คือจขกท.อายุ13ค่ะ แบบชีวิตก็ก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน เลยอยากเล่าให้ฟังค่ะ
ตอนเด็กเราอยู่กับยายแล้วน้องชายอยู่กับแม่ คือเราเป็นเด็กขี้โรค รพ.เหมือนเป็นบ้านหลังที่2เลยก็ว่าได้เราเลยได้อยู่กับยาย(ในเมือง)แต่พอเป็นภูมิแพ้เลยต้องไปอยู่กับแม่(บ้านนอกบนเขา)คือตอนแรกก็งงอยู่ว่าใครแม่เรา555(ไม่ได้เจอแม่บ่อย)แม่ก็พาเราไปเรียน(ตอนนั้นประมาณป.1)เราก็ไม่ชินกับคนแปลกหน้าไงร้องไห้ทุกวัน555 ก็โดนล้อบ้างไรบ้างแต่ก็ไม่เข้าใจภาษาที่เค้าพูด(ภาษาอิสาน) จนอยู่ได้3ปีเราก็คุยกับพ่อแม่แบบสนิทสักทีแต่เหมือนพ่อแม่สนใจน้องมากกว่าก็เลยงอล เลยพยายามเป็นจุดเด่นในด้านต่างๆเช่นเรียน ร้องเพลง การแสดง บลาๆ จนเป็นดาวเด่นทุกคนแบบอวยเราก็เหลิง มั่นหน้าค่ะ55แต่พอป.5ก็แบบโดนดูถูก(การแข่งขันเริ่มเยอะ)แบบไม่เห็นเก่งเลย เราก็พยายามจนถึงที่สุดแต่มันก็เท่านั้น จนเฟลมากติดอนิเมะซะงั้นเพื่อนก็แบบปัญญาอ่อนวะ ถ้าแกไม่ชอบเราก็จะไม่ทำ คือทำตามที่ทุกคนอยากให้ทำ พอเราทำแบบนี้ก็เริ่มมีคนอวย+เก่งที่สุดแล้ว จนพยายามมากไปแล้วมันเหนื่อยก็อยากพักแต่คนอื่นก็ว่ามีแค่นี้เองหรอ เราแบบท้อมากจนคิดว่าก่อนจบ(ป.6)อยากใช้ชีวิตแบบตัวเองสุดๆจากนั้นเลยโดนบลูลี่ โดนล้อ แต่เพราะตอนนั้นหน้าตาดีไงเลยไม่โดนเยอะ พอทำตัวแบบนี้นานๆมันก็เริ่มหนักขึ้นแต่มันก็มีเพื่อนที่ชอบสิ่งเหมือนเราก็เลยอยู่ด้วยกันมาตลอดคือเค้าโคตรเข้าใจความรู้สึกเราอย่างซึ่งT∆T
จนก่อนจบก็เต้นเพลงติ่งเกาไงแต่คนที่นู้นเค้าไม่เข้าใจ เราก็พยายามหาเพื่อนเต้นด้วยแต่คนอื่นตอบว่า“เพลงอะไรฟังไม่รู้เรื่องไม่เต้นด้วยหรอกแบร!”คือแบบติ่งอย่างเรามันก็ปี๊ด!ก็พวกโง่ไงไอสั_สุดท้ายเราก็เต้นกัน2คน
ก่อนเราต้องไปกล่าวสุนทรพจน์บอกประวัติแต่เราอายุน้อยสุดในสายชั้นไงแล้งโดนบลูลี่เรื่องอายุwhat_*_ แล้วเราก็พูดชื่อรร.ที่อยากเรียนต่อแต่ของเรามันเป็นรร.ดังประจำจังหวัดอื่น เพื่อนก็แบบจะสอบติดอยู่หรอวะ เราเฟลเลยพยายามทำให้ติดจนได้แล้วพวกมันก็บอกว่าเราฟลุก? เออเอาเข้าไป
เราก็ย้ายไปอยู่กับยายในเมืองคือเราแทบไม่รู้จักคำว่าในเมืองเลยยย ตอนแรกนึกว่าเด็กในเมืองจะแบบไฮโซต้องหรูตลอดบลูลี่เก่งมันไม่ใช่ เด็กคนอื่นเค้าก็ดูธรรมดาแต่มองโลกกว้างเปิดใจคือดีย์อ่ะ แต่เราก็เอ๋อไงโดนแซวบ้าง+ไม่ได้เก่งเท่าเค้า แต่ไม่ถึงขั้นแกล้งรู้สึกว่าเด็กที่นี่เค้าดูเป็นผู้ใหญ่แต่มันเริ่มมีปัญหาทางครอบครัวแบบคนในครอบครัวนินทากันแบบป้าก็ด่าเราไม่ไว้หน้าคือบ้านขายข้าวแล้วต้องเซพอาหารงานบริการต้องมาแต่อินี่อยู่บ้านนอกก็ทำไม่ค่อยเป็นไง+เพื่อนในห้องเก่งจนเราโดนเปรียบเทียบ คือบางครั้งก็เฟลเรารู้จักเพื่อนเราก็รู้ว่านิสัยเป็นยังไงเอาตรงๆคืออวยเพื่อนจนเกินเหตุแล้วยังเถียงเราว่าเพื่อนคนนั้นเป็นยังไงคือเราเป็นเพื่อนมันนะเว้ยย
