คนที่ตั้งใจมาเที่ยวจริงๆคือน้อยมากในรอบ10ปีก็เพิ่งมีนี่แหละที่เป็นนักท่องเที่ยว ประโยคสั้นๆจากร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ปัตตานี มันAttack feeling เข้าไปถึงใจ มีคำถามมากมายเกิดขึ้นทันทีตีกันไปหมด ก่อนเริ่มเรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ขอทักทายทุกคนก่อนว่า อัสลามมุอะลัยกุม(สวัสดีค่ะ มาถึงถิ่นก็ต้องขออนุญาตทักทายในแบบภาษาอาหรับของชาวไทย-มุสลิมกันสักหน่อย)
จากสื่อต่างๆที่นำเสนอข่าวที่เราๆก็คงทราบกันดี เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในมุมของคนที่อยู่นอกพื้นที่อย่างเรา น้อยคนที่อยากจะมาเยือนในจังหวัดที่มองจากภายนอกแล้ว พูดง่ายๆเลยก็คือน่ากลัวอ่ะแหละ แต่คนในพื้นที่จริงๆเขาต่างก็ใช้ชีวิตกันปกติดี ถ้าไม่มาเห็นด้วยตัวเองก็คงไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว3จังหวัดชายแดนใต้ มาได้นะ สถานที่เที่ยวเยอะ และยังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์มากๆ ผู้คนน่ารัก อาหารไม่แพงและยังอร่อยอีกด้วยนะ จริงๆแล้วในความคิดเห็นของเราจะบอกว่าไม่มีคนมาเที่ยวเลยก็คงไม่ใช่หรอก เราว่ามีคนมาเที่ยวบ้างแหละแค่ไม่ได้มาเช่ามอเตอร์ไซค์ร้านพี่เขาเท่านั้นเอง
ตลอดเส้นทางที่ผ่านจะมีด่านค่อนข้างเยอะกว่าจังหวัดอื่นๆ เมื่อเห็นครั้งแรกก็ดูจะมีความรู้สึกแปลกๆไปสักหน่อย แต่เมื่อผ่านมาเยอะเข้า ก็เริ่มรู้สึกชินกับสิ่งที่เห็น ต้องบอกเลยว่าพี่ๆทหาร พี่ๆตำรวจ อาสาสมัครที่3จังหวัดชายแดนใต้นี้ทำหน้าที่อย่างหนักกว่าที่เคยเห็นมา ถ้าเผอิญผ่านมาเห็นโพสต์นี้ ก็ขอเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพี่ๆนะคะ
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 เราทุกคนต่างเก็บตัวอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนกัน ทางนี้ก็เช่นกัน พนักงานบริษัทอย่างเราก็อยู่บ้านจนเอียนต้นไม้เต็มบ้าน ฮาาา ไปป่าไม่ได้ก็ยกป่ามาไว้ในบ้านซะเลย ฝ่าเท้าเริ่มคันคิดถึงการเดินทาง เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นสามารถเดินทางได้แล้ว นี่จึงเป็นทริปแรกที่เราได้โดยสารเครื่องบินหลังจากที่ไม่ได้ไปไหนมาครึ่งปีเห็นจะได้
ก่อนเดินทางประมาณ20วัน เราทักไปถามพี่เราคนนึงว่า อยากไป3จังหวัดใต้อ่ะ(นี่พิมพ์ไปงั้นๆคิดว่าคงไม่ไปหรอก) แต่พวกตอบกลับมาว่า ไปกัน เดือนหน้า จัดมา ทำโปรแกรมเลย อ้าวเห้ย ง่ายจัง อิอิ หลอกมาได้แล้วเรา จนเวลาล่วงเลย ยังสรุปไม่ได้จะเดินทางยังไงจะรถไฟ เครื่องบิน หรือ ทั้งเครื่องบิน-รถไฟ
จนเราได้ทักไปคุยกับเพจ
Pattani ToDay ปัตตานี ทูเดย์ เพราะข้อมูลจังหวัดนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับเบตง เราอยากได้สถานที่เที่ยวของคนในพื้นที่ไปแบบยังไม่เป็นที่รู้จัก ก็สอบถามพูดคุยจนแอดมินถามว่าเดินทางยังไง เราก็ตอบไปว่าเครื่องลงหาดใหญ่ เช่ามอเตอร์ไซค์ เลาะไปเรื่อย แต่แอดมินเพจปัตตานีทักเรามาว่า หาดใหญ่-ปัตตานี100 km ปัตตานี-เบตง170 km หาดใหญ่-เบตง เกือบ300 km ไปกลับ600 km ไม่รวมลัดเลาะ โหดมาก พอเจอทักแบบนี้คิดเลยว่า เออหว่ะ
