เราจะพัฒนาความสัมพันธ์นี้ต่อไปยังไงดีคะ
มีพี่คนนึง เป็นรุ่นพี่ในเอกที่มหาลัย (แต่เราจำเขาไม่ได้มาก่อน) เราได้มาพูดคุยทำความรู้จักกันตอนที่เราจะขี่รถส่งอาหารแบบพี่เขา (ขอไม่บอกว่าค่ายไหน)
เราก็พูดคุย สอบถามเกี่ยวกับการขี่รถส่งอาหารนี่แหละ แต่ก็แอบปลื้มนิดๆ เพราะพี่เขาเป็นสาวออฟฟิศ สวย น่ารักพูดจาดีมากๆ (ที่เราเลือกขับค่ายนี้เพราะพี่เขานี่แหละ ตอนแรกจะขับอีกค่ายด้วยซ้ำ แต่พอได้เจอพี่คนนี้เลยตัดสินใจขับตามเขา)
แต่มีอยู่วันนึง อยู่ๆเขาก็มาปรึกษาเรื่องแฟนเขา(ที่เป็นผู้ชายแมนๆ)ว่าบางทีก็ไม่ค่อยสนใจกัน ไม่เคยบอกรักกัน ไม่เคยบอกฝันดี บางทีพี่เขาก็น้อยใจ เพราะว่าคนเป็นแฟนกันมันก็ต้องมีฟิลโรแมนติคบ้าง
เขาบอกว่า เขารักแฟนเขานะ แต่บางทีมันก็รู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากจะไปต่อแล้ว
ความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยและความเห็นอกเห็นใจของเราก็ทำงานเต็มระบบทันทีค่ะ
พอได้ยินอย่างนั้น เราโคตะระอยากยุให้เลิกกันไปเลยค่ะ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่ปลอบประโลม และให้กำลังใจพี่เขาว่า ต้องใจเย็นๆ คนรักกันก็ต้องเข้าใจกัน พี่ผู้ชายก็คงรักในแบบของเขา แต่ก็เข้าใจว่าพี่ผู้หญิงก็น้อยใจมากๆเวลาที่แฟน(ทำเหมือน)ไม่ค่อยใส่ใจ
แต่ถ้าพี่พยายามมากแล้ว จนรู้สึกเหนื่อยมากๆ ก็อยากให้พี่หยุดพัก แล้วคิดว่าจะไปต่อดีไหม หรือจะพอแค่นี้ เพราะหนูก็เป็นห่วง ไม่อยากให้พี่เจ็บเปล่าๆปลี้ๆ
ถ้าพี่ยังไหวก็ไปต่อได้ แต่ถ้าพี่เหนื่อยจนท้อ ก็อยากให้พี่หยุดก่อนจะเจ็บไปมากกว่านี้
เขามาปรึกษาเรา 2 ครั้ง ก็ให้คำแนะนำเหมือนเดิมทั้งสองครั้งค่ะ เราพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าเราคิดยังไงกับเขา เผื่อเขาไม่ได้คิดอะไรกับเรา แบบนี้เราเจ็บฟรีๆแน่นอน
ล่าสุดก็ชวนเขาไปกินข้าวด้วยกัน เพราะเขาบอกว่าร้านนี้อร่อย ก็ถ่ายรูปคู่กันเก็บไว้ลงกลุ่มคนขับรถส่งอาหารเพื่อเรียกเรตติ้ง 5555+
มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ ที่ได้ถ่ายรูปคู่กับคนที่เราชอบ
เราก็เอาลงเฟสส่วนตัวด้วย ก็มีเพื่อนๆเข้ามากดไลค์ เข้ามาชมกัน แต่มีเม้นนึง เป็นเพื่อนของพี่เขา(ก็เป็นรุ่นพี่เราที่มอด้วย) เขามาแซวว่า “อุ้ย บุพเพ”
เราก็แอบยิ้มนะ รู้สึกหวั่นไหว คิดไปไกลเลย แต่ต้องเก็บอาการ แล้วตอบกลับไปแบบขำๆว่า “บุพเพอาละวาดใช่ไหมพี่5555”
ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจว่า บุพเพ ของเขานี่หมายถึงอะไรกันแน่ หน้าเราเหมือนกันเหรอ หรือดูเหมือนเป็นแฟนกัน อย่างนี้เหรอ และไม่กล้าถามด้วย เพราะกลัวพี่เขาไปคุยกัน แล้วจะมองเราเปลี่ยนไป
มาถึงจุดนี้แล้ว สิ่งสำคัญคือเรื่องเพศสภาพนี่แหละ
อ่านแล้วคงรู้สึกเหมือนความรักของหญิงรักหญิงใช่ไหมคะ มันถูกแค่ครึ่งเดียวค่ะ
เพราะเราเป็นสาวประเภทสองที่ชอบผู้หญิง
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พี่เขาจะโอเคไหม กับการที่มีสาวประเภทสองมาจีบเขา
จริงๆเขาก็รู้ตั้งแต่ทำความรู้จักกันแรกๆแล้วนะ ว่าเราแต่งสาวจริง แต่เราไม่ชอบผู้ชาย
ถ้าเขารับได้ว่าจะมีสาวประเภทสอง ที่เคยใช้ชีวิตเป็นผู้ชายปกติมาก่อน จะมาจีบ มาดูแลหัวใจ เราก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาไปอ่ะ