ครอบครัวก็เริ่มดูถูกเลื่อยๆจนแบบต้องปลอบใจตัวเอง คือป้ารักคนอื่นอยากให้เค้าสบายแต่ให้เราดูแลคนอื่นแต่ป้ากลับไม่ทำอะไรคืออะไรอ่ะบางคนเราไม่รู้จักด้วยซ้ำแล้วไม่โอเคมากคือนินทาคนในครอบครัวด้วยกันเองต่างคนต่างนินทากันบางครั้งก็ด่าเราลับๆบางครั้งก็ด่าไม่ไว้หน้าเลยแล้วทุกคำที่พูดก็ไม่ได้เป็นจริงทุกคำเช่นยื่นคำแนะนำให้แต่เค้าบอกคนอื่นว่าเราด่าเค้า-*-
กับการที่เค้าขอความช่วยเหลือเราก็ไปช่วยเช่นง่ายๆทอดไข่คือเราไม่ใส่น้ำมันแต่เค้ากลับวีนใส่รสชาติไม่ถูกปากก็ว่าเรา โดยถึงทำดีก็ไม่ค่อยได้คำชม พอเราท้อก็เฉยแถมบางครั้งยังซ้ำเติม
จนเราต้องให้กำลังใจตัวเองจนถึงม.2ค่าใช้จ่ายอันไหนออกเองได้ก็ออกเอง
คือที่เขียนมาอยากบอกว่าคนที่โดนบลูลี่ทั้งเพื่อนหรือครอบครัวอยากให้ผลักดันตัวเองอย่าทำร้ายตัวเองเลยค่ะ รักตัวเองมากๆเพราะคนเรารักอาจไม่รักเราจริงๆก็ได้ เราก็มีเพื่อนเป็นโรคซึมเศร้าทำร้ายตัวเองเราก็บอกมันไป“ถ้าไม่รักตัวเองแล้วใครจะรักวะ”มันคือประโยคเดียวใช้บอกตัวเองมีแค่เรารู้ว่าเรารักตัวเองมากแค่ไหน เราไม่รู้หรอกว่าคนอื่นรักเรา100%มั้ย เพราะงั้นสู้ๆค่ะ ปล.เราไม่เคยเป็นโรคซึมเศร้าเลยค่ะ😅อาจจะไม่ค่อยเข้าใจโรคนี้เท่าไรนะคะ
บายยยย
ถูกสังคมดูถูกจนคิดว่าต้องรักตัวเองที่สุด
ตอนเด็กเราอยู่กับยายแล้วน้องชายอยู่กับแม่ คือเราเป็นเด็กขี้โรค รพ.เหมือนเป็นบ้านหลังที่2เลยก็ว่าได้เราเลยได้อยู่กับยาย(ในเมือง)แต่พอเป็นภูมิแพ้เลยต้องไปอยู่กับแม่(บ้านนอกบนเขา)คือตอนแรกก็งงอยู่ว่าใครแม่เรา555(ไม่ได้เจอแม่บ่อย)แม่ก็พาเราไปเรียน(ตอนนั้นประมาณป.1)เราก็ไม่ชินกับคนแปลกหน้าไงร้องไห้ทุกวัน555 ก็โดนล้อบ้างไรบ้างแต่ก็ไม่เข้าใจภาษาที่เค้าพูด(ภาษาอิสาน) จนอยู่ได้3ปีเราก็คุยกับพ่อแม่แบบสนิทสักทีแต่เหมือนพ่อแม่สนใจน้องมากกว่าก็เลยงอล เลยพยายามเป็นจุดเด่นในด้านต่างๆเช่นเรียน ร้องเพลง การแสดง บลาๆ จนเป็นดาวเด่นทุกคนแบบอวยเราก็เหลิง มั่นหน้าค่ะ55แต่พอป.5ก็แบบโดนดูถูก(การแข่งขันเริ่มเยอะ)แบบไม่เห็นเก่งเลย เราก็พยายามจนถึงที่สุดแต่มันก็เท่านั้น จนเฟลมากติดอนิเมะซะงั้นเพื่อนก็แบบปัญญาอ่อนวะ ถ้าแกไม่ชอบเราก็จะไม่ทำ คือทำตามที่ทุกคนอยากให้ทำ พอเราทำแบบนี้ก็เริ่มมีคนอวย+เก่งที่สุดแล้ว จนพยายามมากไปแล้วมันเหนื่อยก็อยากพักแต่คนอื่นก็ว่ามีแค่นี้เองหรอ เราแบบท้อมากจนคิดว่าก่อนจบ(ป.6)อยากใช้ชีวิตแบบตัวเองสุดๆจากนั้นเลยโดนบลูลี่ โดนล้อ แต่เพราะตอนนั้นหน้าตาดีไงเลยไม่โดนเยอะ พอทำตัวแบบนี้นานๆมันก็เริ่มหนักขึ้นแต่มันก็มีเพื่อนที่ชอบสิ่งเหมือนเราก็เลยอยู่ด้วยกันมาตลอดคือเค้าโคตรเข้าใจความรู้สึกเราอย่างซึ่งT∆T