ทีนี้แอดมินเพจปัตตานีเลยแนะนำใหม่ว่าให้ขาไปลงหาดใหญ่ นั่งบัสที่สนามบิน มาลงขนส่งแล้วนั่งรถตู้มาลงปัตตานี และก็เลาะไปเป็นจังหวัด ขากลับก็กลับทางนราธิวาส เราเลยได้ข้อสรุปว่าก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องย้อนไปมาด้วย และก็ถือโอกาสถามที่เช่ามอไซค์ในปัตตานีเลย เพราะหาข้อมูลยากมาก แอดมินก็เลยให้มาและยังแนะนำที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ส่วนเราก็มีลิสต์ไว้บ้างแล้ว
ในตอนแรกแพลนว่าจะค้างปัตตานี2คืน มีคืนนึงเราอยากไปกะพ้อ เลยสอบถามแอดมินปัตตานีไปว่าเคยไปมั้ย มันก็ค่อนข้างไกล ได้คำตอบมาว่าสำหรับคนต่างถิ่น ถ้ามอเตอร์ไซต์ไม่แนะนำครับ ช่วงนี้ 2วันก่อน มีกระชากกระเป๋าของคนขี่มอเตอร์ไซต์ล้มหัวฟาดพื้น head injury เสียชีวิตครับ ถ้าเช่ารถยนต์ พอไหวครับ ไม่แนะนำให้ไปแหล่งไกลๆครับ สรุปคือเราก็ต้องรับฟังคนในพื้นที่ ความปลอดภัยต้องมาก่อนแค่แบกเป้ใบโตก็แปลกประหลาดเป็นเป้าแล้ว และแน่นอนว่าแอบแม่ไปด้วย แฮ่ะๆ ต้องเซฟตัวเองมากๆ
กว่าจะลงตัวเวลาก็ล่วงเลย ซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า4วันก่อนการเดินทาง ในเส้นทาง ดอนเมือง-หาดใหญ่ Thai lion air และ นราธิวาส-สุวรรณภูมิ Thai smile ราคาคนละ 3,166.35บาท
ทริปนี้เราเดินทางวันที่7-12สิงหาที่ผ่านมา 6วัน5คืน เวลาน้อยนิดกับการเดินทางไปใน3จังหวัดโดยไม่มีรถส่วนตัวนะคะ ใครสนใจก็ปักหมุดไว้เลย เราจะบอกวิธีการเดินทางที่เราเจอมาทั้งหมดไว้เป็นguidelineให้กับคนที่สนใจค่ะ
เช้าวันแรก 6-8-2020
เราบินflight6โมง เลือกเช้าสุดไปเลยจ้า จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะหน่อย แต่ปรากฎว่า เครื่องแลนไม่ได้ สภาพอากาศไม่ดี ทำให้เสียเวลาบินวนอยู่บนฟ้าเป็นชั่วโมง และแพลนในวันนี้ก็เปลี่ยนไปเกือบหมด อ๋อยยย แค่เริ่มก็...อ่ะๆเราจะไม่คิดในแง่ไม่ดี หลับต่อเลยสิคะเอาแรงค่ะ แต่ก็เหมือนจะหลับๆตื่นๆเพราะเสียงคุยด้านหลังเราดังเข้ามาในโสตประสาทตลอดเวลา คุยกันเก่งจังตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกจนลงเครื่อง2ชั่วโมงกว่าอ่ะแก ไม่หิวน้ำหรอ ((แซววว))
คำแนะนำสำหรับรถสาธารณะ
เราเคยมาหาดใหญ่แล้วครั้งนึง ถ้าจะเข้าเมือง พอเดินออกมาจากสนามบิน ให้หันขวาข้ามถนนมาจะมีรถสองแถวจอดอยู่สามารถขึ้นเข้าเมืองได้ ส่วนใครจะไปขนส่งหรือใดๆ ให้ขึ้นบัสจะจอดอยู่ด้านหน้าทางออกเลย ตามรูปที่เราถ่ายมาให้ดูค่ะ ส่วนเรามีรถที่รู้จักกับพี่เรามารับไปส่งที่ขนส่งให้ค่ะประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมงค่ะ
จะบอกว่าการเดินทางใน3จังหวัดชายแดนใต้สิ่งที่เป็นอุปสรรคมากที่สุดในทริปนี้ของเราคือ รถโดยสารในการเดินทางนี่แหละ มันหาข้อมูลยาก บางอย่างเดินทางเองถึงจะได้คำตอบ ซึ่งถ้าใครอยากไปแล้วเข้ามาเห็นโพสต์เรา หวังว่าจะช่วยได้บ้างนะคะ
