, เขารับงานคุมทีมลีดส์ ยูไนเต็ด ช่วงกลางสัปดาห์ เขามักใส่การซ้อมรูปแบบเมอร์เดอร์บอล ลงไป ลูกทีมทุกคนวิ่งกันจนขาลาก และใส่ทุกพลังงานที่มีลงไปแบบไม่ยั้ง นักเตะบางคนถึงกับเปรียบเปรยว่า การซ้อมแบบนี้ หนักหน่วงกว่าการแข่งขันจริงเสียอีก

“เมอร์เดอร์บอล ก็คือการแบ่งทีมกัน ข้างละ 11 คน” มาเทอุซ คลิช ดาวเตะของลีดส์ ยูไนเต็ด เริ่มอธิบาย “พวกเราวิ่งกันไปทั่วสนาม และวิ่งแบบไม่หยุดด้วย !! ผู้จัดการทีมคอยตะโกนสั่งการตลอด โดยพื้นฐานแล้ว คุณไม่สามารถหยุดวิ่งได้เลย”



คลิช เล่าต่อว่า “การซ้อมถือว่ามีรูปแบบ และกฏกติกาที่ธรรมดามาก 11 คนต่อ 11 คน โดยมีสนามใหญ่เป็นลานประลอง คุณมีหน้าที่เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาเล่นไป บนข้อแม้เดียว นั่นคือคุณห้ามหยุดวิ่งอย่างเด็ดขาด !! ผมมองว่ามันโคตรยาก กระนั้น นี่คือการซ้อมที่สำคัญที่สุดของสัปดาห์เลย”

“การซ้อมขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีมว่า เขาต้องการให้เราทำนานแค่ไหน อาจจะเป็นทำ 6 นาที 5 ครั้ง หรือไม่ก็ครั้งละ 20 นาที ยาวไปเลย ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เขาต้องการ แม้ว่าลูกบอลจะออกจากนอกสนามไปแล้ว สตาฟที่ยืนตามจุดต่างๆจะรีบโยนบอลเข้ามาใหม่ทันที นั่นหมายความว่า คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดวิ่ง”

“ความเข้มข้นของการฝึกซ้อมเมอร์เดอร์บอล ในช่วงวันพุธ ผมมองว่ามันหนัก และยากกว่าการแข่งขันในเกมลีกเสียอีก”คลิช ปิดท้าย
ขณะที่เลียม คูเปอร์ กัปตันทีมของพลพรรค “ยูงทอง” ออกมากล่าวบ้างว่า แม้ว่าเขาจะเล่นในตำแหน่งปราการหลัง แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงจากเมอร์เดอร์บอล เขาต้องวิ่งแบบไม่คิดชีวิตเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม การซ้อมแบบนั้น กลับผลิดอกออกผลอย่างช้ดเจนในเกมการแข่งขันจริงโดยเผยว่า “ถือเป็นอะไรที่โกลาหลมากเลย !! การซ้อมแบบเมอร์เดอร์บอล ส่งผลให้สถิติการวิ่งของเราพุ่งสูงที่สุดในรอบสัปดาห์”


นี่คือแนวทางของเรา แน่นอนว่า เราฝึกซ้อมด้วยความเข้มข้น และหนักกว่าทีมอื่น” คูเปอร์ ทิ้งท้าย
“Practice does not make perfect, Practice makes permanent”
นี่คือปรัชญาการคุมทีมของเจ้าของฉายา “เอล โลโค” หรือว่าคนบ้าระห่ำ ..... มาร์เซโล่ บิเอลซ่า

Credit: Football Vintage
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่