จนก่อนจบก็เต้นเพลงติ่งเกาไงแต่คนที่นู้นเค้าไม่เข้าใจ เราก็พยายามหาเพื่อนเต้นด้วยแต่คนอื่นตอบว่า“เพลงอะไรฟังไม่รู้เรื่องไม่เต้นด้วยหรอกแบร!”คือแบบติ่งอย่างเรามันก็ปี๊ด!ก็พวกโง่ไงไอสั_สุดท้ายเราก็เต้นกัน2คน
ก่อนเราต้องไปกล่าวสุนทรพจน์บอกประวัติแต่เราอายุน้อยสุดในสายชั้นไงแล้งโดนบลูลี่เรื่องอายุwhat_*_ แล้วเราก็พูดชื่อรร.ที่อยากเรียนต่อแต่ของเรามันเป็นรร.ดังประจำจังหวัดอื่น เพื่อนก็แบบจะสอบติดอยู่หรอวะ เราเฟลเลยพยายามทำให้ติดจนได้แล้วพวกมันก็บอกว่าเราฟลุก? เออเอาเข้าไป
เราก็ย้ายไปอยู่กับยายในเมืองคือเราแทบไม่รู้จักคำว่าในเมืองเลยยย ตอนแรกนึกว่าเด็กในเมืองจะแบบไฮโซต้องหรูตลอดบลูลี่เก่งมันไม่ใช่ เด็กคนอื่นเค้าก็ดูธรรมดาแต่มองโลกกว้างเปิดใจคือดีย์อ่ะ แต่เราก็เอ๋อไงโดนแซวบ้าง+ไม่ได้เก่งเท่าเค้า แต่ไม่ถึงขั้นแกล้งรู้สึกว่าเด็กที่นี่เค้าดูเป็นผู้ใหญ่แต่มันเริ่มมีปัญหาทางครอบครัวแบบคนในครอบครัวนินทากันแบบป้าก็ด่าเราไม่ไว้หน้าคือบ้านขายข้าวแล้วต้องเซพอาหารงานบริการต้องมาแต่อินี่อยู่บ้านนอกก็ทำไม่ค่อยเป็นไง+เพื่อนในห้องเก่งจนเราโดนเปรียบเทียบ คือบางครั้งก็เฟลเรารู้จักเพื่อนเราก็รู้ว่านิสัยเป็นยังไงเอาตรงๆคืออวยเพื่อนจนเกินเหตุแล้วยังเถียงเราว่าเพื่อนคนนั้นเป็นยังไงคือเราเป็นเพื่อนมันนะเว้ยย
ครอบครัวก็เริ่มดูถูกเลื่อยๆจนแบบต้องปลอบใจตัวเอง คือป้ารักคนอื่นอยากให้เค้าสบายแต่ให้เราดูแลคนอื่นแต่ป้ากลับไม่ทำอะไรคืออะไรอ่ะบางคนเราไม่รู้จักด้วยซ้ำแล้วไม่โอเคมากคือนินทาคนในครอบครัวด้วยกันเองต่างคนต่างนินทากันบางครั้งก็ด่าเราลับๆบางครั้งก็ด่าไม่ไว้หน้าเลยแล้วทุกคำที่พูดก็ไม่ได้เป็นจริงทุกคำเช่นยื่นคำแนะนำให้แต่เค้าบอกคนอื่นว่าเราด่าเค้า-*-
กับการที่เค้าขอความช่วยเหลือเราก็ไปช่วยเช่นง่ายๆทอดไข่คือเราไม่ใส่น้ำมันแต่เค้ากลับวีนใส่รสชาติไม่ถูกปากก็ว่าเรา โดยถึงทำดีก็ไม่ค่อยได้คำชม พอเราท้อก็เฉยแถมบางครั้งยังซ้ำเติม
จนเราต้องให้กำลังใจตัวเองจนถึงม.2ค่าใช้จ่ายอันไหนออกเองได้ก็ออกเอง
คือที่เขียนมาอยากบอกว่าคนที่โดนบลูลี่ทั้งเพื่อนหรือครอบครัวอยากให้ผลักดันตัวเองอย่าทำร้ายตัวเองเลยค่ะ รักตัวเองมากๆเพราะคนเรารักอาจไม่รักเราจริงๆก็ได้ เราก็มีเพื่อนเป็นโรคซึมเศร้าทำร้ายตัวเองเราก็บอกมันไป“ถ้าไม่รักตัวเองแล้วใครจะรักวะ”มันคือประโยคเดียวใช้บอกตัวเองมีแค่เรารู้ว่าเรารักตัวเองมากแค่ไหน เราไม่รู้หรอกว่าคนอื่นรักเรา100%มั้ย เพราะงั้นสู้ๆค่ะ ปล.เราไม่เคยเป็นโรคซึมเศร้าเลยค่ะ😅อาจจะไม่ค่อยเข้าใจโรคนี้เท่าไรนะคะ
บายยยย