เอาล่ะ เมื่อเราเดินทางมาถึงขนส่งแล้ว เราก็เดินหารถตู้ที่จะไปปัตตานี คิวจะจอดอยู่ช่อง25 คนละ120บาท ในรถตู้ก็ยังsocial distancingอยู่นะคะ ไม่ได้เบียดทุกที่นั่ง จากขนส่งไปปัตตานีร้อยกว่าโล แวะจอดตามจุดที่คนลงด้วยกว่าจะมาส่งเราที่หน้าร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ก็ราวๆ2ชั่วโมงกว่าจะถึง บอกรถตู้ว่าจะลงสายมอค่ะ
และนี่คือร้านที่เราเช่ามอเตอร์ไซค์ ได้คำแนะนำมาจากแอดมินเพจปัตตานี ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะ สำหรับคำแนะนำและร้านเช่ารถค่ะ ร้านเช่าจะอยู่ใกล้กับวงเวียนหอนาฬิกา เข้าซอยที่มีร้านแว่นท็อปเจริญไปนิดเดียวจะเห็นร้านขายเสื้อผ้าร้านนั้นแหละค่ะ ส่วนเบอร์ติดต่อตามรูปเลยค่ะ เขาอาจจะถามเราเยอะขอข้อมูลเราเยอะหน่อยนะคะก็อย่างที่เราๆรู้กันนั่นแหละว่าทำไมถึงถามเยอะเนอะ ค่าเช่าวันละ200บาท เติมน้ำมันคืนก็มาเติมที่ปั้มใกล้วงเวียนได้เลย
ระหว่างทำการเช่าก็มีพูดคุยกัน พี่คนที่ให้เช่ารถเขาก็ได้พูดอย่างที่เราเกริ่นไปตอนต้นว่า
คนที่ตั้งใจมาเที่ยวจริงๆคือน้อยมากในรอบ10ปีก็เพิ่งมีนี่แหละที่เป็นนักท่องเที่ยว จุกๆเหมือนกันแฮ่ะ ทำไมประเทศไทยมาถึงจุดๆนี้ พี่เขายังเล่าต่ออีกว่าสมัยก่อนคนมาเที่ยวกันเยอะมาก มีรถบัสมาลงตลอด แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ด้วยข่าวต่างๆที่สื่อออกไป ทำให้สถานการณ์เปลี่ยน นักท่องเที่ยวหาย แต่คนพื้นที่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ จริงๆมาเที่ยวได้ไม่น่ากลัวหรอก (จากที่เราไปมา ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันปกตินะ แค่มีด่านเยอะ ผู้คนก็คงเห็นเป็นส่วนนึงของชีวิตไปแล้วนั่นแหละ เราไม่อาจแนะนำใครได้ว่าเฮ้ยย มาได้ไม่อันตราย ก็ไม่ใช่ เพราะอันตรายมันเกิดได้ทุกที่ที่เราประมาท การมาเยือนที่แห่งนี้มันทำให้เราใช้ชีวิตในแต่ละที่อย่างระมัดระวังมากเป็นพิเศษ และเชื่อฟังคำแนะนำของคนท้องถิ่น ตรงไหนดูน่ากลัวเกินไปสำหรับคนนอกอย่างเรา หรือการจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปในที่เปลี่ยว ห่างไกลเมืองเกินไปเราก็คงไม่หาทำ)
และเนื่องจากเราจะขี่รถออกไปเที่ยวก่อนเข้าที่พัก แต่ก็ไม่อยากแบกเป้ตะลอนไปด้วย ไม่อยากเป็นจุดสนใจ เพราะจากที่ฟังเรื่องคนโดนกระชากกระเป๋าจากแอดมินเพจปัตตานีแล้วก็แอบหวั่นอยู่เหมือนกัน เป้หนักๆโดนดึงไปมีเซร่วงแน่นอน(ไม่รู้เราคิดเยอะเกินไปรึเปล่า แต่มันก็ต้องระแวดระวังไว้ก่อน) พี่ที่ให้เช่ารถได้ยินเราคุยกันเลยบอกให้ฝากไว้ก่อน ยังไงที่ที่เราไปก็ต้องกลับมาทางนี้ ได้ยินแบบนี้ก็โอเคเลย
สถานที่แรกมาไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนกับที่นี่
วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม อยู่ห่างจากเมือง30กว่ากม. เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมากว่า 300 ปี ซึ่งหลวงปู่ทวดเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและอัฐิของท่านก็ถูกบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้อีกด้วย วัดช้างให้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของจังหวัดปัตตานี มีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบสักการะหลวงปู่ทวดอย่างไม่ขาดสายเลยแหละ และวัดนี้ก็ตั้งอยู่ริมทางรถไฟสถานีวัดช้างให้ เผื่อใครอยากมารถไฟก็ลงสถานีนี้ได้เลยจ้า