เราจะพัฒนาความสัมพันธ์นี้ต่อไปยังไงดีคะ (สาวสองรักหญิง)
มีพี่คนนึง เป็นรุ่นพี่ในเอกที่มหาลัย (แต่เราจำเขาไม่ได้มาก่อน) เราได้มาพูดคุยทำความรู้จักกันตอนที่เราจะขี่รถส่งอาหารแบบพี่เขา (ขอไม่บอกว่าค่ายไหน)
เราก็พูดคุย สอบถามเกี่ยวกับการขี่รถส่งอาหารนี่แหละ แต่ก็แอบปลื้มนิดๆ เพราะพี่เขาเป็นสาวออฟฟิศ สวย น่ารักพูดจาดีมากๆ (ที่เราเลือกขับค่ายนี้เพราะพี่เขานี่แหละ ตอนแรกจะขับอีกค่ายด้วยซ้ำ แต่พอได้เจอพี่คนนี้เลยตัดสินใจขับตามเขา)
แต่มีอยู่วันนึง อยู่ๆเขาก็มาปรึกษาเรื่องแฟนเขา(ที่เป็นผู้ชายแมนๆ)ว่าบางทีก็ไม่ค่อยสนใจกัน ไม่เคยบอกรักกัน ไม่เคยบอกฝันดี บางทีพี่เขาก็น้อยใจ เพราะว่าคนเป็นแฟนกันมันก็ต้องมีฟิลโรแมนติคบ้าง
เขาบอกว่า เขารักแฟนเขานะ แต่บางทีมันก็รู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากจะไปต่อแล้ว
ความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยและความเห็นอกเห็นใจของเราก็ทำงานเต็มระบบทันทีค่ะ
พอได้ยินอย่างนั้น เราโคตะระอยากยุให้เลิกกันไปเลยค่ะ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้แค่ปลอบประโลม และให้กำลังใจพี่เขาว่า ต้องใจเย็นๆ คนรักกันก็ต้องเข้าใจกัน พี่ผู้ชายก็คงรักในแบบของเขา แต่ก็เข้าใจว่าพี่ผู้หญิงก็น้อยใจมากๆเวลาที่แฟน(ทำเหมือน)ไม่ค่อยใส่ใจ
แต่ถ้าพี่พยายามมากแล้ว จนรู้สึกเหนื่อยมากๆ ก็อยากให้พี่หยุดพัก แล้วคิดว่าจะไปต่อดีไหม หรือจะพอแค่นี้ เพราะหนูก็เป็นห่วง ไม่อยากให้พี่เจ็บเปล่าๆปลี้ๆ
ถ้าพี่ยังไหวก็ไปต่อได้ แต่ถ้าพี่เหนื่อยจนท้อ ก็อยากให้พี่หยุดก่อนจะเจ็บไปมากกว่านี้
เขามาปรึกษาเรา 2 ครั้ง ก็ให้คำแนะนำเหมือนเดิมทั้งสองครั้งค่ะ เราพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าเราคิดยังไงกับเขา เผื่อเขาไม่ได้คิดอะไรกับเรา แบบนี้เราเจ็บฟรีๆแน่นอน
ล่าสุดก็ชวนเขาไปกินข้าวด้วยกัน เพราะเขาบอกว่าร้านนี้อร่อย ก็ถ่ายรูปคู่กันเก็บไว้ลงกลุ่มคนขับรถส่งอาหารเพื่อเรียกเรตติ้ง 5555+
มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ ที่ได้ถ่ายรูปคู่กับคนที่เราชอบ
เราก็เอาลงเฟสส่วนตัวด้วย ก็มีเพื่อนๆเข้ามากดไลค์ เข้ามาชมกัน แต่มีเม้นนึง เป็นเพื่อนของพี่เขา(ก็เป็นรุ่นพี่เราที่มอด้วย) เขามาแซวว่า “อุ้ย บุพเพ”
เราก็แอบยิ้มนะ รู้สึกหวั่นไหว คิดไปไกลเลย แต่ต้องเก็บอาการ แล้วตอบกลับไปแบบขำๆว่า “บุพเพอาละวาดใช่ไหมพี่5555”
ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจว่า บุพเพ ของเขานี่หมายถึงอะไรกันแน่ หน้าเราเหมือนกันเหรอ หรือดูเหมือนเป็นแฟนกัน อย่างนี้เหรอ และไม่กล้าถามด้วย เพราะกลัวพี่เขาไปคุยกัน แล้วจะมองเราเปลี่ยนไป
มาถึงจุดนี้แล้ว สิ่งสำคัญคือเรื่องเพศสภาพนี่แหละ
อ่านแล้วคงรู้สึกเหมือนความรักของหญิงรักหญิงใช่ไหมคะ มันถูกแค่ครึ่งเดียวค่ะ
เพราะเราเป็นสาวประเภทสองที่ชอบผู้หญิง
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พี่เขาจะโอเคไหม กับการที่มีสาวประเภทสองมาจีบเขา
จริงๆเขาก็รู้ตั้งแต่ทำความรู้จักกันแรกๆแล้วนะ ว่าเราแต่งสาวจริง แต่เราไม่ชอบผู้ชาย
ถ้าเขารับได้ว่าจะมีสาวประเภทสอง ที่เคยใช้ชีวิตเป็นผู้ชายปกติมาก่อน จะมาจีบ มาดูแลหัวใจ เราก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาไปอ่ะ