และถ้าใครมาเส้นนี้แล้วจะมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงนั่นก็คือน้ำตกทรายขาว ทางขึ้นก็จะเขาๆหน่อย รถที่เช่ามาแรงไม่ถึงเลยไม่ได้แวะไปค่ะ
ถนนอาเนาะรู Street Art ปัตตานีทั้งเส้น สายนี้ต้องเลิฟ จอดรถไว้แล้วเดินเล่นได้เลย ย่านนี้จะออกแนวแบบชุมชนเชื้อสายจีนๆหน่อยอาจเพราะบริเวณนี้มีศาลเจ้าก็เป็นได้
ใกล้ๆกันนี้ จะมี
ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่เป็นที่นับถือและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดปัตตานีและใกล้เคียง
เปิดให้สักการะทุกวัน ตั้งแต่ 05.30 -17.30น.ค่ะ
มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี สร้างเป็นตึกคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้น รูปทรงคล้ายกับ “ทัชมาฮาล” ประเทศอินเดีย เป็นศาสนาสถานศูนย์รวมแห่งจิตใจและความเชื่อของชาวไทยมุสลิมในเขตจังหวัดปัตตานี และพื้นที่ใกล้เคียง ใครมาถึงปัตตานีแล้วก็ควรมาชมความงามของสถาปัตยกรรมที่มัสยิดแห่งนี้ดูสักครั้งค่ะ
หลังจากตะเวนมาเป็นที่น่าพอใจในเวลาที่จำกัดแล้ว ก็ไปแวะเอาเป้ที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ เพื่อจะไปยังที่พักของเราในวันนี้ ระหว่างทางจะผ่าน
มัสยิดกรือเซะ เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ลักษณะการก่อสร้างมัสยิดแห่งนี้เป็นแบบเสากลมก่ออิฐถือปูนแบบศิลปะทางตะวันออกกลาง บริเวณใกล้เคียงนั้นมีฮวงซุ้ยหรือที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวอยู่ติดกันเลยค่ะ ตอนไปถึงฝนก็ทำท่าจะตกแต่ก็ขอแวะหน่อย ก่อนจะขึ้นไปบนมัสยิดก็ถามคนแถวนั้นว่าขึ้นไปได้มั้ย เขาก็อนุญาตให้ขึ้นแต่เราไม่ได้เข้าไปด้านใน น่าจะไม่เหมาะ ก็เลยอยู่แค่ชานรอบๆ เสร็จแล้วก็จะไปเก็บภาพด้านหน้า ยังไม่ทันจะได้ถ่าย ก็มีเสียงแว่วมา
*พี่คะถ่ายรูปให้หน่อย เสียงหญิงสาวสำเนียงใต้เอ่ยขึ้น
*ได้ค่ะ งั้นพี่ขอถ่ายรูปน้องๆด้วยใบนึงนะคะ
*ทุกคนยิ้มรับแทนคำยินดี
ที่พักคืนแรก เราพักที่
Forest beach resort ห่างจากวงเวียนหอนาฬิกา ที่เราเช่ารถเกือบ40กม. เป็นที่พักติดหาดตะโล๊ะสะมีแล สไตล์ที่พักจะ feel like Maldives , Baliเลยค่ะ ของจริงไปตอนนี้ไม่ได้เอาจินตนาการเข้าสู้ ฮาา ที่นี่มีเรือให้เช่าพายด้วย ครึ่งชั่วโมง150บาท แต่ไม่ได้กินเงินเราเพราะไม่มีเวลาแล้ววว จัดการเก็บกระเป๋าเข้าห้อง เปลี่ยนชุดพร้อมออกมาถ่ายรูปหน้าหาด5แช๊ะ ไม่ทันได้เปลี่ยนชุดกลับ ต้องรีบแว้นต่อให้ทันแสงเย็น วันนี้เราจะจบทริปชมพระอาทิตย์ตกกันที่สุดปลายแหลมตาชี ใส่ชุดนี้เดินไปไหนคนก็มองไอเราก็นึกว่าสวย อ่อเปล่าหรอก มันประหลาดกว่าชาวบ้าน อ๋อยย - -"
สำหรับราคาห้อง ถ้าติดหาด1,500บาท ไม่ติดหาด1,300บาทพักได้5คน ห้องใหญ่2,300บาทพักได้8คน
***ห้องนึงพักได้หลายคนก็จริงแต่มีเตียง6ฟุตเตียงเดียวน๊า ยกเว้นห้องใหญ่มีที่นอนเสริม2ชุด
[CR] หลังรั้วหนามสามชายแดนใต้ ตอน 1วัน1คืนกับจุดเช็คอินปัตตานีแลนด์ที่แสนประทับใจ
คนที่ตั้งใจมาเที่ยวจริงๆคือน้อยมากในรอบ10ปีก็เพิ่งมีนี่แหละที่เป็นนักท่องเที่ยว ประโยคสั้นๆจากร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ปัตตานี มันAttack feeling เข้าไปถึงใจ มีคำถามมากมายเกิดขึ้นทันทีตีกันไปหมด ก่อนเริ่มเรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ขอทักทายทุกคนก่อนว่า อัสลามมุอะลัยกุม(สวัสดีค่ะ มาถึงถิ่นก็ต้องขออนุญาตทักทายในแบบภาษาอาหรับของชาวไทย-มุสลิมกันสักหน่อย)
จากสื่อต่างๆที่นำเสนอข่าวที่เราๆก็คงทราบกันดี เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในมุมของคนที่อยู่นอกพื้นที่อย่างเรา น้อยคนที่อยากจะมาเยือนในจังหวัดที่มองจากภายนอกแล้ว พูดง่ายๆเลยก็คือน่ากลัวอ่ะแหละ แต่คนในพื้นที่จริงๆเขาต่างก็ใช้ชีวิตกันปกติดี ถ้าไม่มาเห็นด้วยตัวเองก็คงไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้ว3จังหวัดชายแดนใต้ มาได้นะ สถานที่เที่ยวเยอะ และยังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์มากๆ ผู้คนน่ารัก อาหารไม่แพงและยังอร่อยอีกด้วยนะ จริงๆแล้วในความคิดเห็นของเราจะบอกว่าไม่มีคนมาเที่ยวเลยก็คงไม่ใช่หรอก เราว่ามีคนมาเที่ยวบ้างแหละแค่ไม่ได้มาเช่ามอเตอร์ไซค์ร้านพี่เขาเท่านั้นเอง
ตลอดเส้นทางที่ผ่านจะมีด่านค่อนข้างเยอะกว่าจังหวัดอื่นๆ เมื่อเห็นครั้งแรกก็ดูจะมีความรู้สึกแปลกๆไปสักหน่อย แต่เมื่อผ่านมาเยอะเข้า ก็เริ่มรู้สึกชินกับสิ่งที่เห็น ต้องบอกเลยว่าพี่ๆทหาร พี่ๆตำรวจ อาสาสมัครที่3จังหวัดชายแดนใต้นี้ทำหน้าที่อย่างหนักกว่าที่เคยเห็นมา ถ้าเผอิญผ่านมาเห็นโพสต์นี้ ก็ขอเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของพี่ๆนะคะ
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 เราทุกคนต่างเก็บตัวอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนกัน ทางนี้ก็เช่นกัน พนักงานบริษัทอย่างเราก็อยู่บ้านจนเอียนต้นไม้เต็มบ้าน ฮาาา ไปป่าไม่ได้ก็ยกป่ามาไว้ในบ้านซะเลย ฝ่าเท้าเริ่มคันคิดถึงการเดินทาง เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้นสามารถเดินทางได้แล้ว นี่จึงเป็นทริปแรกที่เราได้โดยสารเครื่องบินหลังจากที่ไม่ได้ไปไหนมาครึ่งปีเห็นจะได้
ก่อนเดินทางประมาณ20วัน เราทักไปถามพี่เราคนนึงว่า อยากไป3จังหวัดใต้อ่ะ(นี่พิมพ์ไปงั้นๆคิดว่าคงไม่ไปหรอก) แต่พวกตอบกลับมาว่า ไปกัน เดือนหน้า จัดมา ทำโปรแกรมเลย อ้าวเห้ย ง่ายจัง อิอิ หลอกมาได้แล้วเรา จนเวลาล่วงเลย ยังสรุปไม่ได้จะเดินทางยังไงจะรถไฟ เครื่องบิน หรือ ทั้งเครื่องบิน-รถไฟ
จนเราได้ทักไปคุยกับเพจ Pattani ToDay ปัตตานี ทูเดย์ เพราะข้อมูลจังหวัดนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับเบตง เราอยากได้สถานที่เที่ยวของคนในพื้นที่ไปแบบยังไม่เป็นที่รู้จัก ก็สอบถามพูดคุยจนแอดมินถามว่าเดินทางยังไง เราก็ตอบไปว่าเครื่องลงหาดใหญ่ เช่ามอเตอร์ไซค์ เลาะไปเรื่อย แต่แอดมินเพจปัตตานีทักเรามาว่า หาดใหญ่-ปัตตานี100 km ปัตตานี-เบตง170 km หาดใหญ่-เบตง เกือบ300 km ไปกลับ600 km ไม่รวมลัดเลาะ โหดมาก พอเจอทักแบบนี้คิดเลยว่า เออหว่ะ
ทีนี้แอดมินเพจปัตตานีเลยแนะนำใหม่ว่าให้ขาไปลงหาดใหญ่ นั่งบัสที่สนามบิน มาลงขนส่งแล้วนั่งรถตู้มาลงปัตตานี และก็เลาะไปเป็นจังหวัด ขากลับก็กลับทางนราธิวาส เราเลยได้ข้อสรุปว่าก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องย้อนไปมาด้วย และก็ถือโอกาสถามที่เช่ามอไซค์ในปัตตานีเลย เพราะหาข้อมูลยากมาก แอดมินก็เลยให้มาและยังแนะนำที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ส่วนเราก็มีลิสต์ไว้บ้างแล้ว
ในตอนแรกแพลนว่าจะค้างปัตตานี2คืน มีคืนนึงเราอยากไปกะพ้อ เลยสอบถามแอดมินปัตตานีไปว่าเคยไปมั้ย มันก็ค่อนข้างไกล ได้คำตอบมาว่าสำหรับคนต่างถิ่น ถ้ามอเตอร์ไซต์ไม่แนะนำครับ ช่วงนี้ 2วันก่อน มีกระชากกระเป๋าของคนขี่มอเตอร์ไซต์ล้มหัวฟาดพื้น head injury เสียชีวิตครับ ถ้าเช่ารถยนต์ พอไหวครับ ไม่แนะนำให้ไปแหล่งไกลๆครับ สรุปคือเราก็ต้องรับฟังคนในพื้นที่ ความปลอดภัยต้องมาก่อนแค่แบกเป้ใบโตก็แปลกประหลาดเป็นเป้าแล้ว และแน่นอนว่าแอบแม่ไปด้วย แฮ่ะๆ ต้องเซฟตัวเองมากๆ
กว่าจะลงตัวเวลาก็ล่วงเลย ซื้อตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า4วันก่อนการเดินทาง ในเส้นทาง ดอนเมือง-หาดใหญ่ Thai lion air และ นราธิวาส-สุวรรณภูมิ Thai smile ราคาคนละ 3,166.35บาท
ทริปนี้เราเดินทางวันที่7-12สิงหาที่ผ่านมา 6วัน5คืน เวลาน้อยนิดกับการเดินทางไปใน3จังหวัดโดยไม่มีรถส่วนตัวนะคะ ใครสนใจก็ปักหมุดไว้เลย เราจะบอกวิธีการเดินทางที่เราเจอมาทั้งหมดไว้เป็นguidelineให้กับคนที่สนใจค่ะ
เช้าวันแรก 6-8-2020
เราบินflight6โมง เลือกเช้าสุดไปเลยจ้า จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะหน่อย แต่ปรากฎว่า เครื่องแลนไม่ได้ สภาพอากาศไม่ดี ทำให้เสียเวลาบินวนอยู่บนฟ้าเป็นชั่วโมง และแพลนในวันนี้ก็เปลี่ยนไปเกือบหมด อ๋อยยย แค่เริ่มก็...อ่ะๆเราจะไม่คิดในแง่ไม่ดี หลับต่อเลยสิคะเอาแรงค่ะ แต่ก็เหมือนจะหลับๆตื่นๆเพราะเสียงคุยด้านหลังเราดังเข้ามาในโสตประสาทตลอดเวลา คุยกันเก่งจังตั้งแต่เครื่องยังไม่ออกจนลงเครื่อง2ชั่วโมงกว่าอ่ะแก ไม่หิวน้ำหรอ ((แซววว))
คำแนะนำสำหรับรถสาธารณะ
เราเคยมาหาดใหญ่แล้วครั้งนึง ถ้าจะเข้าเมือง พอเดินออกมาจากสนามบิน ให้หันขวาข้ามถนนมาจะมีรถสองแถวจอดอยู่สามารถขึ้นเข้าเมืองได้ ส่วนใครจะไปขนส่งหรือใดๆ ให้ขึ้นบัสจะจอดอยู่ด้านหน้าทางออกเลย ตามรูปที่เราถ่ายมาให้ดูค่ะ ส่วนเรามีรถที่รู้จักกับพี่เรามารับไปส่งที่ขนส่งให้ค่ะประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมงค่ะ
จะบอกว่าการเดินทางใน3จังหวัดชายแดนใต้สิ่งที่เป็นอุปสรรคมากที่สุดในทริปนี้ของเราคือ รถโดยสารในการเดินทางนี่แหละ มันหาข้อมูลยาก บางอย่างเดินทางเองถึงจะได้คำตอบ ซึ่งถ้าใครอยากไปแล้วเข้ามาเห็นโพสต์เรา หวังว่าจะช่วยได้บ้างนะคะ
เอาล่ะ เมื่อเราเดินทางมาถึงขนส่งแล้ว เราก็เดินหารถตู้ที่จะไปปัตตานี คิวจะจอดอยู่ช่อง25 คนละ120บาท ในรถตู้ก็ยังsocial distancingอยู่นะคะ ไม่ได้เบียดทุกที่นั่ง จากขนส่งไปปัตตานีร้อยกว่าโล แวะจอดตามจุดที่คนลงด้วยกว่าจะมาส่งเราที่หน้าร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ก็ราวๆ2ชั่วโมงกว่าจะถึง บอกรถตู้ว่าจะลงสายมอค่ะ
และนี่คือร้านที่เราเช่ามอเตอร์ไซค์ ได้คำแนะนำมาจากแอดมินเพจปัตตานี ต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะ สำหรับคำแนะนำและร้านเช่ารถค่ะ ร้านเช่าจะอยู่ใกล้กับวงเวียนหอนาฬิกา เข้าซอยที่มีร้านแว่นท็อปเจริญไปนิดเดียวจะเห็นร้านขายเสื้อผ้าร้านนั้นแหละค่ะ ส่วนเบอร์ติดต่อตามรูปเลยค่ะ เขาอาจจะถามเราเยอะขอข้อมูลเราเยอะหน่อยนะคะก็อย่างที่เราๆรู้กันนั่นแหละว่าทำไมถึงถามเยอะเนอะ ค่าเช่าวันละ200บาท เติมน้ำมันคืนก็มาเติมที่ปั้มใกล้วงเวียนได้เลย
ระหว่างทำการเช่าก็มีพูดคุยกัน พี่คนที่ให้เช่ารถเขาก็ได้พูดอย่างที่เราเกริ่นไปตอนต้นว่า คนที่ตั้งใจมาเที่ยวจริงๆคือน้อยมากในรอบ10ปีก็เพิ่งมีนี่แหละที่เป็นนักท่องเที่ยว จุกๆเหมือนกันแฮ่ะ ทำไมประเทศไทยมาถึงจุดๆนี้ พี่เขายังเล่าต่ออีกว่าสมัยก่อนคนมาเที่ยวกันเยอะมาก มีรถบัสมาลงตลอด แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ด้วยข่าวต่างๆที่สื่อออกไป ทำให้สถานการณ์เปลี่ยน นักท่องเที่ยวหาย แต่คนพื้นที่ก็ยังใช้ชีวิตปกติ จริงๆมาเที่ยวได้ไม่น่ากลัวหรอก (จากที่เราไปมา ทุกคนก็ใช้ชีวิตกันปกตินะ แค่มีด่านเยอะ ผู้คนก็คงเห็นเป็นส่วนนึงของชีวิตไปแล้วนั่นแหละ เราไม่อาจแนะนำใครได้ว่าเฮ้ยย มาได้ไม่อันตราย ก็ไม่ใช่ เพราะอันตรายมันเกิดได้ทุกที่ที่เราประมาท การมาเยือนที่แห่งนี้มันทำให้เราใช้ชีวิตในแต่ละที่อย่างระมัดระวังมากเป็นพิเศษ และเชื่อฟังคำแนะนำของคนท้องถิ่น ตรงไหนดูน่ากลัวเกินไปสำหรับคนนอกอย่างเรา หรือการจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปในที่เปลี่ยว ห่างไกลเมืองเกินไปเราก็คงไม่หาทำ)
และเนื่องจากเราจะขี่รถออกไปเที่ยวก่อนเข้าที่พัก แต่ก็ไม่อยากแบกเป้ตะลอนไปด้วย ไม่อยากเป็นจุดสนใจ เพราะจากที่ฟังเรื่องคนโดนกระชากกระเป๋าจากแอดมินเพจปัตตานีแล้วก็แอบหวั่นอยู่เหมือนกัน เป้หนักๆโดนดึงไปมีเซร่วงแน่นอน(ไม่รู้เราคิดเยอะเกินไปรึเปล่า แต่มันก็ต้องระแวดระวังไว้ก่อน) พี่ที่ให้เช่ารถได้ยินเราคุยกันเลยบอกให้ฝากไว้ก่อน ยังไงที่ที่เราไปก็ต้องกลับมาทางนี้ ได้ยินแบบนี้ก็โอเคเลย
สถานที่แรกมาไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนกับที่นี่ วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม อยู่ห่างจากเมือง30กว่ากม. เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมากว่า 300 ปี ซึ่งหลวงปู่ทวดเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและอัฐิของท่านก็ถูกบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้อีกด้วย วัดช้างให้จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของจังหวัดปัตตานี มีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบสักการะหลวงปู่ทวดอย่างไม่ขาดสายเลยแหละ และวัดนี้ก็ตั้งอยู่ริมทางรถไฟสถานีวัดช้างให้ เผื่อใครอยากมารถไฟก็ลงสถานีนี้ได้เลยจ้า
และถ้าใครมาเส้นนี้แล้วจะมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงนั่นก็คือน้ำตกทรายขาว ทางขึ้นก็จะเขาๆหน่อย รถที่เช่ามาแรงไม่ถึงเลยไม่ได้แวะไปค่ะ
ถนนอาเนาะรู Street Art ปัตตานีทั้งเส้น สายนี้ต้องเลิฟ จอดรถไว้แล้วเดินเล่นได้เลย ย่านนี้จะออกแนวแบบชุมชนเชื้อสายจีนๆหน่อยอาจเพราะบริเวณนี้มีศาลเจ้าก็เป็นได้
ใกล้ๆกันนี้ จะมี ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่เป็นที่นับถือและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดปัตตานีและใกล้เคียง
เปิดให้สักการะทุกวัน ตั้งแต่ 05.30 -17.30น.ค่ะ
มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี สร้างเป็นตึกคอนกรีตเสริมเหล็กสองชั้น รูปทรงคล้ายกับ “ทัชมาฮาล” ประเทศอินเดีย เป็นศาสนาสถานศูนย์รวมแห่งจิตใจและความเชื่อของชาวไทยมุสลิมในเขตจังหวัดปัตตานี และพื้นที่ใกล้เคียง ใครมาถึงปัตตานีแล้วก็ควรมาชมความงามของสถาปัตยกรรมที่มัสยิดแห่งนี้ดูสักครั้งค่ะ
หลังจากตะเวนมาเป็นที่น่าพอใจในเวลาที่จำกัดแล้ว ก็ไปแวะเอาเป้ที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ เพื่อจะไปยังที่พักของเราในวันนี้ ระหว่างทางจะผ่าน มัสยิดกรือเซะ เป็นมัสยิดเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ลักษณะการก่อสร้างมัสยิดแห่งนี้เป็นแบบเสากลมก่ออิฐถือปูนแบบศิลปะทางตะวันออกกลาง บริเวณใกล้เคียงนั้นมีฮวงซุ้ยหรือที่ฝังศพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวอยู่ติดกันเลยค่ะ ตอนไปถึงฝนก็ทำท่าจะตกแต่ก็ขอแวะหน่อย ก่อนจะขึ้นไปบนมัสยิดก็ถามคนแถวนั้นว่าขึ้นไปได้มั้ย เขาก็อนุญาตให้ขึ้นแต่เราไม่ได้เข้าไปด้านใน น่าจะไม่เหมาะ ก็เลยอยู่แค่ชานรอบๆ เสร็จแล้วก็จะไปเก็บภาพด้านหน้า ยังไม่ทันจะได้ถ่าย ก็มีเสียงแว่วมา
*พี่คะถ่ายรูปให้หน่อย เสียงหญิงสาวสำเนียงใต้เอ่ยขึ้น
*ได้ค่ะ งั้นพี่ขอถ่ายรูปน้องๆด้วยใบนึงนะคะ
*ทุกคนยิ้มรับแทนคำยินดี
ที่พักคืนแรก เราพักที่ Forest beach resort ห่างจากวงเวียนหอนาฬิกา ที่เราเช่ารถเกือบ40กม. เป็นที่พักติดหาดตะโล๊ะสะมีแล สไตล์ที่พักจะ feel like Maldives , Baliเลยค่ะ ของจริงไปตอนนี้ไม่ได้เอาจินตนาการเข้าสู้ ฮาา ที่นี่มีเรือให้เช่าพายด้วย ครึ่งชั่วโมง150บาท แต่ไม่ได้กินเงินเราเพราะไม่มีเวลาแล้ววว จัดการเก็บกระเป๋าเข้าห้อง เปลี่ยนชุดพร้อมออกมาถ่ายรูปหน้าหาด5แช๊ะ ไม่ทันได้เปลี่ยนชุดกลับ ต้องรีบแว้นต่อให้ทันแสงเย็น วันนี้เราจะจบทริปชมพระอาทิตย์ตกกันที่สุดปลายแหลมตาชี ใส่ชุดนี้เดินไปไหนคนก็มองไอเราก็นึกว่าสวย อ่อเปล่าหรอก มันประหลาดกว่าชาวบ้าน อ๋อยย - -"
สำหรับราคาห้อง ถ้าติดหาด1,500บาท ไม่ติดหาด1,300บาทพักได้5คน ห้องใหญ่2,300บาทพักได้8คน
***ห้องนึงพักได้หลายคนก็จริงแต่มีเตียง6ฟุตเตียงเดียวน๊า ยกเว้นห้องใหญ่มีที่นอนเสริม2ชุด
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้